Monday, September 20, 2021

วัสสูปนายิกขันธกะ : ทรงอนุญาตสัตตาหกรณียะเพราะสหธรรมิก 5

 

คำตรัสจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า

เรื่อง วัสสูปนายิกขันธกะ : ทรงอนุญาตสัตตาหกรณียะเพราะสหธรรมิก 5
 



ทรงอนุญาตสัตตาหกรณียะเพราะสหธรรมิก 5 


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 211 )  


       ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธ เธอได้ส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า กระผมเองอาพาธ ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย 

       … ตรัสว่า 


       762. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อสหธรรมิก 5 แม้มิได้ส่งทูตมา เราอนุญาตให้ไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้ 

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเขาส่งทูตมา

       สหธรรมิก 5 คือ ภิกษุ ภิกษุณี สิกขมานา สามเณร สามเณรี 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อสหธรรมิก 5 นี้ แม้มิได้ส่งทูตมา เราอนุญาตให้ไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้ 

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเขาส่งทูตมา

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


* * * สัตตาหกรณียะ เนื่องด้วยภิกษุ 

       763. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในศาสนานี้อาพาธ ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า กระผมเองอาพาธ ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุ 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้ 

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักแสวงหาคิลานภัต คิลานุปัฏฐากภัต คิลานเภสัช จักถามอาการ หรือจักพยาบาล 

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       764. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความกระสันบังเกิดแก่ภิกษุในศาสนานี้ 

       ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ความกระสันบังเกิดแก่กระผมแล้ว ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักระงับความกระสัน หรือจักวานภิกษุอื่นให้ช่วยระงับ หรือจักทำ ธรรมกถา แก่ภิกษุนั้น 

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       765. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความรำคาญบังเกิดขึ้นแก่ภิกษุในศาสนานี้ 

       ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ความรำคาญบังเกิดแก่กระผม ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักบรรเทาความรำคาญ หรือจักวานภิกษุอื่นให้ช่วยบรรเทา หรือจักทำ ธรรมกถา แก่ภิกษุนั้น

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       766. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความเห็นผิดบังเกิดแก่ภิกษุในศาสนานี้ 

       ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ความเห็นผิดบังเกิดแก่กระผม ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้ 

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักเปลื้องความเห็นผิด จักวานภิกษุอื่นให้ช่วยเปลื้อง หรือจักทำธรรมกถาแก่ภิกษุนั้น

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       767. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้เป็นผู้ต้อง ครุกาบัติ * * * ( 1 )  ควรอยู่ ปริวาส 

       ถ้าเธอพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า กระผมเองต้อง ครุกาบัติ ควรอยู่ปริวาส ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายให้ ปาริวาส จักช่วยสวด หรือจักเป็นคณะปูรกะ

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       768. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้เป็นผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม 

       ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า กระผมเองเป็นผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้  

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายชักเข้าหาอาบัติเดิม จักช่วยสวด หรือจักเป็น คณะปูรกะ

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       769. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้เป็นผู้ควรมานัต

       ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า กระผมเองเป็นผู้ควรมานัต ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา 

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายให้มานัต จักช่วยสวด หรือจักเป็น คณะปูรกะ

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       770. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้เป็นผู้ควร อัพภาน 

       ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า กระผมเองเป็นผู้ควร อัพภาน ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา 

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายให้ อัพภาน จักช่วยสวด หรือจักเป็น คณะปูรกะ

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       771. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง สงฆ์เป็นผู้ใคร่เพื่อทำกรรม คือ ตัชชนียกรรม นิยสกรรม ปัพพาชนียกรรม ปฏิสารณียกรรม หรืออุกเขปนียกรรม แก่ภิกษุในศาสนานี้ 

       ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า สงฆ์เป็นผู้ใคร่เพื่อทำกรรมแก่กระผม ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า ด้วยวิธีอย่างไรหนอ สงฆ์จึงจะไม่ทำกรรม หรือพึงน้อมไปเพื่อกรรมสถานเบา

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       772. อนึ่ง ภิกษุนั้นได้ถูกสงฆ์ทำกรรม คือ ตัชชนียกรรม นิยสกรรม ปัพพาชนียกรรม ปฏิสารณียกรรม หรืออุกเขปนียกรรมแล้ว 

       ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า สงฆ์ได้ทำกรรมแก่กระผมแล้ว ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา  

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า ด้วยวิธีอย่างไรหนอ ภิกษุนั้นพึงประพฤติชอบ หายเย่อหยิ่ง ประพฤติแก้ตัวได้ สงฆ์จะได้ระงับกรรมนั้นเสีย 

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


* * * สัตตาหกรณียะ เนื่องด้วยภิกษุณี 

       773. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุณีในศาสนานี้อาพาธ 

       ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ดิฉันเองอาพาธ ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้ จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักแสวงหาคิลานภัต คิลานุปัฏฐากภัต คิลานเภสัช จักถามอาการ หรือจักพยาบาล

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       774. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความกระสันบังเกิดแก่ภิกษุณีในศาสนานี้ 

       ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ความกระสันบังเกิดแก่ดิฉันแล้ว ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักระงับความกระสัน หรือจักวานภิกษุอื่นให้ช่วยระงับ หรือ จักทำธรรมกถา แก่ภิกษุณีนั้น

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       775. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความรำคาญบังเกิดแก่ภิกษุณีในศาสนานี้ 

       ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ความรำคาญบังเกิดแก่ดิฉันแล้ว ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้ 

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักบรรเทาความรำคาญ หรือจักวานภิกษุอื่นให้ช่วยบรรเทา หรือจักทำธรรมกถาแก่ภิกษุณีนั้น

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       776.ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความเห็นผิดบังเกิดแก่ภิกษุณีในศาสนานี้ 

       ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ความเห็นผิดบังเกิดแก่ดิฉัน ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักเปลื้องความเห็นผิด จักวานภิกษุอื่นให้ช่วยเปลื้อง หรือจักทำธรรมกถาแก่ภิกษุณีนั้น

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       777. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุณีในศาสนานี้เป็นผู้ต้อง ครุกาบัติ ควรมานัต 

       ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ดิฉันเองต้อง ครุกาบัติ ควรมานัต ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้ 

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา 

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายให้มานัต

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       778. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุณีในศาสนานี้เป็นผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม 

       ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ดิฉันเองเป็นผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้ 

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายชักเข้าหาอาบัติเดิม

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       779. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุณีในศาสนานี้เป็นผู้ควร อัพภาน 

       ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ดิฉันเองเป็นผู้ควร อัพภาน ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมาก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายให้ อัพภาน

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน  


       780. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง สงฆ์เป็นผู้ใคร่เพื่อทำกรรม คือ ตัชชนียกรรม นิยสกรรม ปัพพาชนียกรรม ปฏิสารณียกรรม หรืออุกเขปนียกรรม แก่ภิกษุณีในศาสนานี้ 

       ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า สงฆ์เป็นผู้ใคร่เพื่อทำกรรมแก่ดิฉัน ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า ด้วยวิธีอย่างไรหนอ สงฆ์จึงจะไม่ทำกรรม หรือพึงน้อมไปเพื่อกรรมสถานเบา

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       781. อนึ่งภิกษุณีนั้นได้ถูกสงฆ์ทำกรรม คือ ตัชชนียกรรม นิยสกรรม ปัพพาชนียกรรม ปฏิสารณียกรรม หรือ อุกเขปนียกรรมแล้ว 

       ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า สงฆ์ได้ทำกรรมแก่ดิฉันแล้ว ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า ด้วยวิธีอย่างไรหนอ ภิกษุณีนั้นพึงประพฤติชอบ หายเย่อหยิ่ง ประพฤติแก้ตัวได้ สงฆ์จะได้ระงับกรรมนั้นเสีย 

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


* * * สัตตาหกรณียะ เนื่องด้วยสิกขมานา 

       782. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สิกขมานาในศาสนานี้อาพาธ 

       ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ดิฉันเองอาพาธ ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา 

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักแสวงหาคิลานภัต คิลานุปัฏฐากภัต คิลานเภสัช จักถามอาการ หรือจักพยาบาล

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       783. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความกระสันบังเกิดแก่สิกขมานาในศาสนานี้ … 


       784.… ความรำคาญบังเกิด … 


       785.… ความเห็นผิดบังเกิด … 


       786.… สิกขาของสิกขมานาในศาสนานี้กำเริบ

       ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า สิกขาของดิฉันกำเริบแล้ว ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้ 

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา 

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายให้สมาทานสิกขา

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       787. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง สิกขมานาในศาสนานี้เป็นผู้ใคร่จะอุปสมบท 

       ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ดิฉันเองใคร่จะอุปสมบท ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายให้อุปสมบท จักช่วยสวด หรือจักเป็น คณะปูรกะ

       
แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


* * * สัตตาหกรณียะ เนื่องด้วยสามเณร 

       788. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สามเณรในศาสนานี้อาพาธ 

       ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า กระผมเองอาพาธ ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักแสวงหาคิลานภัต คิลานุปัฏฐากภัต คิลานเภสัช จักถามอาการ หรือจักพยาบาล

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       789. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความกระสันบังเกิดแก่สามเณรในศาสนานี้ … 


       790.… ความรำคาญบังเกิด … 


       791.… ความเห็นผิดบังเกิด … 


       792. สามเณรเป็นผู้ใคร่จะถามปี 

       ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า กระผมเองใคร่จะถามปี ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักถาม หรือจักบอก

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       793. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง สามเณรในศาสนานี้เป็นผู้ใคร่จะอุปสมบท 

       . ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า กระผมเองใคร่จะอุปสมบท ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย  

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้ 

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา  

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายให้อุปสมบท จักช่วยสวด หรือจักเป็นคณะปูรกะ 

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


* * * สัตตาหกรณียะ เนื่องด้วยสามเณรี 


       794. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สามเณรีในศาสนานี้อาพาธ 

       ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ดิฉันเองอาพาธ ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า  

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้  

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา  

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักแสวงหาคิลานภัต คิลานุปัฏฐากภัต คิลานเภสัช จักถามอาการ หรือจักพยาบาล  

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       795. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความกระสันบังเกิดแก่สามเณรีในศาสนานี้ … 


       796. … ความรำคาญบังเกิด … 


       797. … ความเห็นผิดบังเกิด … 


       798. … สามเณรีเป็นผู้ใคร่จะถามปี … 


       799. สามเณรีเป็นผู้ใคร่จะสมาทานสิกขา 

       ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ดิฉันเองใคร่จะสมาทานสิกขา ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้  

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา 

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายให้สมาทานสิกขา  

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 212 )  


       ก็โดยสมัยนั้นแล มารดาของภิกษุรูปหนึ่งได้ป่วยไข้  

       นางส่งทูตไปในสำนักภิกษุผู้เป็นบุตรว่า ดิฉันเองป่วยไข้ ดิฉันปรารถนาการมาของบุตร

       จึงภิกษุนั้นได้ดำริว่า พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติไว้ว่า เมื่อบุคคล 7 จำพวกส่งทูตมา ไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้ แต่เมื่อเขาไม่ส่งทูตมา จะไปไม่ได้ สำหรับ สหธรรมิก 5 แม้มิได้ส่งทูตมา ก็ไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้ จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเขาส่งทูตมา 

       ก็นี่มารดาของเรา กำลังป่วยไข้ และท่านก็มิใช่อุบาสิกา เราจะพึงปฏิบัติอย่างไรหนอ …

       ตรัสว่า 


       800. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคล 7 จำพวก แม้มิได้ส่งทูตมา เราอนุญาตให้ไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเขาส่งทูตมา

       บุคคล 7 จำพวก คือ ภิกษุ ภิกษุณี สิกขมานา สามเณร สามเณรี มารดาและบิดา 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคล 7 จำพวกนี้ แม้มิได้ส่งทูตมา เราอนุญาตให้ไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้  

       จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเขาส่งทูตมา 

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       801. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็มารดาของภิกษุในศาสนานี้ป่วยไข้ 

       ถ้าเขาจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุผู้เป็นบุตรว่า ดิฉันเองป่วยไข้ ขอบุตรของดิฉันจงมา ดิฉันปรารถนาการมาของบุตร  

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อนางมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้ 

       จะต้องกล่าวไปไย เมื่อนางส่งทูตมา  

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักแสวงหา คิลานภัต คิลานุปัฏฐากภัต คิลานเภสัช จักถามอาการ หรือจักพยาบาล  

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       802. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง บิดาของภิกษุในศาสนานี้ป่วยไข้ 

       ถ้าเขาจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุผู้เป็นบุตรว่า ฉันเองป่วยไข้ ขอบุตรของฉันจงมา ฉันปรารถนาการมาของบุตร 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเขามิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะได้ 

       จะต้องกล่าวไปไย เมื่อเขาส่งทูตมา  

       พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักแสวงหาคิลานภัต คิลานุปัฐากภัต คิลานเภสัช จักถามอาการ หรือจักพยาบาล  

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       803. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง พี่ชายน้องชายของภิกษุในศาสนานี้ป่วยไข้  

       ถ้าเขาจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุผู้พี่ชายน้องชายว่า กระผมเองป่วยไข้ ขอพี่ชายน้องชายของกระผมจงมา กระผมปรารถนาการมาของพี่ชายน้องชาย 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อเขาส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้ 

       แต่เมื่อเขาไม่ส่งทูตมา ก็ไม่พึงไป

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       804. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง พี่หญิงน้องหญิงของภิกษุในศาสนานี้ป่วยไข้ 

       ถ้าเขาจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุว่า ดิฉันเองป่วยไข้ ขอพี่ชายน้องชายของดิฉันจงมา ดิฉันปรารถนาการมาของพี่ชายน้องชาย  

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อเขาส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้

       แต่เมื่อเขาไม่ส่งทูตมา ก็ไม่พึงไป 

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       805. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ญาติของภิกษุในศาสนานี้ป่วยไข้ 

       ถ้าเขาจะพึงส่งทูตไปสำนักภิกษุว่า กระผมเองป่วยไข้ ขอพระคุณเจ้าจงมา กระผมปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า  

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อเขาส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้  

       แต่เมื่อเขาไม่ส่งทูตมา ก็ไม่พึงไป

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน 


       806. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง บุรุษผู้ภักดีต่อภิกษุในศาสนานี้ป่วยไข้ 

       ถ้าเขาจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุว่า กระผมเองป่วยไข้ ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย  

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อเขาส่งทูตมาก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้ 

       แต่เมื่อเขาไม่ส่งทูตมา ก็ไม่พึงไป

       แต่ต้องกลับใน 7 วัน   


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -  


* * * ( 1 )  อาบัติหนัก - ผู้รวบรวม 


* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) นำมาจากพระไตรปิฎก  /  หัวข้อใหญ่สุด : อาจารโคจรสมฺปนฺนา  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : คัมภีร์ มหาวรรค ภาค 1 ( วินัยปิฎก เล่มที่ 4 )  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : ขันธ์ที่ 3 : วัสสูปนายิกขันธกะ  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : วัสสูปนายิกขันธกะ : ทรงอนุญาตสัตตาหกรณียะเพราะสหธรรมิก 5 



* * * อีกช่องทางหนึ่ง คือ สามารถอ่านได้ใน หนังสือ พุทธวจน เรื่อง อริยวินัย  /  หน้าที่ : 334 , 335 , 336 , 337 , 338 , 339 , 340 , 341 , 342 , 343 , 344 , 345  



- จบ -