Tuesday, September 21, 2021

วัสสูปนายิกขันธกะ : อันตรายของภิกษุผู้จำพรรษา

 

คำตรัสจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า

เรื่อง วัสสูปนายิกขันธกะ : อันตรายของภิกษุผู้จำพรรษา
 



อันตรายของภิกษุผู้จำพรรษา


* * * ถูกสัตว์ร้ายเบียดเบียนเป็นต้น 


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 214 )  


       ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุทั้งหลายจำพรรษาในอาวาสแห่งหนึ่งในโกศลชนบท 

       ถูกเหล่าสัตว์ร้ายเบียดเบียน มันจับเอาไปได้บ้าง หนีมันรอดมาได้บ้าง …

       ตรัสว่า 



       808. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุทั้งหลายในศาสนานี้จำพรรษาแล้วถูกสัตว์ร้ายเบียดเบียน มันจับเอาไปได้บ้าง หนีมันรอดมาได้บ้าง 

       พวกเธอพึงหลีกไปด้วยความสำคัญว่า นั่นแลอันตราย

       ไม่ต้องอาบัติ

       แต่พรรษาขาด 


       809. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุทั้งหลายในศาสนานี้จำพรรษาแล้ว ถูกงูเบียดเบียน มันขบกัดเอาบ้าง หนีมันรอดมาได้บ้าง 

       พวกเธอพึงหลีกไปด้วยสำคัญว่า นั่นแลอันตราย

       ไม่ต้องอาบัติ

       แต่พรรษาขาด 


       810. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุทั้งหลายในศาสนานี้จำพรรษาแล้ว พวกโจรเบียดเบียน มันปล้นบ้าง รุมตีบ้าง

       พวกเธอพึงหลีกไปด้วยสำคัญว่า นั่นแลอันตราย

       ไม่ต้องอาบัติ

       แต่พรรษาขาด 


       811. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุทั้งหลายในศาสนานี้จำพรรษาแล้ว ถูกพวกปิศาจรบกวน มันเข้าสิงบ้าง พาเอาไปบ้าง 

       พวกเธอพึงหลีกไปด้วยสำคัญว่า นั่นแลอันตราย

       ไม่ต้องอาบัติ 

       แต่พรรษาขาด 


       812. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง เมื่อภิกษุทั้งหลายในศาสนานี้จำพรรษาแล้ว หมู่บ้านประสบอัคคีภัย

       ภิกษุทั้งหลายลำบากด้วยบิณฑบาต 

       พวกเธอพึงหลีกไปด้วยสำคัญว่า นั่นแลอันตราย

       ไม่ต้องอาบัติ 

       แต่พรรษาขาด 


       813. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง เมื่อภิกษุทั้งหลายในศาสนานี้จำพรรษาแล้ว เสนาสนะถูกไฟไหม้

       ภิกษุทั้งหลายเดือดร้อนด้วยเสนาสนะ 

       พวกเธอพึงหลีกไปด้วยสำคัญว่า นั่นแลอันตราย

       ไม่ต้องอาบัติ 

       แต่พรรษาขาด 


       814. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง เมื่อภิกษุทั้งหลายในศาสนานี้จำพรรษาแล้ว หมู่บ้านประสบอุทกภัย

       ภิกษุทั้งหลายลำบากด้วยบิณฑบาต 

       พวกเธอพึงหลีกไปด้วยสำคัญว่า นั่นแลอันตราย

       ไม่ต้องอาบัติ 

       แต่พรรษาขาด 


       815. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง เมื่อภิกษุทั้งหลายในศาสนานี้จำพรรษาแล้ว เสนาสนะถูกน้ำท่วม

       ภิกษุทั้งหลายเดือดร้อนด้วยเสนาสนะ

       พวกเธอพึงหลีกไปด้วยสำคัญว่า นั่นแลอันตราย 

       ไม่ต้องอาบัติ 

       แต่พรรษาขาด 


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 215 )  


       ก็โดยสมัยนั้นแล เมื่อภิกษุทั้งหลายจำพรรษาในอาวาสแห่งหนึ่ง ชาวบ้านอพยพไปเพราะพวกโจรภัย …

       ตรัสว่า 


       816. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ไปตามชาวบ้าน 


       ชาวบ้านแยกกันเป็นสองพวก …

       ตรัสว่า 


       817. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ไปตามชาวบ้านที่มากกว่า 


       ชาวบ้านที่มากกว่าเป็นผู้ไม่มีศรัทธา ไม่เลื่อมใส …

       ตรัสว่า  


       818. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ไปตามชาวบ้านที่มีศรัทธาเลื่อมใส 


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 216 )  


       ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุทั้งหลายจำพรรษาในอาวาสแห่งหนึ่งในโกศลชนบท ไม่ได้โภชนาหารอันเศร้าหมองหรือประณีตบริบูรณ์ตามต้องการ …

       ตรัสว่า 


       819. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุทั้งหลายในศาสนานี้จำพรรษาแล้ว

       ไม่ได้โภชนาหารอันเศร้าหมองหรือประณีตบริบูรณ์ตามต้องการ 

       พวกเธอพึงหลีกไปด้วยสำคัญว่า นั่นแลอันตราย

       ไม่ต้องอาบัติ 

       แต่พรรษาขาด 


       820. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุทั้งหลายในศาสนานี้จำพรรษาแล้ว

       ได้โภชนาหารอันเศร้าหมองหรือประณีตบริบูรณ์ตามต้องการ

       แต่ไม่ได้โภชนาหารอันเป็นที่สบาย

       พวกเธอพึงหลีกไปด้วยสำคัญว่านั่นแลอันตราย 

       ไม่ต้องอาบัติ 

       แต่พรรษาขาด 


       821. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุทั้งหลายในศาสนานี้จำพรรษาแล้ว

       ได้โภชนาหารอันเศร้าหมองหรือประณีตบริบูรณ์ตามต้องการ 

       และได้โภชนาหารอันเป็นที่สบาย 

       แต่ไม่ได้เภสัชอันเป็นที่สบาย 

       พวกเธอพึงหลีกไปด้วยสำคัญว่า นั่นแลอันตราย

       ไม่ต้องอาบัติ 

       แต่พรรษาขาด 


       822. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุทั้งหลายในศาสนานี้จำพรรษาแล้ว 

       ได้โภชนาหารอันเศร้าหมองหรือประณีตบริบูรณ์ตามต้องการ  

       ได้โภชนาหารอันเป็นที่สบาย  

       ได้เภสัชอันเป็นที่สบาย 

       แต่ไม่ได้ อุปัฏฐาก ที่สมควร 

       พวกเธอพึงหลีกไปด้วยสำคัญว่า นั่นแลอันตราย 

       ไม่ต้องอาบัติ

       แต่พรรษาขาด 


       823. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้จำพรรษาแล้ว 

       สตรีนิมนต์ว่า ขอท่านจงมาเถิดเจ้าข้า ดิฉันจะถวาย เงิน ทอง นา สวน พ่อโค แม่โค ทาส ทาสี แก่ท่าน จะยกลูกสาวให้เป็นภรรยาของท่าน ดิฉันจะยอมเป็นภรรยาของท่าน หรือมิฉะนั้น
จะนำสตรีอื่นมาให้เป็นภรรยาของท่าน

       ในเรื่องนั้น ถ้าภิกษุจะคิดอย่างนี้ว่า พระผู้มีพระภาคตรัสว่า จิตเป็นธรรมชาติ กลับกลอกเร็วนัก สักหน่อยจะเป็นอันตรายแก่พรหมจรรย์ของเราก็ได้

       พึงหลีกไปเสีย 

       ไม่ต้องอาบัติ  

       แต่พรรษาขาด 


       824. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้จำพรรษาแล้ว 

       หญิงแพศยานิมนต์ … 


       825. … หญิงสาวเทื้อนิมนต์ … 


       826. … บัณเฑาะก์นิมนต์ … 


       827.… พวกญาตินิมนต์ …  


       828. … พระราชาทั้งหลายนิมนต์ … 


       829.… พวกโจรนิมนต์ … 


       830. … พวกนักเลงนิมนต์ว่า ขอท่านมาเถิดขอรับ พวกข้าพเจ้าจักถวาย เงิน ทอง นา สวน พ่อโค แม่โค ทาส ทาสี แก่ท่าน จะยกลูกสาวให้เป็นภรรยาท่าน หรือจะนำสตรีอื่นมาให้เป็นภรรยาของท่าน 

       ในเรื่องนั้น ถ้าภิกษุจะคิดอย่างนี้ว่า พระผู้มีพระภาคตรัสว่า จิตเป็นธรรมชาติ กลับกลอกเร็วนัก สักหน่อยจะเป็นอันตรายแก่พรหมจรรย์ของเราก็ได้

       พึงหลีกไปเสีย 

       ไม่ต้องอาบัติ  

       แต่พรรษาขาด 


       831. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้จำพรรษาแล้ว พบทรัพย์ไม่มีเจ้าของ

       ในเรื่องนั้น ถ้าภิกษุจะคิดอย่างนี้ว่า พระผู้มีพระภาคตรัสว่า จิตเป็นธรรมชาติ กลับกลอกเร็วนัก สักหน่อยจะเป็นอันตรายแก่พรหมจรรย์ของเราก็ได้

       พึงหลีกไปเสีย  

       ไม่ต้องอาบัติ  

       แต่พรรษาขาด 


       832. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้จำพรรษาแล้ว เห็นภิกษุมากรูปด้วยกัน กำลังตะเกียกตะกายเพื่อทำลายสงฆ์ 

       ในเรื่องนั้นถ้าภิกษุจะคิดอย่างนี้ว่า พระผู้มีพระภาคตรัสว่า การทำลายสงฆ์เป็นกรรมหนักนัก เมื่อเราอยู่พร้อมหน้า สงฆ์อย่าแตกกันเลย 

       พึงหลีกไปเสีย  

       ไม่ต้องอาบัติ  

       แต่พรรษาขาด 


       833. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้จำพรรษาแล้ว

       ได้สดับข่าวว่า ภิกษุมากรูปด้วยกัน กำลังตะเกียกตะกายเพื่อทำลายสงฆ์ 

       ในเรื่องนั้น ถ้าภิกษุจะคิดอย่างนี้ว่า พระผู้มีพระภาคตรัสว่า การทำลายสงฆ์เป็นกรรมหนักนัก เมื่อเรายังอยู่พร้อมหน้า สงฆ์อย่าแตกกันเลย

       พึงหลีกไปเสีย  

       ไม่ต้องอาบัติ 

       แต่พรรษาขาด 


       834. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้จำพรรษาแล้ว

       ได้สดับข่าวว่า ในอาวาสชื่อโน้น ภิกษุมากรูปด้วยกัน กำลังตะเกียกตะกายเพื่อทำลายสงฆ์

       ในเรื่องนั้น ถ้าภิกษุจะคิดอย่างนี้ว่า ภิกษุเหล่านั้นล้วนเป็นมิตรของเรา

       เราจักว่ากล่าวพวกเธอว่า อาวุโสทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคตรัสว่า การทำลายสงฆ์เป็นกรรมหนักนัก พวกท่านอย่าพอใจทำลายสงฆ์เลย

       ดังนี้ พวกเธอจักทำตาม จักเชื่อฟังคำของเรา จักเงี่ยโสตลงสดับ

       พึงหลีกไปเสีย  

       ไม่ต้องอาบัติ  

       แต่พรรษาขาด 


       835. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้จำพรรษาแล้ว

       ได้สดับข่าวว่า ในอาวาสชื่อโน้น ภิกษุมากรูปด้วยกัน กำลังตะเกียกตะกายเพื่อทำลายสงฆ์

       ในเรื่องนั้น ถ้าภิกษุจะคิดอย่างนี้ว่า ภิกษุเหล่านั้นไม่ใช่มิตรของเราเลย แต่ภิกษุที่เป็นมิตรของภิกษุเหล่านั้น เป็นมิตรกับเรา เราจักบอกกับภิกษุเหล่านั้น

       ภิกษุที่เราบอกแล้วนั้น จักว่ากล่าวพวกเธอว่า อาวุโสทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคตรัสว่า การทำลายสงฆ์ เป็นกรรมหนักนัก พวกท่านอย่าพอใจทำลายสงฆ์เลย ดังนี้ 

       พวกเธอจักทำตาม จักเชื่อฟังคำของเรา จักเงี่ยโสตลงสดับ  

       พึงหลีกไปเสีย

       ไม่ต้องอาบัติ  

       แต่พรรษาขาด 


       836. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้จำพรรษาแล้ว

       ได้สดับข่าวว่า ในอาวาสชื่อโน้น ภิกษุมากรูปด้วยกัน ได้ทำลายสงฆ์แล้ว 

       ในเรื่องนั้น ถ้าภิกษุจะคิดอย่างนี้ว่า ภิกษุเหล่านั้นล้วนเป็นมิตรของเรา 

       เราจักว่ากล่าวพวกเธอว่า อาวุโสทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคตรัสว่า การทำลายสงฆ์เป็นกรรมหนักนัก พวกท่านอย่าพอใจทำลายสงฆ์เลย ดังนี้

       พวกเธอจักทำตามจักเชื่อฟังคำของเรา จักเงี่ยโสตลงสดับ  

       พึงหลีกไปเสีย

       ไม่ต้องอาบัติ 

       แต่พรรษาขาด  


       837. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้จำพรรษาแล้ว 

       ได้สดับข่าวว่า ในอาวาสชื่อโน้น ภิกษุมากรูปด้วยกัน ได้ทำลายสงฆ์แล้ว 

       ในเรื่องนั้น ถ้าภิกษุจะคิดอย่างนี้ว่า ภิกษุเหล่านั้นมิใช่มิตรของเราเลย แต่ภิกษุที่เป็นมิตรของภิกษุเหล่านั้นเป็นมิตรกับเรา เราจักบอกภิกษุเหล่านั้น

       ภิกษุที่เราบอกแล้วนั้น จักว่ากล่าวพวกเธอว่า อาวุโสทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคตรัสว่า การทำลายสงฆ์เป็นกรรมหนักนัก พวกท่านอย่าพอใจทำลายสงฆ์เลย ดังนี้

       พวกเธอจักทำตาม จักเชื่อฟังคำของเรา จักเงี่ยโสตลงสดับ

       พึงหลีกไปเสีย 

       ไม่ต้องอาบัติ  

       แต่พรรษาขาด 


       838. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้จำพรรษาแล้ว

       ได้สดับข่าวว่า ในอาวาสชื่อโน้น ภิกษุณีมากรูปด้วยกัน กำลังตะเกียกตะกายเพื่อทำลายสงฆ์

       ในเรื่องนั้น ถ้าภิกษุจะคิดอย่างนี้ว่า ภิกษุณีเหล่านั้นล้วนเป็นมิตรของเรา

       เราจักว่ากล่าวพวกเธอว่า ดูกรน้องหญิงทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคตรัสว่า การทำลายสงฆ์เป็นกรรมหนักนัก พวกน้องหญิงอย่าพอใจทำลายสงฆ์เลย ดังนี้

       พวกเธอจักทำตาม จักเชื่อฟังคำของเรา จักเงี่ยโสตลงสดับ 

       พึงหลีกไปเสีย

       ไม่ต้องอาบัติ  

       แต่พรรษาขาด 


       839. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้จำพรรษาแล้ว 

       ได้สดับข่าวว่า ในอาวาสชื่อโน้น ภิกษุณีมากรูปด้วยกัน กำลังตะเกียกตะกายเพื่อทำลายสงฆ์ 

       ในเรื่องนั้น ถ้าภิกษุจะคิดอย่างนี้ว่า ภิกษุณีเหล่านั้นมิใช่มิตรของเราเลย แต่ภิกษุณีที่เป็นมิตรของภิกษุณีเหล่านั้น เป็นมิตรกับเรา เราจักบอกภิกษุณีเหล่านั้น 

       ภิกษุณีที่เราบอกแล้วนั้น จักว่ากล่าวพวกเธอว่า ดูกรน้องหญิงทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคตรัสว่า การทำลายสงฆ์เป็นกรรมหนักนัก พวกน้องหญิงอย่าพอใจทำลายสงฆ์เลย ดังนี้

       พวกเธอจักทำตาม จักเชื่อฟังคำของเรา จักเงี่ยโสตลงสดับ  

       พึงหลีกไปเสีย 

       ไม่ต้องอาบัติ  

       แต่พรรษาขาด  


       840. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้จำพรรษาแล้ว

       ได้สดับข่าวว่า ในอาวาสชื่อโน้น ภิกษุณีมากรูปด้วยกันได้ทำลายสงฆ์แล้ว

       ในเรื่องนั้น ถ้าภิกษุจะคิดอย่างนี้ว่า ภิกษุณีเหล่านั้นล้วนเป็นมิตรของเรา

       เราจักว่ากล่าวพวกเธอว่า ดูกรน้องหญิงทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคตรัสว่า การทำลายสงฆ์เป็นกรรมหนักนัก พวกน้องอย่าพอใจทำลายสงฆ์เลย ดังนี้

       พวกเธอจักทำตาม จักเชื่อฟังคำของเรา จักเงี่ยโสตลงสดับ  

       พึงหลีกไปเสีย  

       ไม่ต้องอาบัติ   

       แต่พรรษาขาด 


       841. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้จำพรรษาแล้ว

       ได้สดับข่าวว่า ในอาวาสชื่อโน้น ภิกษุณีมากรูปด้วยกัน ได้ทำลายสงฆ์แล้ว 

       ในเรื่องนั้น ถ้าภิกษุจะคิดอย่างนี้ว่า ภิกษุณีเหล่านั้นไม่ใช่มิตรของเราเลย แต่ภิกษุณีที่เป็นมิตรของภิกษุณีเหล่านั้น
เป็นมิตรกับเรา เราจักบอกภิกษุณีเหล่านั้น 

       ภิกษุณีที่เราบอกแล้วนั้น จักว่ากล่าวพวกเธอว่า ดูกรน้องหญิงทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคตรัสว่า การทำลายสงฆ์เป็นกรรมหนักนัก พวกน้องหญิงอย่าพอใจทำลายสงฆ์เลย ดังนี้ 

       พวกเธอจักทำตาม จักเชื่อฟังคำของเรา จักเงี่ยโสตลงสดับ  

       พึงหลีกไปเสีย 

       ไม่ต้องอาบัติ 

       แต่พรรษาขาด  


* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) นำมาจากพระไตรปิฎก  /  หัวข้อใหญ่สุด : อาจารโคจรสมฺปนฺนา  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : คัมภีร์ มหาวรรค ภาค 1 ( วินัยปิฎก เล่มที่ 4 )  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : ขันธ์ที่ 3 : วัสสูปนายิกขันธกะ  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : วัสสูปนายิกขันธกะ : อันตรายของภิกษุผู้จำพรรษา 



* * * อีกช่องทางหนึ่ง คือ สามารถอ่านได้ใน หนังสือ พุทธวจน เรื่อง อริยวินัย  /  หน้าที่ : 345 , 346 , 347 , 348 , 349 , 350 , 351 , 352



- จบ -