Tuesday, March 1, 2022

อุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาป

 

คำตรัสจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า

เรื่อง อุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาป



อุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาป


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 277 )  


       ดูกรอริฏฐะ ข่าวว่า เธอมีทิฏฐิอันเป็นบาปเห็นปานนี้เกิดขึ้นว่า เรารู้ทั่วถึงธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้ว โดยประการที่ตรัสว่า เป็นธรรมทำอันตราย ธรรมเหล่านั้นหาอาจทำอันตรายแก่ผู้เสพได้จริงไม่ ดังนี้จริงหรือ 

       ข้าพระพุทธเจ้ากล่าวอย่างนั้นจริง พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้ารู้ทั่วถึงธรรมที่พระองค์ทรงแสดงแล้วโดยประการที่ตรัสว่า เป็นธรรมทำอันตราย ธรรมเหล่านั้น หาอาจทำอันตรายแก่ผู้เสพได้จริงไม่ 


       ดูกรโมฆบุรุษ เพราะเหตุไร เธอจึงเข้าใจธรรมที่เราแสดงแล้วอย่างนั้นเล่า เรากล่าวธรรมอันทำอันตรายไว้โดยปริยายเป็นอันมากมิใช่หรือ และธรรมเหล่านั้นอาจทำอันตรายแก่ผู้เสพได้จริง

       กามทั้งหลายเรากล่าวว่า มีความยินดีน้อย มีทุกข์มาก มีความคับแค้นมาก โทษในกามทั้งหลายนี้มากยิ่งนัก

       กามทั้งหลายเรากล่าวว่า เปรียบเหมือนร่างกระดูก มีทุกข์มาก มีความคับแค้นมาก โทษในกามทั้งหลายนี้มากยิ่งนัก

       กามทั้งหลายเรากล่าวว่า เปรียบเหมือนชิ้นเนื้อ …

       กามทั้งหลายเรากล่าวว่า เปรียบเหมือนคบหญ้า … 

       กามทั้งหลายเรากล่าวว่า เปรียบเหมือนหลุมถ่านเพลิง …

       กามทั้งหลายเรากล่าวว่า เปรียบเหมือนความฝัน …

       กามทั้งหลายเรากล่าวว่า เปรียบเหมือนของยืม … 

       กามทั้งหลายเรากล่าวว่า เปรียบเหมือนผลไม้  

       … กามทั้งหลายเรากล่าวว่า เปรียบเหมือนเขียงสำหรับสับเนื้อ … 

       กามทั้งหลายเรากล่าวว่า เปรียบเหมือนหอกและหลาว …

       กามทั้งหลายเรากล่าวว่า เปรียบเหมือนศีรษะงู มีทุกข์มาก มีความคับแค้นมาก โทษในกามทั้งหลายนี้มากยิ่งนัก

       เมื่อเป็นเช่นนั้น เธอชื่อว่ากล่าวตู่เราด้วยทิฏฐิที่ตนยึดถือไว้ผิด ชื่อว่าทำลายตนเอง และชื่อว่าประสพบาปมิใช่บุญมาก ข้อนั้น
แหละ จักเป็นไปเพื่อความไม่เกื้อกูล เพื่อทุกข์แก่เธอตลอดกาลนาน 


       ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล สงฆ์จงทำ อุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาปแก่ภิกษุอริฏฐะผู้เกิดในตระกูลพรานแร้ง คือ ห้าม สมโภค ///// กับสงฆ์ 



วิธีลงอุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิเป็นบาป 


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 278 )  


       ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แล วิธีลง อุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาปพึงทำอย่างนี้ คือ 

       พึงโจทภิกษุอริฏฐะผู้เกิดในตระกูลพรานแร้งก่อน  

       ครั้นแล้วพึงให้เธอให้การ แล้วพึงปรับอาบัติ 

       ครั้นแล้ว ภิกษุผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วย ญัตติจตุตถกรรมวาจา ///// ว่าดังนี้ 



* * * กรรมวาจาทำอุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาป 

       ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า  

       ภิกษุอริฏฐะผู้เกิดในตระกูลพรานแร้ง มีทิฏฐิอันเป็นบาปเห็นปานนี้เกิดขึ้นว่า เรารู้ทั่วถึงธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้ว โดยประการที่ตรัสว่า เป็นธรรมทำอันตราย ธรรมเหล่านั้นหาอาจทำอันตรายแก่ผู้เสพได้จริงไม่ ดังนี้

       เธอไม่ยอมสละทิฏฐินั้น

       ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงทำ อุกเขปนียกรรม ฐานไม่ละทิฏฐิอันเป็นบาปแก่ภิกษุอริฏฐะผู้เกิดในตระกูลพรานแร้ง คือ ห้าม สมโภค กับสงฆ์

       นี้เป็นญัตติ 


       ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า 

       ภิกษุอริฏฐะผู้เกิดในตระกูลพรานแร้ง มีทิฏฐิอันเป็นบาปเห็นปานนี้เกิดขึ้นว่า เรารู้ทั่วถึงธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้ว โดยประการที่ตรัสว่า เป็นธรรมทำอันตราย ธรรมเหล่านั้นหาอาจทำอันตรายแก่ผู้เสพได้จริงไม่ ดังนี้

       เธอไม่ยอมสละทิฏฐินั้น

       สงฆ์ทำ อุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาปแก่ภิกษุอริฏฐะผู้เกิดในตระกูลพรานแร้ง คือ ห้ามสมโภคกับสงฆ์ 

       การทำ อุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาปแก่ภิกษุอริฏฐะผู้เกิดในตระกูลพรานแร้ง คือ ห้าม สมโภค กับสงฆ์ ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงเป็นผู้นิ่ง 

       ไม่ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงพูด 


       ข้าพเจ้ากล่าวความนี้แม้ครั้งที่สอง … 


       ข้าพเจ้ากล่าวความนี้แม้ครั้งที่สาม  

       ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า 

       ภิกษุอริฏฐะผู้เกิดในตระกูลพรานแร้ง มีทิฏฐิอันเป็นบาปเห็นปานนี้เกิดขึ้นว่า เรารู้ทั่วถึงธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้ว โดยประการที่ตรัสว่า เป็นธรรมทำอันตราย ธรรมเหล่านั้นหาอาจทำอันตรายแก่ผู้เสพได้จริงไม่ ดังนี้

       เธอไม่ยอมสละทิฏฐินั้น 

       สงฆ์ทำ อุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาปแก่ภิกษุอริฏฐะผู้เกิดในตระกูลพรานแร้ง คือ ห้าม สมโภค กับสงฆ์

       การทำ อุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาปแก่ภิกษุอริฏฐะ ผู้เกิดในตระกูลพรานแร้ง คือ ห้าม สมโภค กับสงฆ์ ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงเป็นผู้นิ่ง 

       ไม่ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงพูด 

       อุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาป อันสงฆ์ทำแล้วแก่ภิกษุอริฏฐะผู้เกิดในตระกูลพรานแร้ง คือ ห้าม สมโภค กับสงฆ์ ชอบแก่สงฆ์ เหตุนั้นจึงนิ่ง

       ข้าพเจ้าทรงความนี้ไว้ ด้วยอย่างนี้ 


       ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงบอกภิกษุที่อยู่ในอาวาสต่อๆไปว่า ภิกษุอริฏฐะผู้เกิดในตระกูลพรานแร้ง อันสงฆ์ทำ อุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาปแล้ว คือ ห้าม สมโภค กับสงฆ์ 



* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) นำมาจากพระไตรปิฎก  /  หัวข้อใหญ่สุด : อาจารโคจรสมฺปนฺนา  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : คัมภีร์ จุลวรรค ภาค 1 ( วินัยปิฎก เล่มที่ 6 )  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : ขันธ์ที่ 1 : กัมมขันธกะ  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : อุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาป 



* * * อีกช่องทางหนึ่ง คือ สามารถอ่านได้ใน หนังสือ พุทธวจน เรื่อง อริยวินัย  /  หน้าที่ : 689 , 690 , 691 



- จบ -