คำตรัสจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า
เรื่อง วัสสูปนายิกขันธกะ : ทรงอนุญาตสัตตาหกรณียะเพราะสหธรรมิก 5
เรื่อง วัสสูปนายิกขันธกะ : ทรงอนุญาตสัตตาหกรณียะเพราะสหธรรมิก 5
ทรงอนุญาตสัตตาหกรณียะเพราะสหธรรมิก 5
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 211 )
ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธ เธอได้ส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า กระผมเองอาพาธ ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย
… ตรัสว่า
762. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อสหธรรมิก 5 แม้มิได้ส่งทูตมา เราอนุญาตให้ไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเขาส่งทูตมา
สหธรรมิก 5 คือ ภิกษุ ภิกษุณี สิกขมานา สามเณร สามเณรี
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อสหธรรมิก 5 นี้ แม้มิได้ส่งทูตมา เราอนุญาตให้ไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเขาส่งทูตมา
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
* * * สัตตาหกรณียะ เนื่องด้วยภิกษุ
763. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในศาสนานี้อาพาธ ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า กระผมเองอาพาธ ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักแสวงหาคิลานภัต คิลานุปัฏฐากภัต คิลานเภสัช จักถามอาการ หรือจักพยาบาล
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
764. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความกระสันบังเกิดแก่ภิกษุในศาสนานี้
ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ความกระสันบังเกิดแก่กระผมแล้ว ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักระงับความกระสัน หรือจักวานภิกษุอื่นให้ช่วยระงับ หรือจักทำ ธรรมกถา แก่ภิกษุนั้น
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
765. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความรำคาญบังเกิดขึ้นแก่ภิกษุในศาสนานี้
ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ความรำคาญบังเกิดแก่กระผม ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักบรรเทาความรำคาญ หรือจักวานภิกษุอื่นให้ช่วยบรรเทา หรือจักทำ ธรรมกถา แก่ภิกษุนั้น
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
766. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความเห็นผิดบังเกิดแก่ภิกษุในศาสนานี้
ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ความเห็นผิดบังเกิดแก่กระผม ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักเปลื้องความเห็นผิด จักวานภิกษุอื่นให้ช่วยเปลื้อง หรือจักทำธรรมกถาแก่ภิกษุนั้น
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
767. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้เป็นผู้ต้อง ครุกาบัติ * * * ( 1 ) ควรอยู่ ปริวาส
ถ้าเธอพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า กระผมเองต้อง ครุกาบัติ ควรอยู่ปริวาส ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายให้ ปาริวาส จักช่วยสวด หรือจักเป็นคณะปูรกะ
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
768. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้เป็นผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม
ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า กระผมเองเป็นผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายชักเข้าหาอาบัติเดิม จักช่วยสวด หรือจักเป็น คณะปูรกะ
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
769. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้เป็นผู้ควรมานัต
ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า กระผมเองเป็นผู้ควรมานัต ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายให้มานัต จักช่วยสวด หรือจักเป็น คณะปูรกะ
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
770. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้เป็นผู้ควร อัพภาน
ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า กระผมเองเป็นผู้ควร อัพภาน ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายให้ อัพภาน จักช่วยสวด หรือจักเป็น คณะปูรกะ
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
771. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง สงฆ์เป็นผู้ใคร่เพื่อทำกรรม คือ ตัชชนียกรรม นิยสกรรม ปัพพาชนียกรรม ปฏิสารณียกรรม หรืออุกเขปนียกรรม แก่ภิกษุในศาสนานี้
ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า สงฆ์เป็นผู้ใคร่เพื่อทำกรรมแก่กระผม ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า ด้วยวิธีอย่างไรหนอ สงฆ์จึงจะไม่ทำกรรม หรือพึงน้อมไปเพื่อกรรมสถานเบา
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
772. อนึ่ง ภิกษุนั้นได้ถูกสงฆ์ทำกรรม คือ ตัชชนียกรรม นิยสกรรม ปัพพาชนียกรรม ปฏิสารณียกรรม หรืออุกเขปนียกรรมแล้ว
ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า สงฆ์ได้ทำกรรมแก่กระผมแล้ว ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า ด้วยวิธีอย่างไรหนอ ภิกษุนั้นพึงประพฤติชอบ หายเย่อหยิ่ง ประพฤติแก้ตัวได้ สงฆ์จะได้ระงับกรรมนั้นเสีย
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
* * * สัตตาหกรณียะ เนื่องด้วยภิกษุณี
773. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุณีในศาสนานี้อาพาธ
ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ดิฉันเองอาพาธ ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้ จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักแสวงหาคิลานภัต คิลานุปัฏฐากภัต คิลานเภสัช จักถามอาการ หรือจักพยาบาล
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
774. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความกระสันบังเกิดแก่ภิกษุณีในศาสนานี้
ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ความกระสันบังเกิดแก่ดิฉันแล้ว ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักระงับความกระสัน หรือจักวานภิกษุอื่นให้ช่วยระงับ หรือ จักทำธรรมกถา แก่ภิกษุณีนั้น
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
775. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความรำคาญบังเกิดแก่ภิกษุณีในศาสนานี้
ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ความรำคาญบังเกิดแก่ดิฉันแล้ว ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักบรรเทาความรำคาญ หรือจักวานภิกษุอื่นให้ช่วยบรรเทา หรือจักทำธรรมกถาแก่ภิกษุณีนั้น
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
776.ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความเห็นผิดบังเกิดแก่ภิกษุณีในศาสนานี้
ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ความเห็นผิดบังเกิดแก่ดิฉัน ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักเปลื้องความเห็นผิด จักวานภิกษุอื่นให้ช่วยเปลื้อง หรือจักทำธรรมกถาแก่ภิกษุณีนั้น
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
777. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุณีในศาสนานี้เป็นผู้ต้อง ครุกาบัติ ควรมานัต
ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ดิฉันเองต้อง ครุกาบัติ ควรมานัต ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายให้มานัต
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
778. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุณีในศาสนานี้เป็นผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม
ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ดิฉันเองเป็นผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายชักเข้าหาอาบัติเดิม
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
779. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุณีในศาสนานี้เป็นผู้ควร อัพภาน
ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ดิฉันเองเป็นผู้ควร อัพภาน ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมาก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายให้ อัพภาน
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
780. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง สงฆ์เป็นผู้ใคร่เพื่อทำกรรม คือ ตัชชนียกรรม นิยสกรรม ปัพพาชนียกรรม ปฏิสารณียกรรม หรืออุกเขปนียกรรม แก่ภิกษุณีในศาสนานี้
ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า สงฆ์เป็นผู้ใคร่เพื่อทำกรรมแก่ดิฉัน ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า ด้วยวิธีอย่างไรหนอ สงฆ์จึงจะไม่ทำกรรม หรือพึงน้อมไปเพื่อกรรมสถานเบา
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
781. อนึ่งภิกษุณีนั้นได้ถูกสงฆ์ทำกรรม คือ ตัชชนียกรรม นิยสกรรม ปัพพาชนียกรรม ปฏิสารณียกรรม หรือ อุกเขปนียกรรมแล้ว
ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า สงฆ์ได้ทำกรรมแก่ดิฉันแล้ว ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า ด้วยวิธีอย่างไรหนอ ภิกษุณีนั้นพึงประพฤติชอบ หายเย่อหยิ่ง ประพฤติแก้ตัวได้ สงฆ์จะได้ระงับกรรมนั้นเสีย
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
* * * สัตตาหกรณียะ เนื่องด้วยสิกขมานา
782. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สิกขมานาในศาสนานี้อาพาธ
ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ดิฉันเองอาพาธ ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักแสวงหาคิลานภัต คิลานุปัฏฐากภัต คิลานเภสัช จักถามอาการ หรือจักพยาบาล
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
783. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความกระสันบังเกิดแก่สิกขมานาในศาสนานี้ …
784.… ความรำคาญบังเกิด …
785.… ความเห็นผิดบังเกิด …
786.… สิกขาของสิกขมานาในศาสนานี้กำเริบ
ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า สิกขาของดิฉันกำเริบแล้ว ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายให้สมาทานสิกขา
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
787. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง สิกขมานาในศาสนานี้เป็นผู้ใคร่จะอุปสมบท
ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ดิฉันเองใคร่จะอุปสมบท ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายให้อุปสมบท จักช่วยสวด หรือจักเป็น คณะปูรกะ
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
* * * สัตตาหกรณียะ เนื่องด้วยสามเณร
788. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สามเณรในศาสนานี้อาพาธ
ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า กระผมเองอาพาธ ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักแสวงหาคิลานภัต คิลานุปัฏฐากภัต คิลานเภสัช จักถามอาการ หรือจักพยาบาล
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
789. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความกระสันบังเกิดแก่สามเณรในศาสนานี้ …
790.… ความรำคาญบังเกิด …
791.… ความเห็นผิดบังเกิด …
792. สามเณรเป็นผู้ใคร่จะถามปี
ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า กระผมเองใคร่จะถามปี ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักถาม หรือจักบอก
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
793. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง สามเณรในศาสนานี้เป็นผู้ใคร่จะอุปสมบท
. ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า กระผมเองใคร่จะอุปสมบท ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายให้อุปสมบท จักช่วยสวด หรือจักเป็นคณะปูรกะ
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
* * * สัตตาหกรณียะ เนื่องด้วยสามเณรี
794. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สามเณรีในศาสนานี้อาพาธ
ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ดิฉันเองอาพาธ ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักแสวงหาคิลานภัต คิลานุปัฏฐากภัต คิลานเภสัช จักถามอาการ หรือจักพยาบาล
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
795. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความกระสันบังเกิดแก่สามเณรีในศาสนานี้ …
796. … ความรำคาญบังเกิด …
797. … ความเห็นผิดบังเกิด …
798. … สามเณรีเป็นผู้ใคร่จะถามปี …
799. สามเณรีเป็นผู้ใคร่จะสมาทานสิกขา
ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ดิฉันเองใคร่จะสมาทานสิกขา ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายให้สมาทานสิกขา
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 212 )
ก็โดยสมัยนั้นแล มารดาของภิกษุรูปหนึ่งได้ป่วยไข้
นางส่งทูตไปในสำนักภิกษุผู้เป็นบุตรว่า ดิฉันเองป่วยไข้ ดิฉันปรารถนาการมาของบุตร
จึงภิกษุนั้นได้ดำริว่า พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติไว้ว่า เมื่อบุคคล 7 จำพวกส่งทูตมา ไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้ แต่เมื่อเขาไม่ส่งทูตมา จะไปไม่ได้ สำหรับ สหธรรมิก 5 แม้มิได้ส่งทูตมา ก็ไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้ จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเขาส่งทูตมา
ก็นี่มารดาของเรา กำลังป่วยไข้ และท่านก็มิใช่อุบาสิกา เราจะพึงปฏิบัติอย่างไรหนอ …
ตรัสว่า
800. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคล 7 จำพวก แม้มิได้ส่งทูตมา เราอนุญาตให้ไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเขาส่งทูตมา
บุคคล 7 จำพวก คือ ภิกษุ ภิกษุณี สิกขมานา สามเณร สามเณรี มารดาและบิดา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคล 7 จำพวกนี้ แม้มิได้ส่งทูตมา เราอนุญาตให้ไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเขาส่งทูตมา
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
801. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็มารดาของภิกษุในศาสนานี้ป่วยไข้
ถ้าเขาจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุผู้เป็นบุตรว่า ดิฉันเองป่วยไข้ ขอบุตรของดิฉันจงมา ดิฉันปรารถนาการมาของบุตร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อนางมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
จะต้องกล่าวไปไย เมื่อนางส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักแสวงหา คิลานภัต คิลานุปัฏฐากภัต คิลานเภสัช จักถามอาการ หรือจักพยาบาล
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
802. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง บิดาของภิกษุในศาสนานี้ป่วยไข้
ถ้าเขาจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุผู้เป็นบุตรว่า ฉันเองป่วยไข้ ขอบุตรของฉันจงมา ฉันปรารถนาการมาของบุตร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเขามิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะได้
จะต้องกล่าวไปไย เมื่อเขาส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักแสวงหาคิลานภัต คิลานุปัฐากภัต คิลานเภสัช จักถามอาการ หรือจักพยาบาล
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
803. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง พี่ชายน้องชายของภิกษุในศาสนานี้ป่วยไข้
ถ้าเขาจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุผู้พี่ชายน้องชายว่า กระผมเองป่วยไข้ ขอพี่ชายน้องชายของกระผมจงมา กระผมปรารถนาการมาของพี่ชายน้องชาย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อเขาส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
แต่เมื่อเขาไม่ส่งทูตมา ก็ไม่พึงไป
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
804. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง พี่หญิงน้องหญิงของภิกษุในศาสนานี้ป่วยไข้
ถ้าเขาจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุว่า ดิฉันเองป่วยไข้ ขอพี่ชายน้องชายของดิฉันจงมา ดิฉันปรารถนาการมาของพี่ชายน้องชาย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อเขาส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
แต่เมื่อเขาไม่ส่งทูตมา ก็ไม่พึงไป
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
805. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ญาติของภิกษุในศาสนานี้ป่วยไข้
ถ้าเขาจะพึงส่งทูตไปสำนักภิกษุว่า กระผมเองป่วยไข้ ขอพระคุณเจ้าจงมา กระผมปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อเขาส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
แต่เมื่อเขาไม่ส่งทูตมา ก็ไม่พึงไป
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
806. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง บุรุษผู้ภักดีต่อภิกษุในศาสนานี้ป่วยไข้
ถ้าเขาจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุว่า กระผมเองป่วยไข้ ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อเขาส่งทูตมาก็พึงไปด้วย สัตตาหกรณียะ ได้
แต่เมื่อเขาไม่ส่งทูตมา ก็ไม่พึงไป
แต่ต้องกลับใน 7 วัน
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
* * * ( 1 ) อาบัติหนัก - ผู้รวบรวม
* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) นำมาจากพระไตรปิฎก / หัวข้อใหญ่สุด : อาจารโคจรสมฺปนฺนา / หัวข้อย่อยรองลงมา : คัมภีร์ มหาวรรค ภาค 1 ( วินัยปิฎก เล่มที่ 4 ) / หัวข้อย่อยรองลงมา : ขันธ์ที่ 3 : วัสสูปนายิกขันธกะ / หัวข้อย่อยรองลงมา : วัสสูปนายิกขันธกะ : ทรงอนุญาตสัตตาหกรณียะเพราะสหธรรมิก 5
* * * อีกช่องทางหนึ่ง คือ สามารถอ่านได้ใน หนังสือ พุทธวจน เรื่อง อริยวินัย / หน้าที่ : 334 , 335 , 336 , 337 , 338 , 339 , 340 , 341 , 342 , 343 , 344 , 345
- จบ -