Thursday, May 26, 2022

ดิรัจฉานวิชา

 

ดิรัจฉานวิชา 



       ดิรัจฉานวิชา - อ่านว่า ดิ-รัด-ฉาน-วิ-ชา

       ประกอบด้วยคำว่า ดิรัจฉาน + วิชา

       ( 1 ) “ดิรัจฉาน” บาลีเป็น “ติรจฺฉาน” ( ติ-รัด-ฉา-นะ ) รากศัพท์มาจาก ติรจฺฉ + ยุ ปัจจัย 

       ( ก ) “ติรจฺฉ” รากศัพท์มาจาก ติริย ( ขวาง ) + อญฺช ( ธาตุ = ไป , เป็นไป ) + อ ปัจจัย, แปลง ติริย เป็น ติร, อญฺช เป็น จฺฉ  

       : ติริย > ติร + อญฺช + อ = ติรญฺช > ติรจฺฉ แปลตามศัพท์ว่า “ผู้ไปขวาง” 

       ( ข ) ติรจฺฉ + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน ( อะ-นะ ) , ทีฆะ อะ ที่ อ-( น ) เป็น อา

       : ติรจฺฉ + ยุ > อน = ติรจฺฉน > ติรจฺฉาน แปลเท่าศัพท์เดิม คือ “ผู้ไปขวาง” หมายความว่า เจริญเติบโตโดยทางขวางซึ่งตรงกันข้ามกับมนุษย์ที่โตไปทางสูง 

       “ติรจฺฉาน” ( ปุงลิงค์ ) หมายถึง สัตว์ทั่วไปที่ไม่ใช่มนุษย์ ( an animal ) 


       ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

       “ดิรัจฉาน : ( คำนาม ) สัตว์เว้นจากมนุษย์ เช่นหมู หมา วัว ควาย ( มักใช้เป็นคําด่า ) , ใช้ว่า เดรัจฉาน หรือ เดียรัจฉาน ก็มี. ( ป. ติรจฺฉาน ว่า ขวาง , ติรจฺฉานคต ว่า สัตว์มีร่างกายเจริญโดยขวาง )” 


       ( 1 ) “วิชา” 

       บาลีเป็น “วิชฺชา” ( วิด-ชา, ช สองตัว ) รากศัพท์มาจาก วิทฺ ( ธาตุ = รู้ ) + ณฺย ปัจจัย, ลบ ณฺ , แปลง ทฺย ( คือ ( วิ )-ทฺ + ( ณฺ )-ย ) เป็น ชฺช + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์ 

       : วิทฺ + ณฺย = วิทฺณย > วิทฺย > วิชฺช + อา = วิชฺชา แปลตามศัพท์ว่า “ธรรมชาติที่รู้” หรือ “ตัวรู้” หมายถึง ความรู้, ปัญญาหยั่งรู้ ( knowledge ; transcendental wisdom ) 

       พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “วิชฺชา” ไว้ 2 นัย คือ – 

       ( 1 ) ความหมายทั่วไป : science , craft , art , charm , spell ( ศาสตร์ , งานอาชีพ , ศิลปะ , มนต์ , คำสาป ) 

       ( 2 ) ความหมายเฉพาะ ( เช่นที่ใช้ในศาสนา ) : science , study , higher knowledge ( วิทยาศาสตร์ , การศึกษา , ความรู้ที่สูงกว่า ) 

       อย่างไรก็ตาม ในคัมภีร์ คำว่า “วิชฺชา” มักใช้ในความหมายเฉพาะ คือหมายถึงญาณปัญญาที่บรรลุได้ด้วยการฝึกจิต 

       ในที่นี้ “วิชฺชา” ใช้ในความหมายตามข้อ ( 1 ) 

       บาลี “วิชฺชา” ในภาษาไทยใช้ว่า “วิชา” ( ตัด ช ออกตัวหนึ่ง ) 

       พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า – 

       “วิชา : ( คำนาม ) ความรู้ , ความรู้ที่ได้ด้วยการเล่าเรียนหรือฝึกฝน , เช่น วิชาภาษาไทย วิชาช่าง วิชาการฝีมือ  ( ป. วิชฺชา ; ส. วิทฺยา )” 

       “วิชา” ตามความหมายในภาษาไทย ตรงกับคำว่า “สิปฺป” ( สิบ-ปะ ) ที่เราเอามาใช้ว่า “ศิลปะ” 

       “สิปฺป” ในบาลีหมายถึง ความสามารถที่จะกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้เป็นผลสำเร็จได้ กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า ทำได้ทำเป็นไม่ว่าจะในเรื่องอะไร นั่นแหละคือ “สิปฺป-ศิลปะ” หรือ “วิชา” ตามที่เข้าใจกันในภาษาไทย 

       ติรจฺฉาน + วิชฺชา = ติรจฺฉานวิชฺชา ( ติ-รัด-ฉา-นะ-วิด-ชา ) แปลตามศัพท์ว่า “วิชาที่ขวาง”

       พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “ติรจฺฉานวิชฺชา” ว่า a low art , a pseudo-science ( วิชาที่ต่ำทราม , เดรัจฉานวิชา ) 

       “ติรจฺฉานวิชฺชา” ภาษาไทยเขียน “ดิรัจฉานวิชา” คำนี้ยังไม่ได้เก็บไว้ในพจนานุกรมฯ 


ขยายความ :

       หนังสือ พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน สุชีพ ปุญญานุภาพ จัดทำ 

       ในหน้า 291 มีคำสรุปความหมายของ “ดิรัจฉานวิชา” ไว้ดังนี้ 


……………..

       ในที่นี้มีคำว่า ติรัจฉานวิชา อย่างพิสดาร ฝรั่งใช้คำว่า low art เมื่อพิจารณาตามศัพท์ “ติรัจฉาน” ซึ่งแปลว่า “ไปขวาง” ก็หมายความว่าวิชาเหล่านี้ “ขวาง” หรือไม่เข้ากับความเป็นสมณะ มิได้หมายความว่าเป็นวิชาของสัตว์ดิรัจฉาน เพราะฉะนั้นถ้อยคำที่พระไม่ควรพูด จึงจัดเป็นติรัจฉานกถา คือ ถ้อยคำที่ขวาง หรือขัดกับสมณสารูป. วิชาที่พระไม่ควรเกี่ยวจึงจัดเป็นติรัจฉานวิชาคือวิชาที่ขวางหรือขัดกับความเป็นพระ 

       ส่วนสัตว์ดิรัจฉานที่มีชื่ออย่างนั้น เพ่งกิริยาที่ไม่ได้ตั้งตัวตรงเดินไปอย่างคน แต่เอาตัวลง เอาศีรษะไปก่อน เมื่อไม่ได้ไปตรงชื่อว่าไปขวาง 


……………..

พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต บอกความหมายไว้ดังนี้ –

       ดิรัจฉานวิชา : ความรู้ที่ขวางต่อทางพระนิพพาน เช่น รู้ในการทำเสน่ห์ รู้เวทมนตร์ที่จะทำให้คนถึงวิบัติ เป็นหมอผี หมอดู หมองู หมอยา ทำพิธีบวงสรวง บนบาน แก้บน เป็นต้น เมื่อเรียนหรือใช้ปฏิบัติ ตนเองก็หลงเพลินหมกมุ่น และส่วนมากทำให้ผู้คนลุ่มหลงงมงาย ไม่เป็นอันปฏิบัติกิจหน้าที่หรือประกอบการตามเหตุผล โดยเฉพาะตัวพระภิกษุก็จะขวางกั้นขัดถ่วงตนเองให้ไม่มีกำลังและเวลาที่จะบำเพ็ญสมณธรรม, การงดเว้นจากการเลี้ยงชีพด้วยดิรัจฉานวิชา เป็นศีลของพระภิกษุตามหลักมหาศีล , ศีลนี้สำเร็จด้วยการปฏิบัติตามสิกขาบทในพระวินัยปิฎกข้อที่กำหนดแก่ภิกษุทั้งหลาย มิให้เรียน มิให้สอนดิรัจฉานวิชา และแก่ภิกษุณีทั้งหลายเช่นเดียวกัน 


……………..

       ในพรหมชาลสูตร ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค พระไตรปิฎกเล่ม 9 ข้อ 19-25 แสดงรายวิชาของ “เดรัจฉานวิชา” ไว้อย่างละเอียด ประมวลความได้รายวิชาบางส่วน เช่น –

       วิชาบวงสรวงสังเวยและพิธีกรรมต่างๆ 

       วิชาปลุกเสก 

       วิชาหมอยา 

       วิชาหมอดูประเภทต่างๆ เช่น วิชาทายลักษณะคน ลักษณะสัตว์ และลักษณะสิ่งของว่าดีร้ายอย่างไร วิชาให้ฤกษ์ยาตราทัพ 

       ดาราศาสตร์ 

       โหราศาสตร์ 

       ไสยศาสตร์ประเภทต่างๆ 

       วิชาทำนายดินฟ้าอากาศ 

       วิชาทรงเจ้าเข้าผี 

       ควรสังเกตด้วยว่า “เดรัจฉานวิชา” ที่เกิดโทษสำหรับพระภิกษุซึ่งท่านตำหนิไว้ เป็นระดับที่เรียนเพื่อประกอบอาชีพ หรือเรียนเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ หรือรับประโยชน์จากวิชาโดยตรง



- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

       ในพระสุตตันตปิฏก เล่ม 1 ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค มหาศีล หัวข้อ ติรัจฉานวิชา มีกล่าวถึงสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่กระทำหลายเรื่อง เช่น การเป็น หมอดู พรมน้ำมนต์ ดูฤกษ์ยาตราทัพ เป็นหมอผี เป็นหมอลงเลขยันต์คุ้มกันบ้านเรือน ทำนายฝัน ทำพิธีบูชาไฟ พยากรณ์โดยการดูดวงดาว ให้ฤกษ์แต่งงาน ทำพิธีแก้บน และการบวงสรวงต่างๆ 

       พร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้างที่เป็น ติรัจฉานวิชา  

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกอย่างหนึ่ง เมื่อปุถุชนกล่าวชมตถาคต พึงกล่าวเช่นนี้ว่า 

       1. พระสมณโคดม เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่ สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา

       - ทายอวัยวะ 

       - ทายนิมิต 

       - ทายอุปบาต 

       - ทำนายฝัน 

       - ทำนายลักษณะ 

       - ทำนายหนูกัดผ้า 

       - ทำพิธีบูชาไฟ 

       - ทำพิธีเบิกแว่นเวียนเทียน 

       - ทำพิธีซัดแกลบบูชาไฟ 

       - ทำพิธีซัดรำ บูชาไฟ 

       - ทำพิธีซัดข้าวสารบูชาไฟ 

       - ทำพิธีเติมเนยบูชาไฟ 

       - ทำพิธีเติมน้ำมันบูชาไฟ 

       - ทำพิธีเสกเป่า บูชาไฟ 

       - ทำพลีกรรมด้วยโลหิต 

       - เป็นหมอดูอวัยวะ 

       - ดูลักษณะที่บ้าน 

       - ดูลักษณะที่นา 

       - เป็นหมอ ปลุกเสก 

       - เป็นหมอผี 

       - เป็นหมอลงเลขยันต์คุ้มกันบ้านเรือน 

       - เป็นหมองู 

       - เป็นหมอยาพิษ 

       - เป็นหมอแมลงป่อง 

       - เป็นหมอรักษาแผลหนูกัด 

       - เป็นหมอทายเสียงนก 

       - เป็นหมอทางเสียงกา 

       - เป็นหมอทายอายุ  

       - เป็นหมอเสกกันลูกศร 

       - เป็นหมอทายเสียงสัตว์ 


       2. พระสมณโคดม เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่น อย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิด ด้วยติรัจฉานวิชา 

       - ทายลักษณะแก้วมณี 

       - ทายลักษณะไม้พลอง 

       - ทายลักษณะผ้า 

       - ทายลักษณะศาตรา 

       - ทายลักษณะดาบ 

       - ทายลักษณะศร 

       - ทายลักษณะธนู 

       - ทายลักษณะอาวุธ

       - ทายลักษณะสตรี 

       - ทายลักษณะบุรุษ 

       - ทายลักษณะกุมาร 

       - ทายลักษณะกุมารี 

       - ทายลักษณะทาส 

       - ทายลักษณะทาสี 

       - ทายลักษณะช้าง 

       - ทายลักษณะม้า 

       - ทายลักษณะกระบือ 

       - ทายลักษณะโคอุสภะ 

       - ทายลักษณะโค 

       - ทายลักษณะแพะ 

       - ทายลักษณะแกะ 

       - ทายลักษณะไก่ 

       - ทายลักษณะนกกระทา 

       - ทายลักษณะเหี้ย 

       - ทายลักษณะตุ่น 

       - ทายลักษณะเต่า 

       -ทายลักษณะมฤค 


       3. พระสมณโคดม เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่น อย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิด ด้วยติรัจฉานวิชา 

       - ดูฤกษ์ยาตราทัพว่า พระราชาจักยกออก 

       - ดูฤกษ์ยาตราทัพว่า พระราชาจักไม่ยกออก 

       - ดูฤกษ์ยาตราทัพว่า พระราชาภายในจักยกเข้าประชิด 

       - ดูฤกษ์ยาตราทัพว่า พระราชาภายนอกจักถอย 

       - ดูฤกษ์ยาตราทัพว่า พระราชาภายนอกจักยกเข้าประชิด 

       - ดูฤกษ์ยาตราทัพว่า พระราชาภายในจักถอย 

       - ดูฤกษ์ยาตราทัพว่า พระราชาภายในจักมีชัย 

       - ดูฤกษ์ยาตราทัพว่า พระราชาภายนอกจักปราชัย 

       - ดูฤกษ์ยาตราทัพว่า พระราชาภายนอกจักมีชัย 

       - ดูฤกษ์ยาตราทัพว่า พระราชาภายในจักปราชัย 

       - ดูฤกษ์ยาตราทัพว่า พระราชาพระองค์นี้จักมีชัย 

       - ดูฤกษ์ยาตราทัพว่า พระราชาพระองค์นี้จักปราชัย 


       4. พระสมณโคดม เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่น อย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิด ด้วยติรัจฉานวิชา

       - พยากรณ์ว่า จักมีจันทรคราส 

       - พยากรณ์ว่า จักมีสุริยคราส 

       - พยากรณ์ว่า จักมีนักษัตรคราส 

       - พยากรณ์ว่า ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์จักเดินถูกทาง 

       - พยากรณ์ว่า ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์จักเดินผิดทาง 

       - พยากรณ์ว่า ดาวนักษัตรจักเดินถูกทาง 

       - พยากรณ์ว่า ดาวนักษัตรจักเดินผิดทาง 

       - พยากรณ์ว่า จักมีอุกกาบาต 

       - พยากรณ์ว่า จักมีดาวหาง 

       - พยากรณ์ว่า จักมีแผ่นดินไหว 

       - พยากรณ์ว่า จักมีฟ้าร้อง 

       - พยากรณ์ว่า ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรจักขึ้น 

       - พยากรณ์ว่า ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรจักตก 

       - พยากรณ์ว่า ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรจักมัวหมอง 

       - พยากรณ์ว่า ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรจักกระจ่าง 

       - พยากรณ์ว่า จันทรคราสจักมีผลเป็นอย่างนี้ 

       - พยากรณ์ว่า สุริยคราสจักมีผลเป็นอย่างนี้ 

       - พยากรณ์ว่า นักษัตรคราสจักมีผลเป็นอย่างนี้ 

       - พยากรณ์ว่า ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์เดินถูกทางจักมีผลเป็นอย่างนี้ 

       - พยากรณ์ว่า ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์เดินผิดทางจักมีผลเป็นอย่างนี้ 

       - พยากรณ์ว่า ดาวนักษัตรเดินถูกทางจักมีผลเป็นอย่างนี้ 

       - พยากรณ์ว่า ดาวนักษัตรเดินผิดทางจักมีผลเป็นอย่างนี้ 

       - พยากรณ์ว่า มีอุกกาบาต จักมีผลเป็นอย่างนี้ 

       - พยากรณ์ว่า มีดาวหางจักมีผลเป็นอย่างนี้ 

       - พยากรณ์ว่า แผ่นดินไหวจักมีผลเป็นอย่างนี้ 

       - พยากรณ์ว่า ฟ้าร้องจักมีผลเป็นอย่างนี้ 

       - พยากรณ์ว่า ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรขึ้นจักมีผลเป็นอย่างนี้ 

       - พยากรณ์ว่า ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ และดาวนักษัตรตกจักมีผลเป็นอย่างนี้ 

       - พยากรณ์ว่า ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรมัวหมองจักมีผลเป็นอย่างนี้ 

       - พยากรณ์ว่า ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรกระจ่างจักมีผลเป็นอย่างนี้ 


       5. พระสมณโคดม เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่น อย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิด ด้วยติรัจฉานวิชา 

       - พยากรณ์ว่า จักมีฝนดี 

       - พยากรณ์ว่า จักมีฝนแล้ง 

       - พยากรณ์ว่า จักมีภิกษาหาได้ง่าย 

       - พยากรณ์ว่า จักมีภิกษาหาได้ยาก

       - พยากรณ์ว่า จักมีความเกษม 

       - พยากรณ์ว่า จักมีภัย จักเกิดโรค 

       - พยากรณ์ว่า จักมีความสำราญหาโรคมิได้ 

       - หรือนับคะแนนคำนวณ นับประมวล แต่งกาพย์ โลกายตศาสตร์ 


       6. พระสมณโคดม เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่น อย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิด ด้วยติรัจฉานวิชา

       - ให้ฤกษ์อาวาหมงคล 

       - ให้ฤกษ์วิวาหมงคล 

       - ดูฤกษ์เรียงหมอน 

       - ดูฤกษ์หย่าร้าง 

       - ดูฤกษ์เก็บทรัพย์ 

       - ดูฤกษ์จ่ายทรัพย์ 

       - ดูโชคดี 

       - ดูเคราะห์ร้าย 

       - ให้ยาผดุงครรภ์ 

       - ร่ายมนต์ให้ลิ้นกระด้าง 

       - ร่ายมนต์ให้คางแข็ง 

       - ร่ายมนต์ให้มือสั่น 

       - ร่ายมนต์ไม่ให้หูได้ยินเสียง 

       - เป็นหมอทรงกระจก 

       - เป็นหมอทรงหญิงสาว 

       - เป็นหมอทรงเจ้า 

       - บวงสรวงพระอาทิตย์ 

       - บวงสรวงท้าวมหาพรหม 

       - ร่ายมนต์พ่นไฟ 

       - ทำพิธีเชิญขวัญ 


       7. พระสมณโคดม เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่น อย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิด ด้วยติรัจฉานวิชา 

       - ทำพิธีบนบาน 

       - ทำพิธีแก้บน 

       - ร่ายมนต์ขับผี 

       - สอนมนต์ป้องกันบ้านเรือน 

       - ทำกะเทยให้กลับเป็นชาย

       - ทำชายให้กลายเป็นกะเทย 

       - ทำพิธีปลูกเรือน 

       - ทำพิธีบวงสรวงพื้นที่ 

       - พ่นน้ำมนต์ 

       - รดน้ำมนต์ 

       - ทำพิธีบูชาไฟ 

       - ปรุงยาสำรอก 

       - ปรุงยาถ่าย 

       - ปรุงยาถ่ายโทษเบื้องบน 

       - ปรุงยาถ่ายโทษเบื้องล่าง 

       - ปรุงยาแก้ปวดศีรษะ 

       - หุงน้ำมันหยอดหู 

       - ปรุงยาตา 

       - ปรุงยานัดถุ์ 

       - ปรุงยาทากัด 

       - ปรุงยาทาสมาน 

       - ป้ายยาตา 

       - ทำการผ่าตัดรักษาเด็ก 

       - ใส่ยา ชะแผล 


- จบ -