Tuesday, August 30, 2022

วัตตขันธกะ : สัทธิวิหาริกวัตร

 

คำตรัสจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า

เรื่อง วัตตขันธกะ : สัทธิวิหาริกวัตร
 



สัทธิวิหาริกวัตร  * * * ( 1 ) 


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 440 )  


       ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล เราจักบัญญัติ สัทธิวิหาริกวัตร แก่ อุปัชฌายะ /////  ทั้งหลาย โดยประการที่อุปัชฌายะทั้งหลายพึงประพฤติชอบใน สัทธิวิหาริก /////



( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 441 )  


       ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุปัชฌายะพึงประพฤติชอบในสัทธิวิหาริก 

       วิธีประพฤติชอบในสัทธิวิหาริกนั้น ดังต่อไปนี้ 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุปัชฌายะพึงสงเคราะห์ อนุเคราะห์สัทธิวิหาริกด้วย อุเทศ /////  ปริปุจฉา /////  โอวาท อนุศาสนี /////  

       ถ้าอุปัชฌายะมีบาตร สัทธิวิหาริกไม่มี อุปัชฌายะพึงให้แก่สัทธิวิหาริก หรือพึงทำความขวนขวายว่า ด้วยอุบายอย่างไรหนอ บาตรพึงบังเกิดแก่สัทธิวิหาริก  

       ถ้าอุปัชฌายะมีจีวร สัทธิวิหาริกไม่มี อุปัชฌายะพึงให้แก่สัทธิวิหาริก หรือพึงทำความขวนขวายว่า ด้วยอุบายอย่างไรหนอ จีวรพึงบังเกิดแก่สัทธิวิหาริก 

       ถ้าอุปัชฌายะมี บริขาร /////  สัทธิวิหาริกไม่มี อุปัชฌายะพึงให้แก่สัทธิวิหาริก หรือพึงทำความขวนขวายว่า ด้วยอุบายอย่างไรหนอ บริขารพึงบังเกิดแก่สัทธิวิหาริก 

       ถ้าสัทธิวิหาริกอาพาธ อุปัชฌายะพึงลุกแต่เช้าตรู่แล้วให้ไม้ชำระฟัน ให้นำล้างหน้า ปู อาสนะ ///// 

       ถ้า ยาคู ///// มีพึงล้างภาชนะเสียก่อน แล้วนำยาคูเข้าไปให้  

       เมื่อสัทธิวิหาริกดื่มยาคูแล้ว พึงให้น้ำ 

       รับภาชนะมา ถือต่ำๆ ล้างให้เรียบร้อย อย่าให้กระทบแล้วเก็บไว้ 

       เมื่อสัทธิวิหาริกลุกแล้ว พึงเก็บอาสนะ  


       ถ้าที่นั้นรก พึงกวาดที่นั้นเสีย 


       ถ้าสัทธิวิหาริกประสงค์จะเข้าบ้าน พึงให้ผ้านุ่ง พึงรับผ้านุ่งผลัดมา พึงให้ ประคดเอว /////  พึงซ้อนผ้าห่ม 2 ชั้นให้ 

       พึงล้างบาตรให้พร้อมทั้งน้ำ 

       พึงปูอาสนะไว้ด้วยคิดว่า เพียงเวลาเท่านี้ สัทธิวิหาริกจักกลับมา 

       พึงวางน้ำล้างเท้า  ตั่ง รองเท้า ///// กระเบื้องเช็ดเท้าไว้ใกล้ๆ 


       พึงลุกรับบาตรจีวร พึงให้ผ้านุ่งผลัด พึงรับผ้านุ่งมา 

       ถ้าจีวรชุ่มเหงื่อพึงผึ่งที่แดดสักครู่หนึ่ง แต่อย่าผึ่งทิ้งไว้ที่แดด  

       พึงพับจีวร เมื่อพับจีวรพึงพับให้เหลื่อมมุมกัน 4 นิ้ว ด้วยตั้งใจ 

       มิให้มีรอยพับตรงกลาง พึงสอดประคดเอวไว้ในขนดจีวร  


       ถ้าบิณฑบาตมี และสัทธิวิหาริกก็ประสงค์จะฉัน พึงให้น้ำแล้วนำบิณฑบาตเข้าไป พึงถามสัทธิวิหาริกถึงน้ำฉัน 

       เมื่อสัทธิวิหาริกฉันแล้ว พึงให้น้ำ รับบาตรมา ถือต่ำๆ ล้างให้ดี อย่าให้ครูดสี เช็ดให้หมดน้ำ ผึ่งไว้ที่แดดสักครู่หนึ่ง แต่อย่าผึ่งทิ้งไว้ที่แดด 


       พึงเก็บบาตร จีวร เมื่อเก็บบาตร พึงเอามือข้างหนึ่งจับบาตร เอามือข้างหนึ่งลูบคลำใต้เตียง หรือใต้ตั่งแล้วเก็บบาตร แต่อย่าเก็บบาตรไว้บนพื้นที่ปราศจากเครื่องรอง  


       เมื่อเก็บจีวรพึงเอามือข้างหนึ่งถือจีวร เอามือข้างหนึ่งลูบราวจีวร หรือ สายระเดียง /////  แล้วทำชายไว้ข้างนอก ขนดไว้ข้างใน แล้วเก็บ 


       เมื่อสัทธิวิหาริกลุกแล้ว พึงเก็บอาสนะ น้ำล้างเท้า ตั่งรองเท้า กระเบื้องเช็ดเท้า  

       ถ้าที่นั้นรกพึงกวาดที่นั้นเสีย 


       ถ้าสัทธิวิหาริกใคร่จะสรงน้ำ พึงจัดน้ำสรงให้ 

       ถ้าต้องการน้ำเย็นพึงจัดน้ำเย็นให้ 

       ถ้าต้องการน้ำร้อนพึงจัดน้ำร้อนให้ 


       ถ้าสัทธิวิหาริกจะใคร่เข้าเรือนไฟ พึง บดจุณ /////  แช่ดิน ถือ ตั่ง /////  สำหรับเรือนไฟไปให้ แล้วรับจีวรมาวางไว้ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง 

       พึงให้จุณ ให้ดิน 

       ถ้าอุตสาหะอยู่พึงเข้าเรือนไฟ 

       เมื่อเข้าเรือนไฟพึงเอาดินทาหน้า ปิดทั้งข้างหน้าทั้งข้างหลัง แล้วเข้าเรือนไฟ  


       อย่านั่งเบียดภิกษุผู้ เถระ ///// 

       อย่า เกียดกัน ///// อาสนะภิกษุใหม่  


       พึงทำบริกรรมแก่สัทธิวิหาริกในเรือนไฟ เมื่อเข้าเรือนไฟ 


       เมื่อออกจากเรือนไฟพึงถือตั่งสำหรับเรือนไฟแล้วปิดทั้งข้างหน้าและข้างหลังออกจากเรือนไฟ 


       พึงทำบริกรรมแก่สัทธิวิหาริกแม้ในน้ำ 

       อาบเสร็จแล้วพึงขึ้นมาก่อนทำตัวของตนให้แห้งน้ำ นุ่งผ้า แล้วพึงเช็ดน้ำจากตัวสัทธิวิหาริก พึงให้ผ้านุ่ง ผ้าสังฆาฏิ  

       ถือตั่งสำหรับเรือนไฟมาก่อน แล้วปูอาสนะไว้ จัดตั้งน้ำล้างเท้า ตั่งรองเท้า กระเบื้องเช็ดเท้าไว้ใกล้ๆ พึงถามสัทธิวิหาริกด้วยน้ำฉัน 


       สัทธิวิหาริกอยู่ในวิหารแห่งใด ถ้าวิหารแห่งนั้นรก ถ้าอุปัชฌายะอุตสาหะอยู่ พึงปัดกวาดให้สะอาด

       เมื่อปัดกวาดวิหาร 

       พึงขนบาตร จีวรออกก่อน แล้ววางไว้ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง


       … ถ้าน้ำในหม้อชำระไม่มี พึงตักมาไว้ในหม้อชำระ 


       ถ้าความกระสันบังเกิดแก่สัทธิวิหาริก อุปัชฌายะพึงระงับ หรือพึงวานภิกษุอื่นให้ช่วยระงับ หรือพึงแสดง ธรรมกถา /////  แก่สัทธิวิหาริกนั้น


       ถ้าความรำคาญบังเกิดแก่สัทธิวิหาริก อุปัชฌายะพึงบรรเทา หรือพึงวานภิกษุอื่นให้ช่วยบรรเทา หรือพึงแสดงธรรมกถาแก่สัทธิวิหาริกนั้น  

       ถ้าทิฐิบังเกิดแก่สัทธิวิหาริก อุปัชฌายะพึงให้สละเสีย หรือพึงวานภิกษุอื่นให้ช่วย หรือพึงแสดงธรรมกถาแก่สัทธิวิหาริกนั้น 

       ถ้าสัทธิวิหาริกต้อง อาบัติหนัก /////  ควรแก่ ปริวาส /////  อุปัชฌายะพึงทำความขวนขวายว่า ด้วยอุบายอย่างไรหนอ สงฆ์พึงให้ปริวาสแก่สัทธิวิหาริก 

       ถ้าสัทธิวิหาริก ควรแก่การชักเข้าหาอาบัติเดิม อุปัชฌายะพึงทำความขวนขวายว่า ด้วยอุบายอย่างไรหนอ สงฆ์พึงชักสัทธิวิหาริกเข้าหาอาบัติเดิม 

       ถ้าสัทธิวิหาริกควรแก่ มานัด /////  อุปัชฌายะพึงทำความขวนขวายว่า ด้วยอุบายอย่างไรหนอ สงฆ์พึงให้มานัตแก่สัทธิวิหาริก 

       ถ้าสัทธิวิหาริกควร อัพภาน /////  อุปัชฌายะพึงทำความขวนขวายว่า ด้วยอุบายอย่างไรหนอ สงฆ์พึงอัพภานสัทธิวิหาริก  


       ถ้าสงฆ์ใคร่จะทำกรรมแก่สัทธิวิหาริก คือ ตัชชนียกรรม /////  นิยสกรรม /////  ปัพพาชนียกรรม /////  ปฏิสารณียกรรม /////  หรือ อุกเขปนียกรรม /////  อุปัชฌายะพึงทำความขวนขวายว่า ด้วยอุบายอย่างไรหนอ สงฆ์ไม่พึงทำกรรมแก่สัทธิวิหาริก หรือสงฆ์พึงน้อมไปเพื่อกรรมเบา  

       หรือสัทธิวิหาริกนั้นถูกสงฆ์ลงตัชชนียกรรม นิยสกรรม ปัพพาชนียกรรม ปฏิสารณียกรรม หรือ อุกเขปนียกรรมแล้ว อุปัชฌายะ พึงทำความขวนขวายว่า ด้วยอุบายอย่างไรหนอ สัทธิวิหาริกพึงประพฤติชอบ หายเย่อหยิ่ง ประพฤติแก้ตัวได้ สงฆ์พึงระงับกรรมนั้นเสีย


       ถ้าจีวรของสัทธิวิหาริกจะต้องซัก อุปัชฌายะพึงสั่งว่า ท่านพึงซักอย่างนี้ หรือพึงทำความขวนขวายว่า ด้วยอุบายอย่างไรหนอ ใครๆ พึงซักจีวรของสัทธิวิหาริก  

       ถ้าจีวรของสัทธิวิหาริกจะต้องทำ อุปัชฌายะพึงสั่งว่าท่านพึงทำอย่างนี้ หรือพึงทำความขวนขวายว่า ด้วยอุบายอย่างไรหนอ ใครๆ พึงทำจีวรของสัทธิวิหาริก  

       ถ้าน้ำย้อมของสัทธิวิหาริกจะต้องต้ม อุปัชฌายะพึงสั่งว่าท่านพึงต้มอย่างนี้ หรือพึงทำความขวนขวายว่า ด้วยอุบายอย่างไรหนอ ใครๆ พึงต้มน้ำย้อมของสัทธิวิหาริก  

       ถ้าจีวรของสัทธิวิหาริกจะต้องย้อม อุปัชฌายะพึงสั่งว่า ท่านพึงย้อมอย่างนี้ หรือ พึงทำความขวนขวายว่า ด้วยอุบายอย่างไรหนอ ใครๆ พึง ย้อมจีวรของสัทธิวิหาริก 

       เมื่อย้อมจีวร พึงย้อมพลิกกลับไปกลับมาให้ดี เมื่อหยาดน้ำย้อมยังหยดไม่ขาดสาย ไม่พึงหลีกไปเสีย 


       ถ้าสัทธิวิหาริกอาพาธ พึงพยาบาลจนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย 


       ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้แล เป็นสัทธิวิหาริกวัตรของอุปัชฌายะทั้งหลายซึ่งอุปัชฌายะทั้งหลายพึงประพฤติชอบในสัทธิวิหาริก 
 


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -     

* * * ( 1 ) : สัทธิวิหาริกวัตร ในส่วนนี้ไม่ได้นับข้อ เนื่องจากได้นับไปแล้วในหน้า 176 - ผู้รวบรวม  



* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) นำมาจากพระไตรปิฎก  /  หัวข้อใหญ่สุด : อาจารโคจรสมฺปนฺนา  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : คัมภีร์ จุลวรรค ภาค 2 ( วินัยปิฎก เล่มที่ 7 )  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : ขันธ์ที่ 4 : วัตตขันธกะ  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : วัตตขันธกะ : สัทธิวิหาริกวัตร 



* * * อีกช่องทางหนึ่ง คือ สามารถอ่านได้ใน หนังสือ พุทธวจน เรื่อง อริยวินัย  /  หน้าที่ : 925 , 926 , 927 , 928 



- จบ -