คำตรัสจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า
เรื่อง มหาขันธกะ : องค์ 6 แห่งภิกษุผู้ให้อุปสมบท 14 หมวด
เรื่อง มหาขันธกะ : องค์ 6 แห่งภิกษุผู้ให้อุปสมบท 14 หมวด
องค์ 6 แห่งภิกษุผู้ให้อุปสมบท 14 หมวด * * * ( 1 )
* * * กัณหปักษ์ 1
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 99 )
82.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.ไม่ประกอบด้วยกองศีล อันเป็นของพระอเสขะ
2.ไม่ประกอบด้วยกองสมาธิ อันเป็นของพระอเสขะ
3.ไม่ประกอบด้วยกองปัญญา อันเป็นของพระอเสขะ
4.ไม่ประกอบด้วยกองวิมุติ อันเป็นของพระอเสขะ
5.ไม่ประกอบด้วยกองวิมุตติญาณทัสสนะ อันเป็นของพระอเสขะ
6.มีพรรษาหย่อน 10
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 นี้แล ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * ศุกลปักษ์ 1
83.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.ประกอบด้วยกองศีล อันเป็นของพระอเสขะ
2.ประกอบด้วยกองสมาธิ อันเป็นของพระอเสขะ
3.ประกอบด้วยกองปัญญา อันเป็นของพระอเสขะ
4.ประกอบด้วยกองวิมุติ อันเป็นของพระอเสขะ
5.ประกอบด้วยกองวิมุตติญาณทัสสนะ อันเป็นของพระอเสขะ
6.มีพรรษาได้ 10 หรือมีพรรษาเกิน 10
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 นี้แล พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * กัณหปักษ์ 2
84.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 แม้อื่นอีก ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.ตนเองไม่ประกอบด้วยกองศีล อันเป็นของพระอเสขะ และไม่ชักชวนผู้อื่นในกองศีล อันเป็นของพระอเสขะ
2.ตนเองไม่ประกอบด้วยกองสมาธิ อันเป็นของพระอเสขะ และไม่ชักชวนผู้อื่นในกองสมาธิ อันเป็นของพระอเสขะ
3.ตนเองไม่ประกอบด้วยกองปัญญา อันเป็นของพระอเสขะ และไม่ชักชวนผู้อื่นในกองปัญญา อันเป็นของพระอเสขะ
4.ตนเองไม่ประกอบด้วยกองวิมุติ อันเป็นของพระอเสขะ และไม่ชักชวนผู้อื่นในกองวิมุติ อันเป็นของพระอเสขะ
5.ตนเองไม่ประกอบด้วยกองวิมุตติญาณทัสสนะ อันเป็นของพระอเสขะ และไม่ชักชวนผู้อื่นในกองวิมุตติญาณทัสสนะ อันเป็นของพระอเสขะ
6.มีพรรษาหย่อน 10
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 นี้แล ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * ศุกลปักษ์ 2
85.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.ตนเองประกอบด้วยกองศีล อันเป็นของพระอเสขะ และชักชวนผู้อื่นในกองศีล อันเป็นของพระอเสขะ
2.ตนเองประกอบด้วยกองสมาธิ อันเป็นของพระอเสขะ และชักชวนผู้อื่นในกองสมาธิ อันเป็นของพระอเสขะ
3.ตนเองประกอบด้วยกองปัญญา อันเป็นของพระอเสขะ และชักชวนผู้อื่นในกองปัญญา อันเป็นของพระอเสขะ
4.ตนเองประกอบด้วยกองวิมุติ อันเป็นของพระอเสขะ และชักชวนผู้อื่นในกองวิมุติ อันเป็นของพระอเสขะ
5.ตนเองประกอบด้วยกองวิมุตติญาณทัสสนะ อันเป็นของพระอเสขะ และชักชวนผู้อื่นในกองวิมุตติญาณทัสสนะ อันเป็นของพระอเสขะ
6.มีพรรษาได้ 10 หรือมีพรรษาเกิน 10
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 นี้แล พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * กัณหปักษ์ 3
86.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 แม้อื่นอีก ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.เป็นผู้ไม่มีศรัทธา
2.เป็นผู้ไม่มีหิริ
3.เป็นผู้ไม่มีโอตตัปปะ
4.เป็นผู้เกียจคร้าน
5.เป็นผู้มีสติฟั่นเฟือน
6.เป็นผู้มีพรรษาหย่อน 10
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยองค์ 6 นี้แล ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * ศุกลปักษ์ 3
87.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.เป็นผู้มีศรัทธา
2.เป็นผู้มีหิริ
3.เป็นผู้มีโอตตัปปะ
4.เป็นผู้ปรารภความเพียร
5.เป็นผู้มีสติตั้งมั่น
6.เป็นผู้มีพรรษาได้ 10 หรือมีพรรษาเกิน 10
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 นี้แล พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * กัณหปักษ์ 4
88.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 แม้อื่นอีก ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.เป็นผู้วิบัติด้วยศีล ในอธิศีล
2.เป็นผู้วิบัติด้วยอาจาระ ในอัธยาจาร
3.เป็นผู้วิบัติด้วยทิฏฐิ ในทิฏฐิยิ่ง
4.เป็นผู้ได้ยินได้ฟังน้อย
5.เป็นผู้มีปัญญาทราม
6.เป็นผู้มีพรรษาหย่อน 10
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 นี้แล ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * ศุกลปักษ์ 4
89.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.เป็นผู้ไม่มีวิบัติด้วยศีล ในอธิศีล
2.เป็นผู้ไม่วิบัติด้วยอาจาระ ในอัธยาจาร
3.เป็นผู้ไม่วิบัติด้วยทิฏฐิ ในทิฏฐิยิ่ง
4.เป็นผู้ได้ยินได้ฟังมาก
5.เป็นผู้มีปัญญา
6.เป็นผู้มีพรรษาได้ 10 หรือมีพรรษาเกิน 10
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 นี้แล พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * กัณหปักษ์ 5
90.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 แม้อื่นอีก ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.ไม่สามารถจะพยาบาลเอง หรือให้ผู้อื่นพยาบาล อันเตวาสิก หรือ สัทธิวิหาริก ผู้อาพาธ
2.ไม่สามารถจะระงับเอง หรือหาผู้อื่นให้ช่วยระงับความกระสัน
3.ไม่สามารถจะบรรเทาเอง หรือหาผู้อื่นให้ช่วยบรรเทาความเบื่อหน่ายอันเกิดขึ้นแล้วโดยธรรม
4.ไม่รู้จักอาบัติ
5.ไม่รู้จักวิธีออกจากอาบัติ
6.มีพรรษาหย่อน 10
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 นี้แล ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * ศุกลปักษ์ 5
91.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.อาจพยาบาลเอง หรือให้ผู้อื่นพยาบาล อันเตวาสิก หรือ สัทธิวิหาริก ผู้อาพาธ
2.อาจระงับเอง หรือหาผู้อื่นให้ช่วยระงับความกระสัน
3.อาจบรรเทาเอง หรือหาผู้อื่นให้ช่วยบรรเทาความเบื่อหน่าย อันเกิดขึ้นแล้วโดยธรรม
4.รู้จักอาบัติ
5.รู้จักวิธีออกจากอาบัต
6.มีพรรษาได้ 10 หรือมีพรรษาเกิน 10
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 นี้แล พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * กัณหปักษ์ 6
92.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 แม้อื่นอีก ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.ไม่อาจฝึกปรือ อันเตวาสิก หรือ สัทธิวิหาริก ในสิกขาอันเป็นอภิสมาจาร
2.ไม่อาจแนะนำในสิกขา อันเป็นส่วนเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์
3.ไม่อาจแนะนำในธรรมอันยิ่งขึ้นไป
4.ไม่อาจแนะนำในวินัยอันยิ่งขึ้นไป
5.ไม่อาจเปลื้องความเห็นผิดอันเกิดขึ้นแล้วโดยธรรม
6.มีพรรษาหย่อน 10
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 นี้แล ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * ศุกลปักษ์ 6
93.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.อาจฝึกปรืออันเตวาสิกหรือสัทธิวิหาริก ในสิกขาอันเป็นอภิสมาจาร
2.อาจแนะนำในสิกขา อันเป็นส่วนเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์
3.อาจแนะนำในธรรมอันยิ่งขึ้นไป
4.อาจแนะนำในวินัยอันยิ่งขึ้นไป
5.อาจเปลื้องความเห็นผิดอันเกิดขึ้นแล้วโดยธรรม
6.มีพรรษาได้ 10 หรือมีพรรษาเกิน 10
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 นี้แล พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * กัณหปักษ์ 7
94.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 แม้อื่นอีก ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.ไม่รู้จักอาบัติ
2.ไม่รู้จักอนาบัติ
3.ไม่รู้จักอาบัติเบา
4.ไม่รู้จักอาบัติหนัก
5.เธอจำปาติโมกข์ทั้งสองไม่ได้ดีโดยพิสดาร จำแนกไม่ได้ด้วยดี ไม่คล่องแคล่วดี วินิจฉัยไม่เรียบร้อยโดยสุตตะ โดยอนุพยัญชนะ
6.มีพรรษาหย่อน 10
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 นี้แล ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
* * * ศุกลปักษ์ 7
95.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1.รู้จักอาบัติ
2.รู้จักอนาบัติ
3.รู้จักอาบัติเบา
4.รู้จักอาบัติหนัก
5.เธอจำปาติโมกข์ทั้งสองได้ดี โดยพิสดาร จำแนกได้ดี คล่องแคล่วดี วินิจฉัยเรียบร้อยโดยสุตตะ โดยอนุพยัญชนะ
6.มีพรรษาได้ 10 หรือพรรษาเกิน 10
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 6 นี้แล พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
* * * ( 1 ) ในพระไตรภาษาบาลีฉบับสยามรัฐระบุว่ามี 16 หมวด แต่นับหมวดได้จริงเพียง 14 หมวด และในพระไตรปิฎกภาษาบาลี ฉบับมหาจุฬาฯ พ.ศ.2500 และฉบับเฉลิมพระเกียรติฯ พ.ศ.2549 ระบุว่ามี 14 หมวด – ผู้รวบรวม
* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) นำมาจากพระไตรปิฎก / หัวข้อใหญ่สุด : อาจารโคจรสมฺปนฺนา / หัวข้อย่อยรองลงมา : คัมภีร์ มหาวรรค ภาค 1 ( วินัยปิฎก เล่มที่ 4 ) / หัวข้อย่อยรองลงมา : ขันธ์ที่ 1 : มหาขันธกะ / หัวข้อย่อยรองลงมา : มหาขันธกะ : องค์ 6 แห่งภิกษุผู้ให้อุปสมบท 14 หมวด
* * * อีกช่องทางหนึ่ง คือ สามารถอ่านได้ใน หนังสือ พุทธวจน เรื่อง อริยวินัย / หน้าที่ : 211 , 212 , 213 , 214 , 215 , 216 , 217
- END -