Tuesday, September 27, 2022

ภิกขุนีขันธกะ : ทรงอนุญาตสมมติภิกษุณีเป็นเพื่อน

 




ทรงอนุญาตสมมติภิกษุณีเป็นเพื่อน


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 599 )  


       สมัยนั้น หญิงคนหนึ่งตั้งครรภ์แล้วบวชในสำนักภิกษุณี เมื่อนางบวชแล้วเด็กจึงคลอด

       ครั้งนั้น นางคิดว่า เราจะพึงปฏิบัติในเด็กชายนี้อย่างไรหนอ

       … ตรัสว่า 


       ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้เลี้ยงดู จนกว่าเด็กนั้นจะรู้เดียงสา



       นางคิดว่าเราจะอยู่แต่ตามลำพังไม่ได้ และภิกษุณีอื่นจะอยู่ร่วมกับเด็กชายอื่นก็ไม่ได้ เราจะพึงปฏิบัติอย่างไรหนอ

       … ตรัสว่า 


       ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้สมมติภิกษุณีรูปหนึ่ง ให้เป็นเพื่อนของภิกษุณีนั้น 



วิธีสมมติ

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แล พึงสมมติอย่างนี้ 

       พึงขอร้องภิกษุณีก่อน 

       ครั้นแล้ว ภิกษุณีผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วย ญัตติทุติยกรรมวาจา /////  ว่าดังนี้ 


* * * กรรมวาจาให้สมมติ 

       แม่เจ้า เจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังดิฉัน 

       ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้วสงฆ์พึงสมมติภิกษุณีชื่อนี้ ให้เป็นเพื่อนของภิกษุณีชื่อนี้ 

       นี้เป็นญัตติ 


       แม่เจ้า เจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังดิฉัน 

       สงฆ์สมมติภิกษุณีชื่อนี้ให้เป็นเพื่อนของภิกษุณีชื่อนี้ การสมมติภิกษุณีชื่อนี้ ให้เป็นเพื่อนของภิกษุณีชื่อนี้ ชอบแก่แม่เจ้าผู้ใด แม่เจ้าผู้นั้นพึงเป็นผู้นิ่ง

       ไม่ชอบแก่แม่เจ้าผู้ใด แม่เจ้าผู้นั้นพึงพูด 


       สงฆ์สมมติภิกษุณีชื่อนี้ ให้เป็นเพื่อนของภิกษุณีชื่อนี้แล้ว ชอบแก่สงฆ์เหตุนั้นจึงนิ่ง 

       ดิฉันทรงความนี้ไว้ด้วยอย่างนี้ 



       ครั้งนั้น ภิกษุณีเพื่อนของนางคิดว่า เราจะพึงปฏิบัติในเด็กชายนี้อย่างไรหนอ

       … ตรัสว่า 


       ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ปฏิบัติในเด็กชายนั้นเหมือนปฏิบัติในบุรุษอื่น เว้นการนอนร่วมเรือนเดียวกัน



( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 600 )  


       สมัยนั้น ภิกษุณีรูปหนึ่งต้อง อาบัติหนัก /////  แล้วกำลังประพฤติ มานัต /////  นางคิดว่าเราอยู่แต่ลำพังผู้เดียว และภิกษุณีอื่นจะอยู่ร่วมกับเราก็ไม่ได้ เราพึงปฏิบัติอย่างไรหนอ 

       … ตรัสว่า 


       ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้สมมติภิกษุณีรูปหนึ่งให้เป็นเพื่อนของภิกษุณีนั้น 


วิธีสมมติ 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แล พึงสมมติอย่างนี้ 

       พึงขอร้องภิกษุณีก่อน 

       ครั้นแล้วภิกษุณีผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติทุติยกรรมวาจาว่าดังนี้


* * * กรรมวาจาให้สมมติ 

       แม่เจ้า เจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังดิฉัน 

       ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงสมมติภิกษุณีชื่อนี้ ให้เป็นเพื่อนของภิกษุณีชื่อนี้ 

       นี้เป็นญัตติ 


       แม่เจ้า เจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังดิฉัน 

       สงฆ์สมมติภิกษุณีชื่อนี้ให้เป็นเพื่อนของภิกษุณีชื่อนี้ การสมมติภิกษุณีชื่อนี้ให้เป็นเพื่อนของ ภิกษุณีชื่อนี้ ชอบแก่แม่เจ้าผู้ใดแม่เจ้าผู้นั้นพึงเป็นผู้นิ่ง

       ไม่ชอบแก่แม่เจ้าผู้ใด แม่เจ้าผู้นั้นพึงพูด 


       สงฆ์สมมติภิกษุณีชื่อนี้ ให้เป็นเพื่อนของภิกษุณีชื่อนี้แล้ว ชอบแก่สงฆ์ เหตุนั้นจึงนิ่ง 

       ดิฉันทรงความนี้ไว้ด้วยอย่างนี้



* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) นำมาจากพระไตรปิฎก  /  หัวข้อใหญ่สุด : อาจารโคจรสมฺปนฺนา  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : คัมภีร์ จุลวรรค ภาค 2 ( วินัยปิฎก เล่มที่ 7 )  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : ขันธ์ที่ 6 : ภิกขุนีขันธกะ  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : ภิกขุนีขันธกะ : ทรงอนุญาตสมมติภิกษุณีเป็นเพื่อน  



* * * อีกช่องทางหนึ่ง คือ สามารถอ่านได้ใน หนังสือ พุทธวจน เรื่อง อริยวินัย  /  หน้าที่ : 995 , 996
 


- จบ -