Monday, September 12, 2022

ปาฏิเทสนียะ

 




       ปาฏิเทสนียะ ( อ่านว่า ปา-ติ-เท-สะ-นี-ยะ )


       ศีลของพระภิกษุที่มาในพระปาติโมกข์ ซึ่งพระต้องประชุมกันฟังทุกกึ่งเดือน มีจำนวนที่รู้ทั่วกันว่า “227 สิกขาบท” ดังที่มักพูดกันว่า “พระมีศีล 227” 

       ศีล 227 แบ่งเป็นกลุ่มหรือเป็นหมวดได้ดังนี้ –

       ( 1 ) ปาราชิก 4 สิกขาบท 

       ( 2 ) สังฆาทิเสส 13 สิกขาบท 

       ( 3 ) อนิยต 2 สิกขาบท 

       ( 4 ) นิสสัคคิยปาจิตตีย์ 30 สิกขาบท ( เรียกสั้นว่า นิสสัคคีย์ ) 

       ( 5 ) สุทธิกปาจิตตีย์ 92 สิกขาบท ( เรียกสั้นว่า ปาจิตตีย์ ) 

       ( 6 ) ปาฏิเทสนียะ 4 สิกขาบท 

       ( 7 ) เสขิยะ หรือเสขิยวัตร 75 สิกขาบท 

       ( 8 ) อธิกรณสมถะ 7 สิกขาบท 

       รวม 227 สิกขาบท 



“ปาฏิเทสนียะ” เป็น 4 ใน 227

       คำว่า “ปาฏิเทสนียะ” เขียนแบบบาลีเป็น “ปาฏิเทสนีย” อ่านว่า ปา-ติ-เท-สะ-นี-ยะ ประกอบด้วยคำว่า ปฏิ + ทิสฺ + อนีย ปัจจัย 

       ( 1 ) ความรู้เกี่ยวกับคำว่า “ปฏิ-” : 

       “ปฏิ-” ( ขีด – ข้างหลังหมายความว่าไม่ใช้ตามลำพัง แต่ใช้นำหน้าคำอื่นเสมอ ) เป็นศัพท์จำพวกที่ภาษาไวยากรณ์เรียกว่า “อุปสรรค” 

       นักเรียนบาลีท่องจำคำแปลกันมาว่า “ปฏิ : เฉพาะ ตอบ ทวน กลับ” 

       พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า -  

       “ปฏิ– : คําอุปสรรคในภาษาบาลีใช้นําหน้าศัพท์อื่น แปลว่า เฉพาะ เช่น ปฏิทิน , ตอบ เช่น ปฏิพากย์ , ทวน เช่น ปฏิโลม, กลับ เช่น ปฏิวัติ. ( ป.; ส. ปฺรติ )” 

       พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ บอกความหมายของ “ปฏิ-” ว่า back ( to ) , against , towards , in opposition to , opposite ( กลับ , ตอบ , เฉพาะ , มุ่งไปยัง , ตรงกันข้าม , กลับกัน ) 


       ( 2 ) ปฏิ + ทิสฺ ( ธาตุ = ประกาศ , แสดง , ชี้แจง ) + อนีย ปัจจัย , ทีฆะต้นศัพท์ คือ อะ ที่ ป-( ฎิ ) เป็น อา ( ปฏิ > ปาฏิ ) , แผลง อิ ที่ ทิ-( สฺ ) เป็น เอ ( ทิสฺ > เทส ) 

       : ปฏิ + ทิสฺ = ปฏิทิสฺ + อนีย = ปฏิทิสนีย > ปฏิเทสนีย > ปาฏิเทสนีย แปลตามศัพท์ว่า “เหตุอันเขาพึงแสดงคืน” ( an offence to be confessed ) 

       พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “ปาฏิเทสนีย” ว่า belonging to confession , [ a sin ] which ought to be confessed ( เป็นเรื่องของการสารภาพ, [ อาบัติ ] ที่ควรแสดงคืน ) 

       “ปาฏิเทสนีย” ใช้ในภาษาไทยเป็น “ปาฏิเทสนียะ” 

       “ปาฏิเทสนียะ” เป็นกลุ่มสิกขาบท มี 4 สิกขาบท 


ขยายความ : 

       พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต อธิบายคำว่า “ปาฏิเทสนียะ” ไว้ดังนี้ -


………….. 

       ปาฏิเทสนียะ : “จะพึงแสดงคืน” , อาบัติที่จะพึงแสดงคืน เป็นชื่อลหุกาบัติ คืออาบัติเบาอย่างหนึ่งถัดรองมาจากปาจิตตีย์ และเป็นชื่อสิกขาบท 4 ข้อซึ่งแปลได้ว่า พึงปรับด้วยอาบัติปาฏิเทสนียะ เช่น ภิกษุรับของเคี้ยวของฉัน จากมือของภิกษุณีที่มิใช่ญาติ ด้วยมือของตนมาบริโภค ต้องอาบัติปาฏิเทสนียะ 


………….. 

       หนังสือ “นวโกวาท” พระนิพนธ์สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ซึ่งพระภิกษุสามเณรท่องจำกันมาตั้งแต่เรียนนักธรรมชั้นตรี แสดงไว้ดังนี้ -


………….. 

ปาฏิเทสนียะ 4 

       1. ภิกษุรับของเคี้ยวของฉันแต่มือนางภิกษุณีที่ไม่ใช่ญาติ ด้วยมือของตนมาบริโภค ต้องปาฏิเทสนียะ 

       2. ภิกษุฉันอยู่ในที่นิมนต์ ถ้ามีนางภิกษุณีมาสั่งทายกให้เอาสิ่งนั้นสิ่งนี้ถวาย เธอพึงไล่นางภิกษุณีนั้นให้ถอยไปเสีย ถ้าไม่ไล่ ต้องปาฏิเทสนียะ 

       3. ภิกษุไม่เป็นไข้ เขาไม่ได้นิมนต์ รับของเคี้ยวของฉันในตระกูลที่สงฆ์สมมติว่าเป็นเสขะมาบริโภค ต้องปาฏิเทสนียะ 

       4. ภิกษุอยู่ในเสนาสนะป่าเป็นที่เปลี่ยว ไม่เป็นไข้ รับของเคี้ยวของฉันที่ทายกไม่ได้แจ้งความให้ทราบก่อน ด้วยมือของตนมาบริโภค ต้องปาฏิเทสนียะ 


………….. 

ข้อสังเกต:

       สิกขาบทที่เป็นอาบัติเบา เมื่อภิกษุละเมิด จะพ้นจากอาบัติได้ต้อง “แสดงอาบัติ” คือเปิดเผยความผิดให้ภิกษุด้วยกันทราบ แต่ไฉนอาบัติในสิกขาบทกลุ่มนี้จึงมีชื่อว่า “ปาฏิเทสนียะ” ( แปลว่า “พึงแสดงคืน” ) อยู่กลุ่มเดียวในเมื่ออาบัติเบาทุกชนิดเป็นสิ่งที่ “พึงแสดงคืน” ด้วยกันทั้งสิ้น 

       เมื่อตรวจดูสำนวนในพระบาลีจึงได้พบคำตอบ นั่นคือ สิกขาบทกลุ่มอื่นๆ เมื่อบรรยายความผิดจบแล้วก็จะบอกว่า ต้องอาบัติอะไร ความจบลงแค่นั้น แต่สิกขาบทในกลุ่ม “ปาฏิเทสนียะ” เมื่อบรรยายความผิดจบแล้ว มีข้อความลงท้ายเหมือนกันทั้ง 4 สิกขาบทว่า -


………….. 

       คารยฺหํ อาวุโส ธมฺมํ อาปชฺชึ อสปฺปายํ ปาฏิเทสนียํ ตํ ปฏิเทเสมีติ 

       ท่านเจ้าข้า ข้าพเจ้าละเมิดธรรมที่น่าตำหนิ ไม่สมควรกระทำ จำจะต้องแสดงคืน ( คือประกาศให้รู้ ) ข้าพเจ้าขอแสดงคืนความผิดนั้น 


………….. 

       ดังนั้น ท่านจึงเอาคำว่า “ปาฏิเทสนียํ” ( จำจะต้องแสดงคืน ) ซึ่งมีความหมายในทางแนะนำวิธีปฏิบัติเมื่อกระทำผิด ในข้อความท่อนท้ายนี่เองมาเป็นชื่อสิกขาบทกลุ่มนี้และเป็นชื่ออาบัติด้วย 

       ไม่พึงเข้าใจไปว่า อาบัติเบาในกลุ่มอื่นไม่ต้องแสดงคืน แสดงคืนเฉพาะอาบัติในกลุ่ม “ปาฏิเทสนียะ” อย่างเดียว 


………….. 


ข้างบนนี้ เอาข้อมูลมาจาก : https://dhamtara.com/?p=10734 


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

ปาฏิเทสนียะ 4

       ปาฏิเทสนียะคือประเภทหนึ่งของโทษที่เกิดจากการล่วงละเมิดสิกขาบทประเภท ลหุกาบัติที่เรียกว่า อาบัติปาฏิเทสนียะ จัดเป็นอาบัติโทษเบา มีทั้งหมด 4 ประการ ได้แก่ 

       1. ห้ามรับของคบเคี้ยว ของฉันจากมือภิกษุณีมาฉัน 

       2. ให้ไล่นางภิกษุณีที่มายุ่งให้เขาถวายอาหาร 

       3. ห้ามรับอาหารในสกุลที่สงฆ์สมมุติว่าเป็นเสขะ ( อริยบุคคล แต่ยังไม่ได้บรรลุเป็นอรหันต์ ) 

       4. ห้ามรับอาหารที่เขาไม่ได้จัดเตรียมไว้ก่อนมาฉันเมื่ออยู่ป่า 


       คำว่า ปาฏิเทสนียะ แปลว่า ที่พึงแสดงคืน 



ข้างบนนี้ เอาข้อมูลมาจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/ปาฏิเทสนียะ_4  


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  


- จบ -