Saturday, August 27, 2022

650826-0010

 

อ้างอิง : "ในลิงก์นี้ ผมให้ฟังแค่ 3 นาทีกว่าๆนะครับ ไม่ต้องฟังท้งหมด"  /  คนถือศีลแล้วมีกลิ่นหอมทวนลม ที่เวลา 2.25.00 ถึงเวลา 2.28.20 ของลิงก์  https://www.youtube.com/watch?v=eQ9-dCgNXUA&t=7899s 


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

พูดเรื่องศีล 5 ครับ

       ศีลข้อที่ 1 นั้น ถ้าเราไม่ได้ฆ่าสัตว์ ( คือแค่เบียดเบียน เช่นทำร้าย ) ก็ถือว่าศีลยังไม่ขาด  /  แค่บกพร่อง

       ศีลข้อที่ 2 นั้น ถ้าเรายังไม่ได้ลงมือขโมยของ ก็คือว่าศีลยังไม่ขาด   

       ศีลข้อที่ 3 นั้น ถ้าเรายังไม่ได้เสพเมถุนกับเมียชาวบ้าน แค่ทำอย่างอื่นเช่นกอด จูบ ก็ถือว่าศีลยังไม่ขาด  /  แค่บกพร่อง 

       ศีลข้อที่ 4 ถ้าเรายังไม่ได้พูดปด ก็ถือว่าศีลยังไม่ขาด เช่น เราพูดคำจริง แต่คำพูดนั้นเป็นการพูดยุยงให้คนแตกกัน ทำให้คนแตกความสามัคคีกัน ก็เป็นบาปอย่างหนึ่งแต่ยังไม่ถึงกับศีลขาด

       แต่ศีลข้อที่ 5 นั้น ผิดได้ง่ายที่สุด เพราะเพียงแค่เราดื่มของมึนเมาแค่ "อึกเดียว" ก็ศีลขาดทันที ( จะเห็นได้ว่าต่างจากศีลทั้ง 4 ข้อที่อ่านมาข้างบน ) เพราะในบทศึล 5 ไม่ได้บอกว่า ต้องดื่มมาก ถึงจะศีลขาด แต่บอกไว้ว่าการดื่มน้ำเมาคือศึลขาด ไม่เกี่ยวกับเรื่องปริมาณ

       ดังนั้นจึงต้องระวังให้มาก เพราะเราอุตส่าไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ผิดลูกเมียคนอื่น ไม่พูดปดแล้วแท้ๆ แต่แค่เอาเงินไปซื้อเหล้ามาดื่ม ( ซึ่งเราคิดว่าคนอื่นเขาก็กินกันเยอะแยะ ) แต่ปรากฏว่าผลที่ได้จากการดื่มเหล้าก็คือศีลขาดทันที ต้องได้รับผลร้ายแรงเหมือนกับการฆ่าสัตว์ ผิดลูกผิดเมียชาวบ้าน ฯลฯ เลยทีเดียว  

       ก็ต้องพิจารณาเอาเองนะครับ บางคนบอกว่าต้องกินเหล้าเพราะเครียดกับงานเหลือเกิน ฯลฯ ก็คิดเอาเองว่ามันคุ้มกันไหม ที่เราจะต้องได้ผลของกรรมเทียบเท่ากับการที่เราไปฆ่าสัตว์ ผิดลูกผิดเมียชาวบ้าน ฯลฯ  /  ไปหาความสุขด้วยวิธีอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผิดศีลจะดีกว่าไหม?  


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

       คนที่ไม่มีเครดิต ก็ไม่มีคนอยากคุยด้วย เหมือนกับคนที่เป็นหนี้เป็นสิน คนเล่นการพนัน ก็ถือว่าไม่มีเครดิต  /  ถ้าคนที่คุยด้วย "เขารู้เรื่องนี้" ( คือเขารู้ว่าคุณเป็นคนที่เป็นหนี้เป็นสิน คนเล่นการพนัน ) คนอื่นก็จะไม่อยากคุยด้วย ไม่อยากทำธุรกิจด้วย

       ฉันใด ก็ฉันนั้น ในโลกของกายทิพย์ ในโลกของวิญญาณ ถ้าคุณเป็นคนศีลขาด ก็เหมือนการที่คุณเป็นคนไม่มีเครดิต  พวกกายทิพย์เขาก็ไม่คุยกับคุณ 


* * * ถามว่า กายทิพย์เขารู้ได้อย่างไรว่าคุณศีลขาด

       ที่รู้ก็เพราะว่า คนที่มีศีล 5 จะมีกลิน่หอม ( ตามที่อ้างอิงไว้ที่เวลา 2.25.00 ถึงเวลา 2.28.20 ของลิงก์  https://www.youtube.com/watch?v=eQ9-dCgNXUA&t=7899s )  /  ถ้าคุณศีลขาด คุณก็จะไม่มีกลิ่นหอมพวกนี้ พวกกายทิพย์เขาก็จะไม่คุยกับคุณ 


* * * การคุยกับกายทิพย์มีความสำคัญอย่างไร? ทำไมเราควรทำตัวให้มีกลิ่นหอมเพื่อจะได้คุยกับการทิพย์ได้?

       ก็คือว่าในกรณีที่เราจะคุยกับเจ้ากรรมนายเวรของเราเอง เจ้ากรรมนายเวรของลูกเรา เจ้ากรรมนายเวรของพ่อแม่เรา เพื่อจะต่อรองผ่อนผันหรือขอให้ไม่จองเวรได้ไหม? ฯลฯ เราจะต้องมีเครดิต คือมีศีล เขาถึงจะคุยกับเรา  

       กรณีที่มีพระห้อยเต็มคอ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ติดตัวเยอะ ก็ไม่ช่วยอะไรเรา เพราะถึงจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่กับตัว แต่เขาไม่อยากอยู่กับเรา ไม่อยากคุยกับเรา ไม่อยากเสวนากับเรา 

       แต่ถ้าเรามีศีล จะทำให้เรามีกลิ่นตัวหอม ซึ่งแม้ว่าเราจะไม่มีพระเครื่องห้อยคอเลยก็ตาม แต่กายทิพย์ที่อยู่รอบๆ ยกตัวอย่างเช่นเทวดาที่อยู่ในต้นไม้ เขาก็จะมาดูแลเรา โดยที่เราไม่ต้องร้องขออะไรเลย เพราะเขาทนกลิ่นหอมยั่วยวนนี้ไม่ได้เลย 

       เหมือนเรา "มีเพื่อนเป็นหมอ" ก็จะมีประโยชน์คือ แม้ว่าเราจะไม่รู้ว่าเราเป็นโรคอะไร ( เพราะเราไม่ใช่หมอ ) แต่หมอที่เป็นเพื่อนเรา เขาจะรู้

       เมื่อหมอที่เป็นเพื่อนเราเขารู้ว่าเราเป็นโรคอะไร เขาก็จะช่วยรักษาให้เรา โดยที่เราไม่ต้องร้องขออะไรเลย ( เพราะเรามีหมอเป็นเพื่อนนั่นเอง ด้วยความเป็นเพื่อนเขาจึงดูแลเรา โดยที่เราไม่ต้องไปขอร้องเขาให้เขาช่วย )

       ฉันใดก็ฉันนั้น เมื่อเราถือศีล ก็จะทำให้เรามีกลิ่นตัวหอม และไปถูกใจเทวดาที่อยู่รอบๆ เทวดาเขาก็จะมาเป็นเพื่อนเรา

       เมื่อเทวดามาเป็นเพื่อนเรา ด้วยตาทิพย์ของเทวดาเขาจะรู้ได้ทันทีว่าเราโดนทำคุณไสยใส่ เขาก็จะช่วยยับยั้งให้ ทำให้เราปลอดภัย 

       ซึ่งแม้ว่าเทวดาจะเอาของออกจากตัวเราไม่ได้ก็จริง แต่เทวดาท่านจะผ่อนหนักเป็นเบาได้

       จะเห็นได้ว่าทั้งหมดนี้ มีจุดเริ่มต้นจากการถือศีล แล้วทำให้กลิ่นตัวเราหอมนั่นเอง


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

* * * คนที่ "โดนทำของใส่" ห้ามทำผิดศีลเด็ดขาด เพราะจะทำให้ตายเร็วขึ้นอีกหลายเท่าตัว

       ตามปกติ คนเราทุกคนมักจะมีวิญญาณสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองอยู่บ้างไม่มากก็น้อย แต่ถ้าเรา "โดนทำของใส่" มันจะเป็นเรื่องของการทำคุณไสย ซึ่งคนทำวิชาพวกนี้จะมีพลังมาก 

       แต่ถ้าตัวเราเองถือศีล 5 ก็จะมีพวกเทวดา พวกสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาช่วยคุ้มครองให้เรา แม้ว่าจะเอาของที่ทำคุณไสยนั้นออกจากตัวไม่ได้ แต่ก็จะผ่อนหนักเป็นเบาได้ 

       แต่เมื่อไรที่เราทำผิดศีล 5 เช่นการดื่มเหล้าแม้แต่เพียงอึกเดียว ( ซึ่งจะทำให้ศีลขาดทันที ) สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็จะไม่คุ้มครองเรา แม้ว่าเราจะห้อยพระเครื่องอยู่เต็มคอก็ตาม และของที่เป็นคุณไสยนั้นก็จะเริ่มทำงานของมันทันที

       การทำงานของคุณไสยนั้น ถ้าของที่ทำคุณไสยนั้นเป็นพวกปอบ เมื่อเราดื่มเราแม้เพียงอึกเดียว ( ซึ่งทำให้ศีลขาดทันที ) มันจะกินอวัยวะภายในโดยเริ่มจากตับก่อน แล้วก็ไปไต  /  โดยที่ว่าแม้ว่าภายหลังจากที่เราเอาคุณไสยออกไปจากตัวแล้ว ตับและไตนั้นก็จะไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก  /  เพราะฉะนั้น ทางที่ดีคือถือศีล 5 ด้วยการไม่กินเหล้าเอาไว้ก่อน เพื่อป้องกันตัวเอง แล้วระหว่างที่เราป้องกันตัวเองอยู่นั้น ( ด้วยการถือศีล 5 ) เราก็ค่อยหาวิธีเอาคุณไสยออก  

       ยกตัวอย่างเช่น มีคนสองคน  คนหนึ่งโดนคุณไสย  อีกคนหนึ่งยังไม่โดนคุณไสย ถ้าสองคนนี้ดื่มเหล้าเหมือนกัน คนที่โดนคุณไสยจะเป็นโรคตับแข็ง แต่คนที่ไม่โดนคุณไสยจะไม่เป็นไร 


* * * สรุปว่ามันเป็นความซวยของคุณเองที่โดนคุณไสย คุณก็เลยกินเหล้าไม่ได้  /  ส่วนคนอื่นที่เขากินเหล้าได้ เพราะเขาไม่โดนคุณไสยไงครับ 

       ถ้าคุณอยากอายุยืน อยากอยู่ดูแลลูกเมียให้นานๆ และรู้ตัวเองว่าโดนคุณไสยเสียแล้ว ก็จงถือศีล 5 ด้วยการไม่ดื่มเหล้า แล้วค่อยๆหาทางเอาคุณไสยออก นั่นจะทำให้คุณอายุยืน แม้ว่าตับไตที่เสียไปบางส่วนแล้ว ก็ช่างมัน ยังดีกว่าเสียไปทั้งหมด


- จบ -