Tuesday, September 14, 2021

อุโบสถขันธกะ : ทำอุโบสถไม่ต้องอาบัติ 15 ข้อ

 

คำตรัสจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า

เรื่อง อุโบสถขันธกะ : ทำอุโบสถไม่ต้องอาบัติ 15 ข้อ



ทำอุโบสถไม่ต้องอาบัติ 15 ข้อ


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 191 )


       385. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ในอาวาสแห่งหนึ่ง ถึงวันอุโบสถ มีภิกษุเจ้าถิ่นในศาสนานี้มากรูปด้วยกัน แต่ประชุมกัน 4 รูปบ้าง เกินกว่าบ้าง

       พวกเธอไม่รู้ว่ายังมีภิกษุเจ้าถิ่นพวกอื่นที่ยังไม่มา 

       พวกเธอมีความสำคัญว่าเป็นธรรม มีความสำคัญว่าเป็นวินัย

       เป็นหมู่ มีความสำคัญว่าพร้อมกัน

       จึงทำอุโบสถ สวดปาติโมกข์ 

       เมื่อพวกเธอกำลังสวดปาติโมกข์ ขณะนั้น มีภิกษุเจ้าถิ่นพวกอื่นมาถึง มีจำนวนมากกว่า

       ภิกษุเหล่านั้นต้องสวดปาติโมกข์ใหม่ 

       พวกภิกษุผู้สวด ไม่ต้องอาบัติ 


       386. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในอาวาสแห่งหนึ่ง ถึงวันอุโบสถ มีภิกษุเจ้าถิ่นในศาสนานี้มากรูปด้วยกัน แต่ประชุมกัน 4 รูปบ้าง เกินกว่าบ้าง

       พวกเธอไม่รู้ว่า ยังมีภิกษุเจ้าถิ่นพวกอื่นที่ยังไม่มา

       พวกเธอมีความสำคัญว่าเป็นธรรม มีความสำคัญว่าเป็นวินัย 

       เป็นหมู่ มีความสำคัญว่าพร้อมกัน

       จึงทำอุโบสถ สวดปาติโมกข์ 

       เมื่อพวกเธอกำลังสวดปาติโมกข์ ขณะนั้น มีภิกษุเจ้าถิ่นพวกอื่นมาถึง มีจำนวนเท่ากัน

       ปาติโมกข์ที่สวดแล้วก็เป็นอันสวดดีแล้ว 

       พวกภิกษุผู้มาทีหลัง พึงฟังส่วนที่ยังเหลือต่อไป

       พวกภิกษุผู้สวด ไม่ต้องอาบัติ 


       387. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในอาวาสแห่งหนึ่ง ถึงวันอุโบสถ มีภิกษุเจ้าถิ่นในศาสนานี้มากรูปด้วยกัน แต่ประชุมกัน 4 รูปบ้าง เกินกว่าบ้าง

       พวกเธอไม่รู้ว่า ยังมีภิกษุเจ้าถิ่นพวกอื่นที่ยังไม่มา 

       พวกเธอมีความสำคัญว่าเป็นธรรม มีความสำคัญว่าเป็นวินัย 

       เป็นหมู่ มีความสำคัญว่าพร้อมกัน

       จึงทำอุโบสถ สวดปาติโมกข์ 

       เมื่อพวกเธอกำลังสวดปาติโมกข์ ขณะนั้น มีภิกษุเจ้าถิ่นพวกอื่นมาถึง มีจำนวนน้อยกว่า

       ปาติโมกข์ที่สวดแล้วก็เป็นอันสวดดีแล้ว 

       พวกภิกษุผู้มาทีหลัง พึงฟังสวดที่ยังเหลือต่อไป

       พวกภิกษุผู้สวด ไม่ต้องอาบัติ 


       388. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในอาวาสแห่งหนึ่ง ถึงวันอุโบสถ มีภิกษุเจ้าถิ่นในศาสนานี้มากรูปด้วยกัน แต่ประชุมกัน 4 รูปบ้าง เกินกว่าบ้าง

       พวกเธอไม่รู้ว่า ยังมีภิกษุเจ้าถิ่นพวกอื่นที่ยังไม่มา

       พวกเธอมีความสำคัญว่าเป็นธรรม มีความสำคัญว่าเป็นวินัย 

       เป็นหมู่ มีความสำคัญว่าพร้อมกัน

       จึงทำอุโบสถ สวดปาติโมกข์ 

       พอพวกเธอสวดปาติโมกข์จบ ขณะนั้น มีภิกษุเจ้าถิ่นพวกอื่นมาถึง มีจำนวนมากกว่า

       ภิกษุเหล่านั้นต้องสวดปาติโมกข์ใหม่ 

       พวกภิกษุผู้สวด ไม่ต้องอาบัติ 


       389. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในอาวาสแห่งหนึ่ง ถึงวันอุโบสถ มีภิกษุเจ้าถิ่นในศาสนานี้มากรูปด้วยกัน แต่ประชุมกัน 4 รูปบ้าง เกินกว่าบ้าง

       พวกเธอไม่รู้ว่า ยังมีภิกษุเจ้าถิ่นพวกอื่นที่ยังไม่มา 

       พวกเธอมีความสำคัญว่าเป็นธรรม มีความสำคัญว่าเป็นวินัย 

       เป็นหมู่ มีความสำคัญว่าพร้อมกัน

       จึงทำอุโบสถ สวดปาติโมกข์ 

       พอพวกเธอสวดปาติโมกข์จบ ขณะนั้น มีภิกษุเจ้าถิ่นพวกอื่นมาถึง มีจำนวนเท่ากัน

       ปาติโมกข์ที่สวดแล้วก็เป็นอันสวดดีแล้ว 

       พวกภิกษุผู้มาทีหลัง พึงบอก ปาริสุทธิ ในสำนักพวกเธอ

       พวกภิกษุผู้สวด ไม่ต้องอาบัติ 


       390. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในอาวาสแห่งหนึ่ง ถึงวันอุโบสถ มีภิกษุเจ้าถิ่นในศาสนานี้มากรูปด้วยกัน แต่ประชุมกัน 4 รูปบ้าง เกินกว่าบ้าง

       พวกเธอไม่รู้ว่า ยังมีภิกษุเจ้าถิ่นพวกอื่นที่ยังไม่มา 

       พวกเธอมีความสำคัญว่าเป็นธรรม มีความสำคัญว่าเป็นวินัย 

       เป็นหมู่ มีความสำคัญว่าพร้อมกัน

       จึงทำอุโบสถ สวดปาติโมกข์ 

       พวกเธอสวดปาติโมกข์จบ ขณะนั้น มีภิกษุเจ้าถิ่นพวกอื่นมาถึงมีจำนวนน้อยกว่า

       ปาติโมกข์ที่สวดแล้วก็เป็นอันสวดดีแล้ว 

       พวกภิกษุผู้มาทีหลัง พึงบอกปาริสุทธิในสำนักพวกเธอ

       พวกภิกษุผู้สวด ไม่ต้องอาบัติ 


       391. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในอาวาสแห่งหนึ่ง ถึงวันอุโบสถ มีภิกษุเจ้าถิ่นในศาสนานี้มากรูปด้วยกัน แต่ประชุมกัน 4 รูปบ้าง เกินกว่าบ้าง

       พวกเธอไม่รู้ว่า ยังมีภิกษุเจ้าถิ่นพวกอื่นที่ยังไม่มา 

       พวกเธอมีความสำคัญว่าเป็นธรรม มีความสำคัญว่าเป็นวินัย 

       เป็นหมู่ มีความสำคัญว่าพร้อมกัน

       จึงทำอุโบสถ สวดปาติโมกข์ 

       พอพวกเธอสวดปาติโมกข์จบ บริษัทยังไม่ทันลุกไป ขณะนั้น มีภิกษุเจ้าถิ่นพวกอื่นมาถึง มีจำนวนมากกว่า

       ภิกษุเหล่านั้นต้องสวดปาติโมกข์ใหม่

       พวกภิกษุผู้สวด ไม่ต้องอาบัติ 


       392. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในอาวาสแห่งหนึ่ง ถึงวันอุโบสถ มีภิกษุเจ้าถิ่นในศาสนานี้มากรูปด้วยกัน แต่ประชุมกัน 4 รูปบ้าง เกินกว่าบ้าง

       พวกเธอไม่รู้ว่า ยังมีภิกษุเจ้าถิ่นพวกอื่นที่ยังไม่มา 

       พวกเธอมีความสำคัญว่าเป็นธรรม มีความสำคัญว่าเป็นวินัย

       เป็นหมู่ มีความสำคัญว่าพร้อมกัน จึงทำอุโบสถ สวดปาติโมกข์ 

       พอพวกเธอสวดปาติโมกข์จบ บริษัทยังไม่ทันลุกไป ขณะนั้น มีภิกษุเจ้าถิ่นพวกอื่นมาถึงมีจำนวนเท่ากัน …

 
       393. ดูกรภิกษุทั้งหลาย … มีจำนวนน้อยกว่า ปาติโมกข์ที่สวดแล้วก็เป็นอันสวดดีแล้ว

       พวกภิกษุผู้มาทีหลัง พึงบอก ปาริสุทธิ ในสำนักพวกเธอ

       พวกภิกษุผู้สวด ไม่ต้องอาบัติ 


       394. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในอาวาสแห่งหนึ่ง ถึงวันอุโบสถ มีภิกษุเจ้าถิ่นในศาสนานี้มากรูปด้วยกัน แต่ประชุมกัน 4 รูปบ้าง เกินกว่าบ้าง

       พวกเธอไม่รู้ว่า ยังมีภิกษุเจ้าถิ่นพวกอื่นที่ยังไม่มา 

       พวกเธอมีความสำคัญว่าเป็นธรรม มีความสำคัญว่าเป็นวินัย

       เป็นหมู่ มีความสำคัญว่าพร้อมกัน

       จึงทำอุโบสถ สวดปาติโมกข์ 

       พอพวกเธอสวดปาติโมกข์จบ บริษัทบางพวกลุกไปแล้ว ขณะนั้น มีภิกษุเจ้าถิ่นพวกอื่นมาถึง มีจำนวนมากกว่า

       ภิกษุเหล่านั้นต้องสวดปาติโมกข์ใหม่

       พวกภิกษุผู้สวด ไม่ต้องอาบัติ 


       395. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในอาวาสแห่งหนึ่ง ถึงวันอุโบสถ มีภิกษุเจ้าถิ่นในศาสนานี้มากรูปด้วยกัน แต่ประชุมกัน 4 รูปบ้าง เกินกว่าบ้าง

       พวกเธอไม่รู้ว่า ยังมีภิกษุเจ้าถิ่นพวกอื่นที่ยังไม่มา 

       พวกเธอมีความสำคัญว่าเป็นธรรม มีความสำคัญว่าเป็นวินัย 

       เป็นหมู่ มีความสำคัญว่าพร้อมกัน

       จึงทำอุโบสถ สวดปาติโมกข์ 

       พอภิกษุเหล่านั้นสวดปาติโมกข์จบ บริษัทบางพวกลุกไปแล้ว ขณะนั้นมีภิกษุเจ้าถิ่นพวกอื่นมาถึง มีจำนวนเท่ากัน … 


       396. ดูกรภิกษุทั้งหลาย … มีจำนวนน้อยกว่า

       ปาติโมกข์ที่สวดแล้ว ก็เป็นอันสวดดีแล้ว

       พวกภิกษุผู้มาทีหลัง พึงบอก ปาริสุทธิ ในสำนักพวกเธอ

       พวกภิกษุผู้สวด ไม่ต้องอาบัติ 


       397. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในอาวาสแห่งหนึ่ง ถึงวันอุโบสถ มีภิกษุเจ้าถิ่นในศาสนานี้มากรูปด้วยกัน แต่ประชุมกัน 4 รูปบ้าง เกินกว่าบ้าง

       พวกเธอไม่รู้ว่า ยังมีภิกษุเจ้าถิ่นพวกอื่นที่ยังไม่มา 

       พวกเธอมีความสำคัญว่าเป็นธรรม มีความสำคัญว่าเป็นวินัย

       เป็นหมู่ มีความสำคัญว่าพร้อมกัน

       จึงทำอุโบสถ สวดปาติโมกข์ 

       พอพวกเธอสวดปาติโมกข์จบ บริษัทลุกไปหมดแล้ว ขณะนั้น มีภิกษุเจ้าถิ่นพวกอื่นมาถึง มีจำนวนมากกว่า

       ภิกษุเหล่านั้น ต้องสวดปาติโมกข์ใหม่

       พวกภิกษุผู้สวด ไม่ต้องอาบัต 


       398. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในอาวาสแห่งหนึ่ง ถึงวันอุโบสถ มีภิกษุเจ้าถิ่นในศาสนานี้มากรูปด้วยกัน แต่ประชุมกัน 4 รูปบ้าง เกินกว่าบ้าง

       พวกเธอไม่รู้ว่า ยังมีภิกษุเจ้าถิ่นพวกอื่นที่ยังไม่มา 

       พวกเธอมีความสำคัญว่าเป็นธรรม มีความสำคัญว่าเป็นวินัย 

       เป็นหมู่ มีความสำคัญว่าพร้อมกัน

       จึงทำอุโบสถ สวดปาติโมกข์ 

       พอพวกเธอสวดปาติโมกข์จบ บริษัทลุกไปหมดแล้ว ขณะนั้น มีภิกษุเจ้าถิ่นพวกอื่นมาถึง มีจำนวนเท่ากัน … 


       399. ดูกรภิกษุทั้งหลาย …

       มีจำนวนน้อยกว่า ปาติโมกข์ที่สวดแล้ว ก็เป็นอันสวดดีแล้ว

       พวกภิกษุผู้มาทีหลัง พึงบอก ปาริสุทธิ ในสำนักพวกเธอ

       พวกภิกษุผู้สวด ไม่ต้องอาบัติ 


* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) นำมาจากพระไตรปิฎก  /  หัวข้อใหญ่สุด : อาจารโคจรสมฺปนฺนา  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : คัมภีร์ มหาวรรค ภาค 1 ( วินัยปิฎก เล่มที่ 4 )  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : ขันธ์ที่ 2 : อุโบสถขันธกะ  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : อุโบสถขันธกะ : ทำอุโบสถไม่ต้องอาบัติ 15 ข้อ 



* * * อีกช่องทางหนึ่ง คือ สามารถอ่านได้ใน หนังสือ พุทธวจน เรื่อง อริยวินัย  /  หน้าที่ : 299 , 300 , 301 , 302 , 303



- END -