Sunday, May 16, 2021

จีวรวรรค สิกขาบทที่ 6 เกี่ยวกับการขอจีวรต่อคฤหัสถ์ ที่ไม่ใช่ญาติ

 

พุทธวจน - คําสอนจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า

เรื่อง จีวรวรรค สิกขาบทที่ 6 เกี่ยวกับการขอจีวรต่อคฤหัสถ์ ที่ไม่ใช่ญาติ 


ทรงอนุญาตให้ขอจีวรได้ 


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 54 ) 


       14.ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ภิกษุผู้ถูกโจรแย่งชิงจีวรไป หรือมีจีวรหาย ขอจีวรต่อพ่อเจ้าเรือน หรือแม่เจ้าเรือน ผู้มิใช่ญาติได้

       เธอเดินไปถึงวัดใดก่อน ถ้าจีวรสำหรับวิหารก็ดี ผ้าลาดเตียงก็ดี ผ้าลาดพื้นก็ดี ผ้าปูที่นอนก็ดี ของสงฆ์ในวัดนั้นมีอยู่ จะถือเอาผ้าของสงฆ์นั้นไปห่มด้วยคิดว่า ได้จีวรนั้นมาแล้ว จักคืนไว้ดังกล่าว ดังนี้ก็ควร

       ถ้าจีวรสำหรับวิหารก็ดี ผ้าลาดเตียงก็ดี ผ้าลาดพื้นก็ดี ผ้าปูที่นอนก็ดี ของสงฆ์ไม่มี ต้องปกปิดด้วยหญ้าหรือใบไม้ เดินมา ไม่พึงเปลือยกายเดินมา

       ภิกษุใดเปลือยกายเดินมา ต้องอาบัติทุกกฏ 


จีวรวรรค สิกขาบทที่ 6

       โย ปะนะ ภิกขุ อัญญาตะกัง คะหะปะติง วา คะหะปะตานิง วา…

       15.อนึ่ง ภิกษุใด ขอจีวรต่อพ่อเจ้าเรือนก็ดี ต่อแม่เจ้าเรือนก็ดี ผู้มิใช่ญาติ นอกจากสมัย

       เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์ 

       สมัยในคำนั้นดังนี้ ภิกษุเป็นผู้มีจีวรถูกชิงเอาไปก็ดี มีจีวรฉิบหายก็ดี นี้สมัยในคำนั้น


วิธีเสียสละ


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 55 ) 



       16.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุพึงเสียสละจีวรนั้นอย่างนี้ 


* * * เสียสละแก่สงฆ์

       ภิกษุรูปนั้นพึงเข้าไปหาสงฆ์ ห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า กราบเท้าภิกษุผู้แก่พรรษากว่านั่งกระโหย่ง ประนมมือ กล่าวอย่างนี้ว่า

       ท่านเจ้าข้า จีวรผืนนี้ของข้าพเจ้า ขอแล้วต่อพ่อเจ้าเรือนผู้มิใช่ญาติ นอกจากสมัย เป็นของจำจะสละ ข้าพเจ้าสละจีวรผืนนี้แก่สงฆ์ 

       ครั้นสละแล้ว พึงแสดงอาบัติ

       ภิกษุผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงรับอาบัติ

       พึงคืนจีวรที่เสียสละให้ด้วยญัตติกรรมวาจา ว่าดังนี้

       ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า

       จีวรผืนนี้ของภิกษุมีชื่อนี้ เป็นของจำจะสละ เธอสละแล้วแก่สงฆ์

       ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงให้จีวรผืนนี้แก่ภิกษุมีชื่อนี้ 


* * * เสียสละแก่คณะ

       ภิกษุรูปนั้นพึงเข้าไปหาภิกษุหลายรูป ห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า กราบเท้าภิกษุผู้แก่พรรษากว่า นั่งกระโหย่ง ประนมมือ กล่าวอย่างนี้ว่า 

       ท่านเจ้าข้า จีวรผืนนี้ของข้าพเจ้า ขอแล้วต่อพ่อเจ้าเรือนผู้มิใช่ญาติ นอกจากสมัย เป็นของจำจะสละ ข้าพเจ้าสละจีวรผืนนี้แก่ท่านทั้งหลาย 

       ครั้นสละแล้ว พึงแสดงอาบัติ

       ภิกษุผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงรับอาบัติ

       พึงคืนจีวรที่เสียสละให้ด้วยญัตติกรรมวาจา ว่าดังนี้

       ท่านทั้งหลาย ขอจงฟังข้าพเจ้า

       จีวรผืนนี้ของภิกษุมีชื่อนี้ เป็นของจำจะสละ เธอสละแล้วแก่ท่านทั้งหลาย

       ถ้าความพร้อมพรั่งของท่านทั้งหลายถึงที่แล้ว ท่านทั้งหลายพึงให้จีวรผืนนี้แก่ภิกษุมีชื่อนี้ 


* * * เสียสละแก่บุคคล

       ภิกษุรูปนั้น พึงเข้าไปหาภิกษุรูปหนึ่ง ห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า นั่งกระโหย่ง ประนมมือ กล่าวอย่างนี้ว่า

       ท่าน จีวรผืนนี้ของข้าพเจ้า ขอแล้วต่อพ่อเจ้าเรือนผู้มิใช่ญาติ นอกจากสมัย เป็นของจำจะสละ ข้าพเจ้าสละจีวรผืนนี้แก่ท่าน

       ครั้นสละแล้ว พึงแสดงอาบัติ

       ภิกษุผู้รับเสียสละนั้น พึงรับอาบัติ

       พึงคืนจีวรที่เสียสละให้ด้วยคำว่า ข้าพเจ้าให้จีวรผืนนี้แก่ท่าน ดังนี้ 


จีวรวรรค สิกขาบทที่ 6 จบ


* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) คัดมาจากหนังสือ พุทธวจน เรื่อง อริยวินัย  /  หัวข้อใหญ่สุด : สมฺปนฺนปาติโมกฺขา ปาติโมกฺขสํวรสํวุตา  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : คัมภีร์ มหาวิภังค์ ภาค 2 ( วินัยปิฎก เล่มที่ 2 )  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : กัณฑ์ที่ 1 : นิสสัคคิยกัณฑ์  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : จีวรวรรค สิกขาบทที่ 6 เกี่ยวกับการขอจีวรต่อคฤหัสถ์ ที่ไม่ใช่ญาติ  /  หน้าที่ : 59 , 60 , 61 

- END -