Tuesday, March 8, 2022

ปาริวาสิกขันธกะ : เรื่องมูลายปฏิกัสสนารหภิกษุ

 

คำตรัสจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า

เรื่อง ปาริวาสิกขันธกะ : เรื่องมูลายปฏิกัสสนารหภิกษุ
 



เรื่องมูลายปฏิกัสสนารหภิกษุ 


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 334 )  


       ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไฉนภิกษุทั้งหลายผู้ควรชักเข้าหา  อาบัติ ///// เดิม จึงได้ยินดี การกราบไหว้ การลุกรับ อัญชลีกรรม /////  สามีจิกรรม /////  การนำที่นอนมาให้ การตั้งตั่งรองเท้า การตั้งกระเบื้องเช็ดเท้า การรับบาตรจีวร การถูหลังให้เมื่ออาบน้ำ ของ ปกตัตตะภิกษุ ///// ทั้งหลายเล่า … 


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 335 )  


       305. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม ไม่พึงยินดี การกราบไหว้ การลุกรับ อัญชลีกรรม สามีจิกรรม การนำ อาสนะ ///// มาให้ การล้างเท้า การตั้งตั่งรองเท้า การตั้งกระเบื้องเช็ดเท้า การรับบาตรจีวร การถูหลังให้เมื่ออาบน้ำ ของปกตัตตะภิกษุทั้งหลาย 

       รูปใดยินดี ต้องอาบัติทุกกฏ 


       306. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาต การกราบไหว้ การลุกรับ อัญชลีกรรม สามีจิกรรม การนำอาสนะมาให้ การนำที่นอนมาให้ การล้างเท้า การตั้งตั่งรองเท้า การตั้งกระเบื้องเช็ดเท้า การรับบาตรจีวร การถูหลังให้เมื่ออาบน้ำ ของภิกษุทั้งหลาย ผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิมด้วยกัน ตามลำดับผู้แก่พรรษา 


       307. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตกิจ 5 อย่าง คือ อุโบสถ ///// ปวารณา /////  ผ้าอาบน้ำฝน การสละ ภัตร ///// และการรับภัตร แก่ภิกษุทั้งหลายผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม ตามลำดับผู้แก่พรรษา 


       308. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล เราจักบัญญัติวัตรแก่ภิกษุทั้งหลายผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม โดยประการที่ภิกษุผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม ต้องประพฤติทุกรูป 



มูลายปฏิกัสสนารหวัตร


หมวดที่ 1


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 336 )  


       ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม พึงประพฤติโดยชอบ วิธีประพฤติชอบในวัตรนั้น ดังนี้ 

       1. อันภิกษุผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม ไม่พึงให้ อุปสมบท /////

       2. ไม่พึงให้ นิสัย ///// 

       3. ไม่พึงให้สามเณร อุปัฏฐาก /////  

       4. ไม่พึงรับสมมติเป็นผู้สั่งสอนภิกษุณี 

       5.แม้ได้รับสมมติแล้ว ก็ไม่พึงสั่งสอนภิกษุณี 

       6. เป็นผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม เพราะอาบัติใด ไม่พึงต้องอาบัตินั้น 

       7. ไม่พึงต้องอาบัติอื่นอันเช่นกัน 

       8. ไม่พึงต้องอาบัติอันเลวทรามกว่านั้น

       9. ไม่พึงติกรรม 

       10. ไม่พึงติภิกษุทั้งหลายผู้ทำกรรม 

       11. ไม่พึงห้ามอุโบสถแก่ปกตัตตะภิกษุ 

       12. ไม่พึงห้ามปวารณาแก่ปกตัตตะภิกษุ 

       13. ไม่พึงทำการไต่สวน 

       14. ไม่พึงเริ่ม อนุวาทาธิกรณ์ /////  

       15. ไม่พึงยังภิกษุอื่นให้ทำโอกาส 

       16. ไม่พึงโจทภิกษุอื่น 

       17. ไม่พึงให้ภิกษุอื่นให้การ 

       18. ไม่พึงช่วยภิกษุกับภิกษุให้สู้ อธิกรณ์ กัน ///// 



หมวดที่ 2


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 337 )  


       19. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม ไม่พึงไปข้างหน้าแห่งปกตัตตะภิกษุ 

       20. ไม่พึงนั่งข้างหน้าแห่งปกตัตตะภิกษุ 

       21. พึงพอใจด้วยอาสนะสุดท้าย ที่นอนสุดท้าย  วิหาร ///// สุดท้ายของสงฆ์ ที่สงฆ์จะพึงให้แก่เธอ 

       22. ไม่พึงมีปกตัตตะภิกษุเป็นสมณะไปข้างหน้า หรือ ตามหลังเข้าไปสู่สกุล 

       23. ไม่พึงสมาทาน อารัญญิกธุดงค์ /////  

       24. ไม่พึงสมาทาน ปิณฑปาติกธุดงค์ ///// และ

       25. ไม่พึงให้เขานำบิณฑบาตมาส่ง เพราะปัจจัยนั้น ด้วยคิดว่า คนทั้งหลาย อย่ารู้เรา 



หมวดที่ 3 


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 338 )  


       26. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม ไม่พึงออกจาก อาวาส ///// ที่มีภิกษุ ไปสู่อาวาสที่หาภิกษุมิได้ ทั้งนี้ เว้นแต่ไปกับปกตัตตะภิกษุ เว้นแต่มีอันตราย 

       27. ไม่พึงออกจากอาวาสที่มีภิกษุ ไปสู่ถิ่นที่มิใช่อาวาสที่หาภิกษุมิได้ … 

       28. ไม่พึงออกจากอาวาสที่มีภิกษุ ไปสู่อาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาสที่หาภิกษุ มิได้ … 

       29. ไม่พึงออกจากถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ ไปสู่อาวาสที่หาภิกษุมิได้ 

       30. ไม่พึงออกจากถิ่นที่มิใช่อาวาสที่มีภิกษุ ไปสู่ถิ่นมิใช่อาวาสที่หาภิกษุมิได้ … 

       31. ไม่พึงออกจากถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ ไปสู่อาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาสที่หา ภิกษุมิได้ … 

       32. ไม่พึงออกจากอาวาส หรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ ไปสู่อาวาสที่หาภิกษุมิได้ … 

       33. ไม่พึงออกจากอาวาส หรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ ไปสู่ถิ่นมิใช่อาวาสที่หาภิกษุมิได้ … 

       34. ไม่พึงออกจากอาวาส หรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ ไปสู่อาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาสที่หาภิกษุมิได้ ทั้งนี้ เว้นแต่ไปกับปกตัตตะภิกษุ เว้นแต่มีอันตราย 



หมวดที่ 4


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 339 )  


       35. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม ไม่พึงออกจากอาวาสที่มีภิกษุ ไปสู่อาวาสที่มีภิกษุ แต่เป็น นานาสังวาส ///// 

       
ทั้งนี้ เว้นแต่ไปกับปกตัตตะภิกษุ เว้นแต่มีอันตราย 

       36. ไม่พึงออกจากอาวาสที่มีภิกษุ ไปสู่ถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ แต่เป็นนานาสังวาส … 

       37. ไม่พึงออกจากอาวาสที่มีภิกษุ ไปสู่อาวาส หรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ แต่เป็นนานาสังวาส … 

       38. ไม่พึงออกจากถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ ไปสู่อาวาสที่มีภิกษุ แต่เป็นนานาสังวาส … 

       39. ไม่พึงออกจากถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ ไปสู่ถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ แต่เป็นนานาสังวาส … 

       40. ไม่พึงออกจากถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ ไปสู่อาวาส หรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ แต่เป็นนานาสังวาส … 

       41. ไม่พึงออกจากอาวาส หรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ ไปสู่อาวาสที่มีภิกษุ แต่เป็นนานาสังวาส … 

       42. ไม่พึงออกจากอาวาส หรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ ไปสู่ถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ แต่เป็นนานาสังวาส … 

       43. ไม่พึงออกจากอาวาส หรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ ไปสู่อาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ แต่เป็นนานาสังวาส  

       ทั้งนี้ เว้นแต่ไปกับปกตัตตะภิกษุ เว้นแต่มีอันตราย 



หมวดที่ 5 


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 340 )  


       44. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม พึงออกจากอาวาสที่มีภิกษุไปสู่อาวาสที่มีภิกษุ เป็น สมานสังวาส /////  ทั้งนี้ ที่รู้ว่าอาจจะไปถึงในวันนี้เทียว 

       45. พึงออกจากอาวาสที่มีภิกษุ ไปสู่ถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุเป็นสมานสังวาส … 

       46. พึงออกจากอาวาสที่มีภิกษุ ไปสู่อาวาส หรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุเป็นสมานสังวาส … 

       47. พึงออกจากถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ ไปสู่อาวาสที่มีภิกษุเป็นสมานสังวาส … 

       48. พึงออกจากถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ ไปสู่ถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ เป็นสมานสังวาส … 

       49. พึงออกจากถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ ไปสู่อาวาส หรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ เป็นสมานสังวาส … 

       50. พึงออกจากอาวาส หรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ ไปสู่อาวาสที่มีภิกษุ เป็นสมานสังวาส … 

       51. พึงออกจากอาวาส หรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ ไปสู่ถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ เป็นสมานสังวาส … 

       52. พึงออกจากอาวาส หรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ ไปสู่อาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุเป็นสมานสังวาส ทั้งนี้ ที่รู้ว่าอาจจะไปถึงในวันนี้เทียว 



หมวดที่ 6 


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 341 )  


       53. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม ไม่พึงอยู่ในที่มุงอันเดียวกันในอาวาส กับปกตัตตะภิกษุ

       54. ไม่พึงอยู่ในที่มุงเดียวกันในถิ่นมิใช่อาวาส 

       55. ไม่พึงอยู่ในที่มุงอันเดียวกันในอาวาสก็ดี ในถิ่นมิใช่อาวาสก็ดี กับปกตัตตะภิกษุ 

       56. เห็นปกตัตตะภิกษุแล้วพึงลุกจากอาสนะ 

       57. พึงนิมนต์ปกตัตตะภิกษุให้นั่ง 

       58. ไม่พึงนั่งในอาสนะเดียวกันกับปกตัตตะภิกษุ 

       59. เมื่อปกตัตตะภิกษุนั่ง ณ อาสนะต่ำ ไม่พึงนั่ง ณ อาสนะสูง 

       60. เมื่อปกตัตตะภิกษุนั่ง ณ พื้นดิน ไม่พึงนั่ง ณ อาสนะ 

       61. ไม่พึง จงกรม ///// ในที่จงกรมเดียวกันกับปกตัตตะภิกษุ 

       62. เมื่อปกตัตตะภิกษุจงกรมอยู่ในที่จงกรมต่ำ ไม่พึงจงกรมในที่จงกรมสูง 

       63. เมื่อปกตัตตะภิกษุจงกรม ณ พื้นดิน ไม่พึงจงกรมในที่จงกรม 



หมวดที่ 7 


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 342 )  


       64. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม ไม่พึงอยู่ในที่มุงอันเดียวกันในอาวาส กับภิกษุผู้อยู่ ปริวาส /////

       65. ไม่พึงอยู่ในที่มุงเดียวกันในถิ่นมิใช่อาวาส กับภิกษุผู้อยู่ปริวาส 

       66. ไม่พึงอยู่ในที่มุงเดียวกันในอาวาสก็ดี ในถิ่นมิใช่อาวาสก็ดี กับภิกษุผู้อยู่ปริวาส 

       67. ไม่พึงนั่ง ณ อาสนะเดียวกัน กับภิกษุผู้อยู่ปริวาส 

       68. ไม่พึงอยู่ในที่มุงอันเดียวกันในอาวาส กับภิกษุผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม ที่แก่พรรษากว่า 

       69. ไม่พึงอยู่ในที่มุงเดียวกันในถิ่นมิใช่อาวาส … 

       70. ไม่พึงอยู่ในที่มุงเดียวกันในอาวาสก็ดี ในถิ่นมิใช่อาวาสก็ดี… 

       71. ไม่พึงนั่ง ณ อาสนะเดียวกัน กับภิกษุผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม ที่แก่พรรษากว่า 

       72. ไม่พึงอยู่ในที่มุงอันเดียวกันในอาวาส กับภิกษุผู้ควร มานัต /////  

       73. ไม่พึงอยู่ในที่มุงเดียวกันในถิ่นมิใช่อาวาส …

       74. ไม่พึงอยู่ในที่มุงเดียวกันในอาวาสก็ดี ในถิ่นมิใช่อาวาสก็ดี… 

       75. ไม่พึงนั่ง ณ อาสนะเดียวกัน กับภิกษุผู้ควรมานัต 

       76. ไม่พึงอยู่ในที่มุงอันเดียวกันในอาวาส กับภิกษุผู้ประพฤติมานัต 

       77. ไม่พึงอยู่ในที่มุงเดียวกันในถิ่นมิใช่อาวาส … 

       78. ไม่พึงอยู่ในที่มุงเดียวกันในอาวาสก็ดี ในถิ่นมิใช่อาวาสก็ดี… 

       79. ไม่พึงนั่ง ณ อาสนะเดียวกัน กับภิกษุผู้ประพฤติมานัต

       80. ไม่พึงอยู่ในที่มุงอันเดียวกันในอาวาส กับภิกษุผู้ควร อัพภาน /////

       81. ไม่พึงอยู่ในที่มุงเดียวกันในถิ่นมิใช่อาวาส …  

       82. ไม่พึงอยู่ในที่มุงเดียวกันในอาวาสก็ดี ในถิ่นมิใช่อาวาสก็ดี… 

       83. ไม่พึงนั่ง ณ อาสนะเดียวกัน กับภิกษุผู้ควรอัพภาน 

       84. เมื่อเธอนั่ง ณ อาสนะต่ำ ไม่พึงนั่ง ณ อาสนะสูง 

       85. เมื่อเธอนั่ง ณ พื้นดิน ไม่พึงนั่ง ณ อาสนะ 

       86. ไม่พึงจงกรมในที่จงกรมเดียวกัน 

       87. เมื่อเธอจงกรมอยู่ในที่จงกรมต่ำ ไม่พึงจงกรมในที่จงกรมสูง 

       88. เมื่อเธอจงกรม ณ พื้นดิน ไม่พึงจงกรมในที่จงกรม 


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 343 )  


       89. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าสงฆ์มีภิกษุผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิมเป็นที่ 4 พึงให้ปริวาส พึงชักเข้าหาอาบัติเดิม พึงให้มานัต สงฆ์ 20 รูป ทั้งภิกษุผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิมนั้น พึงอัพภาน

       การกระทำดังนั้นใช้ไม่ได้ และไม่ควรทำ 



* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) นำมาจากพระไตรปิฎก  /  หัวข้อใหญ่สุด : อาจารโคจรสมฺปนฺนา  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : คัมภีร์ จุลวรรค ภาค 1 ( วินัยปิฎก เล่มที่ 6 )  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : ขันธ์ที่ 2 : ปาริวาสิกขันธกะ  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : ปาริวาสิกขันธกะ : เรื่องมูลายปฏิกัสสนารหภิกษุ 



* * * อีกช่องทางหนึ่ง คือ สามารถอ่านได้ใน หนังสือ พุทธวจน เรื่อง อริยวินัย  /  หน้าที่ : 713 , 714 , 715 , 716 , 717 , 718 , 719 



- จบ -