Sunday, January 9, 2022

ปัณฑุกะ และโลหิตกะ

 

ปัณฑุกะ และโลหิตกะ 


ประวัติพวกภิกษุฉัพพัคคีย์

       ได้ยินว่าชน 6 คน * * * 1 ในกรุงสาวัตถีเป็นสหายกัน ปรึกษากันว่า การกสิกรรม เป็นต้น เป็นการงานที่ลำบาก เอาเถิด สหายทั้งหลาย พวกเราจะพากันบวช และพวกเราเมื่อจะบวช ควรบวชในฐานผู้ช่วยสลัดออกเสียในเมื่อมีกิจการเกิดขึ้น * * * ( 2 )

       ดังนี้แล้ว ได้บวชในสำนักแห่ง พระอัครสาวกทั้งสอง

       พวกเธอมีพรรษาครบ 5 พรรษา ท่องมาติกาได้คล่องแล้ว ปรึกษากันว่า ธรรมดาว่าชนบท บางคราว ก็มีภิกษาสมบูรณ์บางคราว มีภิกษาฝืดเคือง พวกเราอย่าอยู่รวมในที่แห่งเดียวกันเลย จงแยกกันอยู่ในที่ 3 แห่ง


       ลำดับนั้น พวกเธอจึงกล่าวกะภิกษุชื่อ บัณฑุกะ และ โลหิตกะ ว่า ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ขึ้นชื่อว่ากรุงสาวัตถีมีตระกูลห้าล้านเจ็ดแสนตระกูลอยู่ครอบครอง เป็นปากทางแห่งความเจริญของแคว้นกาสีและโกศลทั้งสอง กว้างประมาณ 300 โยชน์ ประดับด้วยหมู่บ้าน 8 หมื่นตำบล พวกท่านจงให้สร้างสำนักในสถานที่ใกล้ๆ กรุงสาวัตถีนั้นนั่นแล แล้วปลูกมะม่วง ขนุน และมะพร้าว เป็นต้น สงเคราะห์ตระกูลด้วยดอกและผลไม้เหล่านั้น ให้พวกเด็กหนุ่มของตระกูลบวชแล้วขยายบริษัทให้เจริญเถิด 


       กล่าวกะพวกภิกษุชื่อว่า เมตติยะ และ ภุมมชกะ ว่า ท่านผู้มีอายุ ชื่อว่ากรุงราชคฤห์มีพวกมนุษย์ 18 โกฎิอยู่ครอบครอง เป็นปากทางแห่งความเจริญของแคว้นอังคะและมคธทั้งสอง กว้าง 3 โยชน์ ประดับด้วยหมู่บ้าน 8 หมื่นตำบล พวกท่านจงให้สร้างสำนักในที่ใกล้ๆ กรุงราชคฤห์นั้นแล้ว ปลูกมะม่วง ขนุน และมะพร้าวเป็นต้น สงเคราะห์ตระกูลด้วยดอกและผลไม้เหล่านั้น ให้พวกเด็กหนุ่มของตระกูลบวชแล้ว ขยายบริษัทให้เจริญเถิด


       กล่าวกะพวกภิกษุชื่อว่า อัสสชิ และ ปุนัพพสุกะ ว่า ท่านผู้มีอายุ ขึ้นชื่อว่ากิฏาคีรีชนบท อันเมฆ ( ฝน ) 2 ฤดูอำนวยแล้ว ย่อมได้ข้าวกล้า 3 คราว พวกท่านจงให้สร้างสำนัก ในที่ใกล้ๆ กิฎาคีรีชนบทนั้นนั่นแล ปลูกมะม่วง ขนุน และมะพร้าวเป็นต้น ไว้ สงเคราะห์ตระกูลด้วยดอกและผลไม้เหล่านั้น ให้พวกเด็กหนุ่มของตระกูลบวชแล้วขยายบริษัทให้เจริญเถิด 


       พวกภิกษุฉัพพัคคีย์เหล่านั้น ได้กระทำอย่างนั้น บรรดาพวกภิกษุฉัพพัคคีย์เหล่านั้น แต่ละฝ่าย มีภิกษุเป็นบริวาร ฝ่ายละ 500 รูป รวมเป็นจำนวนภิกษุ 1,500 รูปกว่า ด้วยประการอย่างนี้ 

       บรรดาภิกษุเหล่านั้น ภิกษุชื่อ ปัณฑุกะ และ โลหิตกะ พร้อมทั้งบริวารเป็นผู้มีศีลแล เที่ยวไปยังชนบทเป็นที่จาริกร่วมเสด็จกับพระผู้มีพระภาคเจ้า พวกเธอไม่ก่อให้เกิดเรื่องใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยมีใครทำ แต่ชอบย่ำยีสิกขาบทที่ทรงบัญญัติแล้ว 

       ส่วนพวกภิกษุฉัพพัคคีย์นอกนี้ทั้งหมดเป็นอลัชชี ย่อมก่อให้เกิดเรื่องใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยมีใครทำด้วยย่อมพากันย่ำยีสิกขาบทที่ทรงบัญญัติไว้แล้วด้วย 

       เพราะเหตุนั้น พระธรรมสังคาหกะทั้งหลายจึงกล่าวว่า อลชฺชิโน ปาปภิกิขู ดังนี้


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

* *  * ( 1 ) 6 คน คือ ปัณฑกะ 1 , โลหิตกะ 1 , เมตติยะ 1 , ภุมมชกะ 1 , อัสสชิ 1 , ปุนัพพสุกะ 1

       บวชแล้ว เรียกว่า ภิกษุฉัพพัคคีย์ แปลว่า มีพวก 6


* * * ( 2 ) นิตฺถเรณกฏฺฐาเนติ อุปฺปนฺนกิจฺจสฺส นิปฺผาทนฏฺฐาเนติ โยชนาปาโฐ ฯ 1/453 


- จบ -