Wednesday, August 31, 2022

วัตตขันธกะ : อาจริยวัตร

 

คำตรัสจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า

เรื่อง วัตตขันธกะ : อาจริยวัตร
 



อาจริยวัตร  * * * ( 1 ) 


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 442 )  


       ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล เราจักบัญญัติอาจริยวัตรแก่ภิกษุ อันเตวาสิก ///// ทั้งหลาย โดยประการที่ภิกษุอันเตวาสิกทั้งหลายพึงประพฤติชอบในอาจารย์ 



( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 443 )  


       ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันเตวาสิกพึงประพฤติชอบในอาจารย์ 

       วิธีประพฤติชอบในอาจารย์นั้น ดังต่อไปนี้ 

       อันเตวาสิกพึงลุกแต่เช้าตรู่ ถอดรองเท้า ห่มผ้าเฉวียงบ่าแล้ว ถวายไม้ชำระฟัน ถวายน้ำล้างหน้า ปู อาสนะ ///// ไว้ 

       ถ้า ยาคู ///// มี พึงล้างภาชนะเสียก่อนแล้วน้อมยาคูเข้าไป  

       เมื่ออาจารย์ดื่มยาคูแล้ว พึงถวายน้ำ รับภาชนะมา ถือต่ำๆ ล้างให้เรียบร้อยอย่าให้กระทบแล้วเก็บไว้ 

       เมื่ออาจารย์ลุกแล้วพึงเก็บอาสนะ ถ้าที่นั้นรก พึงกวาดที่นั้นเสีย 


       ถ้าอาจารย์ประสงค์จะเข้าบ้าน พึงถวายผ้านุ่ง พึงรับผ้านุ่งผลัดมา พึงถวาย ประคดเอว ///// พึงซ้อนผ้าห่มสองชั้นถวาย 

       พึงล้างบาตรแล้วถวายพร้อมทั้งน้ำ 


       ถ้าอาจารย์ปรารถนาจะให้เป็น ปัจฉาสมณะ ///// พึงปกปิดกายให้มี มณฑลสาม /////  นุ่งให้เป็นปริมณฑล /////  คาดประคดเอว ซ้อนผ้าห่ม 2 ชั้น ห่มคลุม กลัดลูกดุม ล้างบาตรแล้วถือไปเป็นปัจฉาสมณะของอาจารย์ 

       ไม่พึงเดินให้ห่างนักให้ชิดนัก พึงรับวัตถุที่เนื่องในบาตร 


       เมื่ออาจารย์กำลังพูด ไม่พึงพูดสอดขึ้นในระหว่างๆ 


       อาจารย์กล่าวถ้อยคำใกล้ต่ออาบัติ พึงห้ามเสีย


       เมื่อกลับ พึงกลับมาก่อน แล้วปูอาสนะไว้ พึงวางน้ำล้างเท้า ตั่ง รองเท้า ///// กระเบื้องเช็ดเท้าไว้ใกล้ๆ 

       พึงลุกรับบาตร จีวร พึงถวายผ้านุ่งผลัด พึงรับผ้านุ่งมา 

       ถ้าจีวรชุ่มเหงื่อ พึงผึ่งแดดสักครู่หนึ่ง แต่อย่าผึ่งทิ้งไว้ที่แดด 

       พึงพับจีวร เมื่อจะพับจีวรพึงพับให้เหลื่อมมุมกันสี่นิ้ว ด้วยตั้งใจมิให้มีรอยพับตรงกลาง พึงสอดประคดเอวไว้ในขนดจีวร 


       ถ้าบิณฑบาตมี และอาจารย์ประสงค์จะฉัน พึงถวายน้ำ แล้วน้อมบิณฑบาตเข้าไป พึงถามอาจารย์ถึงน้ำ  

       เมื่ออาจารย์ฉันแล้ว พึงถวายน้ำ 

       รับบาตรมา ถือต่ำๆ ล้างให้เรียบร้อย อย่าให้กระทบ ล้างเช็ดให้หมดน้ำ แล้วพึงผึ่งไว้ที่แดดสักครู่หนึ่ง แต่อย่าผึ่งทิ้งไว้ที่แดด  

       พึงเก็บบาตร จีวร 

       เมื่อเก็บบาตรพึงเอามือข้างหนึ่งจับบาตร เอามือข้างหนึ่งลูบคลำใต้เตียงหรือใต้ตั่งแล้วเก็บบาตร 

       แต่อย่าเก็บบาตรไว้บนพื้นที่ปราศจากเครื่องรอง 

       เมื่อเก็บจีวรพึงเอามือข้างหนึ่งถือจีวร เอามือข้างหนึ่งลูบราวจีวรหรือ สายระเดียง /////  แล้วทำชายไว้ข้างนอก ขนดไว้ข้างใน แล้วเก็บเถิด


       เมื่ออาจารย์ลุกแล้ว พึงเก็บอาสนะ เก็บน้ำล้างเท้า ตั่งรองเท้า กระเบื้องเช็ดเท้า 

       ถ้าที่นั้นรก พึงกวาดที่นั้นเสีย 

       ถ้าอาจารย์ใคร่จะสรงน้ำ พึงจัดน้ำสรงถวาย  

       ถ้าต้องการน้ำเย็น พึงจัดน้ำเย็นถวาย  

       ถ้าต้องการน้ำร้อน พึงจัดน้ำร้อนถวาย  


       ถ้าอาจารย์ใคร่จะเข้าเรือนไฟ พึง บดจุณ /////  แช่ดิน ถือ ตั่ง ///// สำหรับเรือนไฟแล้วเดินตามหลังอาจารย์ไป  

       ถวายตั่งสำหรับเรือนไฟแล้วรับจีวรมาวางไว้ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง 

       พึงถวายจุณ ถวายดิน

       ถ้าอุตสาหะอยู่ พึงเข้าเรือนไฟ เมื่อเข้าเรือนไฟ พึงเอาดินทาหน้า ปกปิดทั้งข้างหน้าทั้งข้างหลัง แล้วเข้าเรือนไฟ 

       อย่านั่งเบียดภิกษุผู้เถระ อย่าเกียดกันอาสนะภิกษุใหม่ พึงทำบริกรรมแก่อาจารย์ในเรือนไฟ

       เมื่อออกจากเรือนไฟ พึงถือตั่งสำหรับเรือนไฟ แล้วปกปิดทั้งข้างหน้าทั้งข้างหลังออกจากเรือนไฟ พึงทำบริกรรมแก่อาจารย์ 


       แม้ในน้ำ อาบเสร็จแล้วพึงขึ้นมาก่อน ทำตัวของตนให้แห้งน้ำ นุ่งผ้าแล้วพึงเช็ดน้ำจากตัวของอาจารย์ 

       พึงถวายผ้านุ่ง ผ้าสังฆาฏิ

       ถือตั่งสำหรับเรือนไฟมาก่อนแล้วปูอาสนะไว้ พึงวางน้ำล้างเท้า ตั่งรองเท้า กระเบื้องเช็ดเท้าไว้ใกล้ๆ 

       พึงถามอาจารย์ด้วยน้ำดื่ม 


       ถ้าประสงค์จะเรียนบาลี พึงขอให้อาจารย์แสดงบาลีขึ้น ถ้าประสงค์จะสอบถามอรรถกถาพึงสอบถาม  * * * ( 2 )  


       อาจารย์อยู่ในวิหารแห่งใด ถ้าวิหารแห่งนั้นรก ถ้าอุตสาหะอยู่พึงปัดกวาดเสีย 

       เมื่อปัดกวาด วิหาร /////  พึงขนบาตร จีวร ออกก่อนแล้ววางไว้ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง 

       พึงขนผ้าปูนั่งและผ้าปูนอน ขนฟูก หมอน ออกวางไว้ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง 

       เตียง ตั่ง อันเตวาสิกพึงยกต่ำๆ ทำให้เรียบร้อย อย่าให้ครูดสีกระทบกระแทกบานและกรอบประตู ตั้งไว้ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง  

       เขียงรองเท้าเตียง กระโถน พนักอิง พึงขนออกไปวางไว้ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง  

       เครื่องปูพื้นพึงสังเกตที่ปูไว้เดิม แล้วขนออกวางไว้ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง 


       ถ้าในวิหารมีหยากเยื่อพึงกวาดแต่เพดานลงมาก่อน กรอบหน้าต่างและมุมห้องพึงเช็ดเสีย  

       ถ้าฝาเขาทำบริกรรมด้วยน้ำมัน หรือพื้นทาสีดำขึ้นรา พึงเอาผ้าชุบน้ำบิดเช็ดเสีย  

       ถ้าพื้นเขามิได้ทำ พึงเอาน้ำประพรมแล้วเช็ดเสีย  

       ระวังอย่าให้ฝุ่นฟุ้ง

       พึงกวาดหยากเยื่อทิ้งเสีย ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง 


       เครื่องปูพื้นพึงผึ่งแดดชำระเคาะปัด แล้วขนกลับปูไว้ตามเดิม 

       เขียงรองเท้า เตียง พึงผึ่งแดดขัด เช็ด แล้วขนกลับไปตั้งไว้ ณ ที่เดิม 

       เตียง ตั่ง พึงผึ่งแดด ขัดสี เคาะ ยกต่ำๆ ทำให้ดี อย่าให้ครูดสี กระทบกระแทกบานและกรอบประตู ขนกลับจัดตั้งไว้ตามเดิม  

       ฟูก หมอน ผ้าปูนั่ง ผ้าปูนอน กระโถน พนักอิง พึงผึ่งแดด ชำระ ล้าง ตบ ปัดเสีย แล้วขนกลับตั้งไว้ตามเดิม


       พึงเก็บบาตร จีวร เมื่อจะเก็บบาตรพึงเอามือข้างหนึ่งจับบาตร เอามือข้างหนึ่งลูบคลำใต้เตียงหรือใต้ตั่งแล้วเก็บบาตร 

       แต่อย่าเก็บบาตรบนพื้นที่ปราศจากเครื่องรอง  


       เมื่อเก็บจีวรพึงเอามือข้างหนึ่งถือจีวร เอามือข้างหนึ่งลูบราวจีวรหรือสายระเดียง แล้วทำชายไว้ข้างนอก ขนดไว้ข้างใน เก็บจีวรเถิด 


       ถ้า ลมเจือด้วยผงคลี /////  พัดมาแต่ทิศตะวันออก พึงปิดหน้าต่างด้านตะวันออก 

       ถ้าพัดมาแต่ทิศตะวันตก พึงปิดหน้าต่างด้านตะวันตก  

       ถ้าพัดมาแต่ทิศเหนือ พึงปิดหน้าต่างด้านเหนือ  

       ถ้าพัดมาแต่ทิศใต้ พึงปิดหน้าต่างด้านใต้ 


       ถ้าฤดูหนาวพึงเปิดหน้าต่างกลางวัน กลางคืนพึงปิดเสีย 

       ถ้าฤดูร้อน กลางวันพึงปิด กลางคืนพึงเปิด 


       ถ้าบริเวณ ซุ้มน้ำ โรงฉัน โรงไฟ วัจจกุฎี รก ///// พึงปัดกวาดเสีย 


       ถ้าน้ำฉัน น้ำใช้ไม่มี พึงจัดตั้งไว้

       ถ้าน้ำในหม้อชำระไม่มี พึงตักมาไว้ในหม้อชำระ 


       ถ้าความกระสันบังเกิดแก่อาจารย์ อันเตวาสิกพึงช่วยระงับ หรือพึงวานภิกษุอื่นให้ช่วยระงับ หรือพึงทำ ธรรมกถา /////  แก่อาจารย์นั้น  

       ถ้าความรำคาญบังเกิดแก่อาจารย์ อันเตวาสิกพึงช่วยบรรเทา หรือพึงวานภิกษุอื่นให้ช่วยบรรเทา หรือพึงทำธรรมกถาแก่อาจารย์นั้น  

       ถ้าทิฐิบังเกิดแก่อาจารย์ อันเตวาสิกพึงให้สละเสีย หรือพึงวานภิกษุอื่นให้ช่วย หรือพึงทำธรรมกถาแก่อาจารย์นั้น 

       ถ้าอาจารย์ต้อง อาบัติหนัก /////  ควรแก่ ปริวาส /////  อันเตวาสิกพึงทำความขวนขวายว่า ด้วยอุบายอย่างไรหนอ สงฆ์พึงให้ปริวาสแก่อาจารย์  

       ถ้าอาจารย์ควรแก่การซักเข้าหาอาบัติเดิม อันเตวาสิกพึงทำความขวนขวายว่า ด้วยอุบายอย่างไรหนอ สงฆ์พึงชักอาจารย์เข้าในอาบัติเดิม

       ถ้าอาจารย์ควรแก่ มานัด /////  อันเตวาสิกพึงทำความขวนขวายว่า ด้วยอุบายอย่างไรหนอ สงฆ์พึงให้มานัตแก่อาจารย์  

       ถ้าอาจารย์ควร อัพภาน /////  อันเตวาสิกพึงทำความขวนขวายว่า ด้วยอุบายอย่างไรหนอ สงฆ์พึงอัพภานอาจารย์ 

       ถ้าสงฆ์ใคร่จะทำกรรมแก่อาจารย์ คือ ตัชชนียกรรม /////  นิยสกรรม /////  ปัพพาชนียกรรม /////  ปฏิสารณียกรรม /////  หรือ อุกเขปนียกรรม /////  อันเตวาสิกพึงทำความขวนขวายว่า ด้วยอุบายอย่างไรหนอ สงฆ์ไม่พึงทำกรรมแกอาจารย์ หรือสงฆ์พึงน้อมไปเพื่อกรรมเบา  

       หรืออาจารย์นั้นถูกสงฆ์ลงตัชชนียกรรม นิยสกรรม ปัพพาชนียกรรม ปฏิสารณียกรรม หรืออุกเขปนียกรรมแล้ว อันเตวาสิกพึงทำความขวนขวายว่า ด้วยอุบายอย่างไรหนอ อาจารย์พึงประพฤติชอบหายเย่อหยิ่งประพฤติแก้ตัวได้ สงฆ์พึงระงับกรรมนั้นเสีย 


       ถ้าจีวรของอาจารย์จะต้องซัก อันเตวาสิกพึงซัก หรือพึงทำความขวนขวายว่า ด้วยอุบายอย่างไรหนอ ใครๆ พึงซักจีวรของอาจารย์  

       ถ้าจีวรของอาจารย์จะต้องทำ อันเตวาสิกพึงทำ หรือพึงทำความขวนขวายว่าด้วยอุบายอย่างไรหนอ ใครๆ พึงทำจีวรของอาจารย์  

       ถ้าน้ำย้อมของอาจารย์จะต้องต้ม อันเตวาสิกพึงต้มเอง หรือพึงทำความขวนขวายว่าด้วยอุบายอย่างไรหนอ ใครๆ พึงต้มน้ำย้อมของอาจารย์  

       ถ้าจีวรของอาจารย์จะต้องย้อม อันเตวาสิกพึงย้อม หรือพึงทำความขวนขวายว่าด้วยอุบายอย่างไรหนอ ใครๆ พึงย้อมจีวรของอาจารย์  

       เมื่อย้อมจีวร พึงย้อมพลิกกลับไปกลับมาให้ดี เมื่อหยาดน้ำย้อมยังหยดไม่ขาดสายอย่าพึงหลีกไปเสีย 


       อันเตวาสิกไม่บอกอาจารย์ก่อน อย่าให้บาตรแก่ภิกษุบางรูป อย่ารับบาตร อย่าให้จีวร อย่ารับจีวร อย่าให้บริขาร อย่ารับบริขารของภิกษุบางรูป อย่าปลงผมให้แก่ภิกษุบางรูป อย่าให้ภิกษุบางรูปปลงผมให้ อย่าทำบริกรรมแก่ภิกษุบางรูป อย่าให้ภิกษุบางรูปทำบริกรรมให้ อย่าทำความขวนขวายแก่ภิกษุบางรูป อย่าให้ภิกษุบางรูปทำความขวนขวาย อย่าเป็นปัจฉาสมณะของภิกษุบางรูป อย่าพาภิกษุบางรูปไปเป็นปัจฉาสมณะ อย่านำบิณฑบาตไปให้แก่ภิกษุบางรูป อย่าให้ภิกษุบางรูปนำบิณฑบาตมาให้


       อันเตวาสิกไม่บอกลาอาจารย์ก่อน อย่าเข้าบ้าน อย่าไปป่าช้า อย่าหลีกไปสู่ทิศ 


       ถ้าอาจารย์อาพาธ พึงพยาบาลจนตลอดชีวิตหรือจนกว่าจะหาย 


       ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้แล เป็นอาจาริยวัตรของอันเตวาสิกทั้งหลาย ซึ่งอันเตวาสิกทั้งหลาย พึงประพฤติชอบในอาจารย์ 


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -     

* * * ( 1 ) : อาจริยวัตร ในส่วนนี้ไม่ได้นับข้อ เนื่องจากได้นับไปแล้วในหน้า 190 - ผู้รวบรวม  


* * * ( 2 ) : ในย่อหน้านี้ บาลีมีว่า “สเจ อุทฺทิสาเปตุกาโม โหติ อุทฺทิสาเปตพฺโพ สเจ ปริปุจฺฉิตุกาโม โหติ ปริปุจฺฉิตพฺโพ ฯ” ซึ่งในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาฯ พ.ศ.2535 แปลว่า “ถ้าอาจารย์ต้องการจะให้เรียน พึงเรียน ถ้าอาจารย์ต้องการจะให้สอบถามอรรถ พึงสอบถาม” - ผู้รวบรวม  



* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) นำมาจากพระไตรปิฎก  /  หัวข้อใหญ่สุด : อาจารโคจรสมฺปนฺนา  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : คัมภีร์ จุลวรรค ภาค 2 ( วินัยปิฎก เล่มที่ 7 )  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : ขันธ์ที่ 4 : วัตตขันธกะ  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : วัตตขันธกะ : อาจริยวัตร 



* * * อีกช่องทางหนึ่ง คือ สามารถอ่านได้ใน หนังสือ พุทธวจน เรื่อง อริยวินัย  /  หน้าที่ : 928 , 929 , 930 , 931 , 932



- จบ -