คำตรัสจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า
เรื่อง มหาขันธกะ : องค์ 5 แห่งภิกษุผู้ให้อุปสมบท 16 หมวด
เรื่อง มหาขันธกะ : องค์ 5 แห่งภิกษุผู้ให้อุปสมบท 16 หมวด
องค์ 5 แห่งภิกษุผู้ให้อุปสมบท 16 หมวด
* * * กัณหปักษ์ 1
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 98 )
66.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.ไม่ประกอบด้วยกองศีล อันเป็นของพระอเสขะ
2.ไม่ประกอบด้วยกองสมาธิ อันเป็นของพระอเสขะ
3.ไม่ประกอบด้วยกองปัญญา อันเป็นของพระอเสขะ
4.ไม่ประกอบด้วยกองวิมุติ อันเป็นของพระอเสขะ
5.ไม่ประกอบด้วยกองวิมุตติญาณทัสสนะ อันเป็นของพระอเสขะ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 นี้แล ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * ศุกลปักษ์ 1
67.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.ประกอบด้วยกองศีล อันเป็นของพระอเสขะ
2.ประกอบด้วยกองสมาธิ อันเป็นของพระอเสขะ
3.ประกอบด้วยกองปัญญา อันเป็นของพระอเสขะ
4.ประกอบด้วยกองวิมุติ อันเป็นของพระอเสขะ
5.ประกอบด้วยกองวิมุตติญาณทัสสนะ อันเป็นของพระอเสขะ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 นี้แล พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * กัณหปักษ์ 2
68.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 แม้อื่นอีก ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.ตนเองไม่ประกอบด้วยกองศีล อันเป็นของพระอเสขะ และไม่ชักชวนผู้อื่นในกองศีล อันเป็นของพระอเสขะ
2.ตนเองไม่ประกอบด้วยกองสมาธิ อันเป็นของพระอเสขะ และไม่ชักชวนผู้อื่นในกองสมาธิ อันเป็นของพระอเสขะ
3.ตนเองไม่ประกอบด้วยกองปัญญา อันเป็นของพระอเสขะ และไม่ชักชวนผู้อื่นในกองปัญญา อันเป็นของพระอเสขะ
4.ตนเองไม่ประกอบด้วยกองวิมุติ อันเป็นของพระอเสขะ และไม่ชักชวนผู้อื่นในกองวิมุติ อันเป็นของพระอเสขะ
5.ตนเองไม่ประกอบด้วยกองวิมุตติญาณทัสสนะ อันเป็นของพระอเสขะ และไม่ชักชวนผู้อื่นในกองวิมุตติญาณทัสสนะ อันเป็นของพระอเสขะ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 นี้แล ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * ศุกลปักษ์ 2
69.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.ตนเองประกอบด้วยกองศีล อันเป็นของพระอเสขะ และชักชวนผู้อื่นในกองศีล อันเป็นของพระอเสขะ
2.ตนเองประกอบด้วยกองสมาธิ อันเป็นของพระอเสขะ และชักชวนผู้อื่นในกองสมาธิ อันเป็นของพระอเสขะ
3.ตนเองประกอบด้วยกองปัญญา อันเป็นของพระอเสขะ และชักชวนผู้อื่นในกองปัญญา อันเป็นของพระอเสขะ
4.ตนเองประกอบด้วยกองวิมุติ อันเป็นของพระอเสขะ และชักชวนผู้อื่นในกองวิมุติ อันเป็นของพระอเสขะ
5.ตนเองประกอบด้วยกองวิมุตติญาณทัสสนะอันเป็นของพระอเสขะ และชักชวนผู้อื่นในกองวิมุตติญาณทัสสนะ อันเป็นของพระอเสขะ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 นี้แล พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * กัณหปักษ์ 3
70.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 แม้อื่นอีก ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.เป็นผู้ไม่มีศรัทธา
2.เป็นผู้ไม่มีหิริ
3.เป็นผู้ไม่มีโอตตัปปะ
4.เป็นผู้เกียจคร้าน
5.เป็นผู้มีสติฟั่นเฟือน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 นี้แล ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * ศุกลปักษ์ 3
71.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.เป็นผู้มีศรัทธา
2.เป็นผู้มีหิริ
3.เป็นผู้มีโอตตัปปะ
4.เป็นผู้ปรารภความเพียร
5.เป็นผู้มีสติตั้งมั่น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 นี้แล พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * กัณหปักษ์ 4
72.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 แม้อื่นอีก ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.เป็นผู้วิบัติด้วยศีล ในอธิศีล
2.เป็นผู้วิบัติด้วยอาจาระ ในอัธยาจาร
3.เป็นผู้วิบัติด้วยทิฏฐิ ในทิฏฐิยิ่ง
4.เป็นผู้ได้ยินได้ฟังน้อย
5.เป็นผู้มีปัญญาทราม
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 นี้แล ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * ศุกลปักษ์ 4
73.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.เป็นผู้ไม่วิบัติด้วยศีล ในอธิศีล
2.เป็นผู้ไม่วิบัติด้วยอาจาระ ในอัธยาจาร
3.เป็นผู้ไม่วิบัติด้วยทิฏฐิ ในทิฏฐิยิ่ง
4.เป็นผู้ได้ยินได้ฟังมาก
5.เป็นผู้มีปัญญา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 นี้แล พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * กัณหปักษ์ 5
74.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 แม้อื่นอีก ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.ไม่สามารถจะพยาบาลเอง หรือให้ผู้อื่นพยาบาล อันเตวาสิก หรือ สัทธิวิหาริก ผู้อาพาธ
2.ไม่สามารถจะระงับเอง หรือหาผู้อื่นให้ช่วยระงับความกระสัน
3.ไม่สามารถจะบรรเทาเอง หรือหาผู้อื่นให้ช่วยบรรเทาความเบื่อหน่ายอันเกิดขึ้นแล้วโดยธรรม
4.ไม่รู้จักอาบัติ
5.ไม่รู้จักวิธีออกจากอาบัติ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 นี้แล ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * ศุกลปักษ์ 5
75.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.อาจจะพยาบาลเอง หรือให้ผู้อื่นพยาบาล อันเตวาสิก หรือ สัทธิวิหาริก ผู้อาพาธ
2.อาจจะระงับเอง หรือหาผู้อื่นให้ช่วยระงับความกระสัน
3.อาจจะบรรเทาเอง หรือหาผู้อื่นให้ช่วยบรรเทาความเบื่อหน่าย อันเกิดขึ้นแล้วโดยธรรม
4.รู้จักอาบัติ
5.รู้จักวิธีออกจากอาบัติ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 นี้แล พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * กัณหปักษ์ 6
76.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 แม้อื่นอีก ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.ไม่อาจจะฝึกปรือ อันเตวาสิก หรือ สัทธิวิหาริก ในสิกขาอันเป็นอภิสมาจาร
2.ไม่อาจจะแนะนำในสิกขา อันเป็นส่วนเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์
3.ไม่อาจจะแนะนำในธรรมอันยิ่งขึ้นไป
4.ไม่อาจจะแนะนำในวินัยอันยิ่งขึ้นไป
5.ไม่อาจจะเปลื้องความเห็นผิดอันเกิดขึ้นแล้วโดยธรรม
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 นี้แล ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * ศุกลปักษ์ 6
77.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.อาจจะฝึกปรือ อันเตวาสิก หรือ สัทธิวิหาริก ในสิกขาอันเป็น อภิสมาจาร
2.อาจจะแนะนำในสิกขา อันเป็นส่วนเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์
3.อาจจะแนะนำในธรรมอันยิ่งขึ้นไป
4.อาจจะแนะนำในวินัยอันยิ่งขึ้นไป
5.อาจจะเปลื้องความเห็นผิดอันเกิดขึ้นแล้วโดยธรรม
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 นี้แล พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * กัณหปักษ์ 7
78.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 แม้อื่นอีก ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.ไม่รู้จักอาบัติ
2.ไม่รู้จักอนาบัติ
3.ไม่รู้จักอาบัติเบา
4.ไม่รู้จักอาบัติหนัก
5.เธอจำปาติโมกข์ทั้งสองไม่ได้ดีโดยพิสดาร จำแนกไม่ได้ด้วยดี ไม่คล่องแคล่วดี วินิจฉัยไม่เรียบร้อยโดยสุตตะ โดยอนุพยัญชนะ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 นี้แล ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * ศุกลปักษ์ 7
79.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.รู้จักอาบัติ
2.รู้จักอนาบัติ
3.รู้จักอาบัติเบา
4.รู้จักอาบัติหนัก
5.เธอจำปาติโมกข์ทั้งสองได้ดีโดยพิสดาร จำแนกดี คล่องแคล่วดี วินิจฉัยเรียบร้อยโดยสุตตะ โดยอนุพยัญชนะ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 นี้แล พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * กัณหปักษ์ 8
80.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 แม้อื่นอีก ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.ไม่รู้จักอาบัติ
2.ไม่รู้จักอนาบัติ
3.ไม่รู้จักอาบัติเบา
4.ไม่รู้จักอาบัติหนัก
5.มีพรรษาหย่อน 10
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 นี้แล ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * ศุกลปักษ์ 8
81.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.รู้จักอาบัติ
2.รู้จักอนาบัติ
3.รู้จักอาบัติเบา
4.รู้จักอาบัติหนัก
5.มีพรรษาได้ 10 หรือมีพรรษาเกิน 10
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 นี้แล พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) นำมาจากพระไตรปิฎก / หัวข้อใหญ่สุด : อาจารโคจรสมฺปนฺนา / หัวข้อย่อยรองลงมา : คัมภีร์ มหาวรรค ภาค 1 ( วินัยปิฎก เล่มที่ 4 ) / หัวข้อย่อยรองลงมา : ขันธ์ที่ 1 : มหาขันธกะ / หัวข้อย่อยรองลงมา : มหาขันธกะ : องค์ 5 แห่งภิกษุผู้ให้อุปสมบท 16 หมวด
* * * อีกช่องทางหนึ่ง คือ สามารถอ่านได้ใน หนังสือ พุทธวจน เรื่อง อริยวินัย / หน้าที่ : 204 , 205 , 206 , 207 , 208 , 209 , 210 , 211
- END -