คำตรัสจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า
เรื่อง กฐินขันธก : ทรงอนุญาตให้กรานกฐิน
เรื่อง กฐินขันธก : ทรงอนุญาตให้กรานกฐิน
ขันธ์ที่ 3 : กฐินขันธกะ
หมวดว่าด้วยกฐิน
- - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ทรงอนุญาตให้กรานกฐิน
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 96 )
185. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ภิกษุทั้งหลาย ผู้จำพรรษาแล้วได้กรานกฐิน
พวกเธอผู้ได้กรานกฐินแล้ว จักได้อานิสงส์ 5 ประการ คือ
1. เที่ยวไปไหนไม่ต้องบอกลา
2. ไม่ต้องถือไตรจีวรไปครบสำรับ
3. ฉันคณะโภชน์ได้
4. ทรงอติเรกจีวรไว้ได้ตามปรารถนา
5.จีวรอันเกิดขึ้น ณ ที่นั้นจักได้แก่พวกเธอ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ 5 ประการนี้ จักได้แก่เธอทั้งหลายผู้ได้กรานกฐินแล้ว
วิธีกรานกฐิน
186. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แล สงฆ์พึงกรานกฐินอย่างนี้ คือ
ภิกษุผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติทุติยกรรมวาจา ว่าดังนี้
* * * กรรมวาจาให้ผ้ากฐิน
ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า
ผ้ากฐินผืนนี้เกิดแล้วแก่สงฆ์ ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงให้ผ้ากฐินผืนนี้แก่ภิกษุมีชื่อนี้ เพื่อกรานกฐิน
นี้เป็นญัตติ
ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า
ผ้ากฐินผืนนี้เกิดแล้วแก่สงฆ์ สงฆ์ให้ผ้ากฐินผืนนี้แก่ภิกษุมีชื่อนี้เพื่อกรานกฐิน
การให้ผ้ากฐินผืนนี้แก่ภิกษุชื่อนี้ เพื่อกรานกฐิน ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงเป็นผู้นิ่ง
ไม่ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงพูด
ผ้ากฐินผืนนี้ สงฆ์ให้แล้วแก่ภิกษุมีชื่อนี้ เพื่อกรานกฐิน ชอบแก่สงฆ์ เหตุนั้นจึงนิ่ง
ข้าพเจ้าทรงความนี้ไว้ด้วยอย่างนี้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล กฐินเป็นอันกราน อย่างนี้ไม่เป็นอันกราน
* * * กฐินไม่เป็นอันกราน
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 97 )
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อย่างไรเล่า กฐินไม่เป็นอันกราน คือ
1. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงขีดรอย
2. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงซักผ้า
3. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงกะผ้า
4. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงตัดผ้า
5. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงเนาผ้า
6. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงเย็บด้น
7. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงทำลูกดุม
8. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงทำรังดุม
9. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงประกอบผ้าอนุวาต
10. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงประกอบผ้าอนุวาตด้านหน้า
11. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงดามผ้า
12. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงย้อมเป็นสีหม่นเท่านั้น
13. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยผ้าที่ทำนิมิตได้มา
14. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยผ้าที่พูดเลียบเคียงได้มา
15. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยผ้าที่ยืมเขามา
16. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยผ้าที่เก็บไว้ค้างคืน
17. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยผ้าที่เป็น นิสสัคคีย์
18. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยผ้าที่มิได้ทำ กัปปะพินทุ
19. กฐินไม่เป็นอันกราน เว้นจากผ้าสังฆาฏิเสีย
20. กฐินไม่เป็นอันกราน เว้นจากผ้า อุตราสงค์ เสีย
21. กฐินไม่เป็นอันกราน เว้นจากผ้า อันตรวาสก เสีย
22. กฐินไม่เป็นอันกราน เว้นจาก จีวรมีขัณฑ์ 5 หรือเกิน 5 ซึ่งตัดดีแล้ว ทำให้มีมณฑลเสร็จในวันนั้น
23. กฐินไม่เป็นอันกราน เว้นจากการกรานแห่งบุคคล
24. กฐินไม่เป็นอันกรานโดยชอบ ถ้าภิกษุผู้อยู่นอกสีมา อนุโมทนากฐินนั้น แม้อย่างนี้กฐินก็เชื่อว่าไม่เป็นอันกราน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล กฐินไม่เป็นอันกราน
* * * กฐินเป็นอันกราน
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 98 )
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อย่างไรเล่า กฐินเป็นอันกราน คือ
1. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าใหม่
2. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าเทียมใหม่
3. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าเก่า
4. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าบังสุกุล
5. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าที่ตกตามร้าน
6. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าที่ไม่ได้ทำนิมิตได้มา
7. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าที่ไม่ได้พูดเลียบเคียงได้มา
8. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าที่ไม่ได้ยืมเขามา
9. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าที่ไม่ได้เก็บไว้ค้างคืน
10. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าที่ไม่ได้เป็น นิสสัคคีย์
11. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าที่ทำ กัปปะพินทุ แล้ว
12. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าสังฆาฏิ
13. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้า อุตราสงค์
14. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้า อันตรวาสก
15. กฐินเป็นอันกราน ด้วยจีวรมีขัณฑ์ 5 หรือเกิน 5 ซึ่งตัดดีแล้ว ทำให้มีมณฑลเสร็จในวันนั้น
16. กฐินเป็นอันกราน เพราะการแห่งบุคคล
17. กฐินเป็นอันกราน ถ้าภิกษุอยู่ในสีมา อนุโมทนา กฐินนั้น แม้อย่างนี้ กฐินก็ชื่อว่าเป็นอันกราน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล กฐินเป็นอันกราน
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 99 )
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อย่างไรเล่า กฐินเป็นอันเดาะ
* * * มาติกา 8
ดูกรภิกษุทั้งหลาย มาติกาเพื่อเดาะกฐิน 8 ข้อนี้ คือ
1. กำหนดด้วยหลีกไป
2. กำหนดด้วยจีวรทำเสร็จ
3. กำหนดด้วยตกลงใจ
4. กำหนดด้วยผ้าเสียหาย
5. กำหนดด้วยได้ยินข่าว
6. กำหนดด้วยสิ้นหวัง
7. กำหนดด้วยล่วงเขต
8. กำหนดด้วยเดาะพร้อมกัน
* * * อาทายสัตตกะ ที่ 1 * * * ( 1 ) ( การเดาะกฐินด้วยการถือจีวรหลีกไป )
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 100 )
1. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรที่ทำเสร็จแล้วหลีกไป
ด้วยคิดว่าจักไม่กลับมา
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยหลีกไป
2. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรหลีกไป
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับมาละ
เธอให้ทำจีวรผืนนั้นเสร็จ การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยทำจีวรเสร็จ
3. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรหลีกไป
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักไม่ให้จีวรผืนนี้ จักไม่กลับ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยตกลงใจ
4. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรหลีกไป
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
แล้วทำจีวรผืนนั้น
จีวรของเธอ ที่กำลังทำอยู่นั้นได้เสียหาย
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยผ้าเสียหาย
5. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรหลีกไป
ด้วยคิดว่าจักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
ให้ทำจีวรผืนนั้น
ครั้นทำจีวรเสร็จแล้ว ได้ยินข่าวว่าในอาวาสนั้นกฐินเดาะเสียแล้ว
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยได้ยินข่าว
6. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรหลีกไป
ด้วยคิดว่าจักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
ให้ทำจีวรผืนนั้น
ครั้นทำจีวรเสร็จ คิดว่าจักกลับมา จักกลับมา
แล้วล่วงคราวกฐินเดาะ ณ ภายนอกสีมา
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยล่วงเขต
7. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรหลีกไป
ด้วยคิดว่าจักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา ให้ทำจีวรผืนนั้น
ครั้นทำจีวรเสร็จ คิดว่าจักกลับมา จักกลับมา
แล้วกลับมาทันกฐินเดาะ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น ( ชื่อว่าเดาะ ) พร้อมกับภิกษุทั้งหลาย
* * * สมาทายสัตตกะ ที่ 2 ( การเดาะกฐินด้วยการนำจีวรติดตัวหลีกไป )
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 101 )
1. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรที่ทำเสร็จแล้วหลีกไป
ด้วยคิดว่าจักไม่กลับมา
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยหลีกไป
2. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรหลีกไป
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
เธอให้ทำจีวรผืนนั้นเสร็จ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยทำจีวรเสร็จ
3. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรหลีกไป
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักไม่ให้ทำจีวรผืนนี้ จักไม่กลับ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยตกลงใจ
4. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรหลีกไป
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
เธอให้ทำจีวรผืนนั้น
จีวรของเธอที่ทำอยู่นั้น ได้เสียหาย
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยผ้าเสียหาย
5. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรหลีกไป
ด้วยคิดว่าจักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา ให้ทำจีวรผืนนั้น
ครั้นทำจีวรเสร็จแล้ว ได้ยินข่าวว่าในอาวาสนั้น กฐินเดาะเสียแล้ว
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยได้ยินข่าว
6. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรหลีกไป
ด้วยคิดว่าจักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา ให้ทำจีวรผืนนั้น
ครั้นทำจีวรเสร็จแล้วคิดว่า จักกลับมา จักกลับมา
แล้วล่วงคราวกฐินเดาะ ณ ภายนอกสีมา
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยล่วงเขต
7. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรหลีกไป
ด้วยคิดว่าจักกลับมา
เธออยู่ ณ ภายนอกสีมาให้ทำจีวรผืนนั้น
ครั้นทำจีวรเสร็จแล้ว คิดว่าจักกลับมา จักกลับมา
แล้วกลับมาทันกฐินเดาะ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น ( ชื่อว่าเดาะ ) พร้อมกับภิกษุทั้งหลาย
* * * อาทายฉักกะ ที่ 3 ( การเดาะกฐินด้วยการถือจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป )
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 102 )
1. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า เราจักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
แล้วให้ทำจีวรผืนนั้นเสร็จ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยทำจีวรเสร็จ
2. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักไม่ให้ทำจีวรผืนนี้ จักไม่กลับมา
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยตกลงใจ
3. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
แล้วให้ทำจีวรผืนนั้น
จีวรของเธอที่ทำอยู่นั้นได้เสียหาย
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยผ้าเสียหาย
4. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
ด้วยคิดว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
ให้ทำจีวรผืนนั้น
ครั้นทำจีวรเสร็จแล้ว ได้ทราบข่าวว่า ในอาวาสนั้นกฐินเดาะแล้ว
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยได้ยินข่าว
5. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
ด้วยคิดว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
ให้ทำจีวรผืนนั้น
ครั้นทำจีวรเสร็จแล้ว คิดว่าจักกลับมา จักกลับมา
แล้วล่วงคราวกฐินเดาะ ณ ภายนอกสีมา
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยล่วงเขต
6. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
ด้วยคิดว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
ให้ทำจีวรผืนนั้น
ครั้นทำจีวรเสร็จแล้ว คิดว่าจักกลับมา จักกลับมา
แล้วกลับมาทันกฐินเดาะ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น ( ชื่อว่าเดาะ ) พร้อมกับภิกษุทั้งหลาย
* * * สมาทายฉักกะ ที่ 4 ( การเดาะกฐินด้วยการนำจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป )
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 103 )
1. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า เราจักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
เธอให้ทำจีวรผืนนั้นเสร็จ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยทำจีวรเสร็จ
2. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักไม่ให้ทำจีวรผืนนี้ จักไม่กลับมา
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยตกลงใจ
3. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
แล้วให้ทำจีวรผืนนั้น
จีวรของเธอที่ทำอยู่นั้น ได้เสียหาย
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยผ้าเสียหาย
4. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
ด้วยคิดว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
ให้ทำจีวรผืนนั้น
ครั้นทำจีวรเสร็จแล้ว ได้ยินข่าวว่า ในอาวาสนั้นกฐินเดาะเสียแล้ว
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยได้ยินข่าว
5. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
ด้วยคิดว่าจักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
ให้ทำจีวรผืนนั้น
ครั้นทำจีวรเสร็จแล้ว คิดว่าจักกลับมา จักกลับมา
แล้วล่วงคราวกฐินเดาะ ณ ภายนอกสีมา
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยล่วงเขต
6. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
ด้วยคิดว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
ให้ทำจีวรผืนนั้น
ครั้นทำจีวรเสร็จแล้ว คิดว่าจักกลับมา จักกลับมา
แล้วกลับมาทันกฐินเดาะ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น ( ชื่อว่าเดาะ ) พร้อมกับภิกษุทั้งหลาย
* * * การเดาะกฐินกำหนดด้วยทำจีวรเสร็จเป็นต้น
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 104 )
1. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรหลีกไป
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับมา
เธอให้ทำจีวรผืนนั้นเสร็จ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยทำจีวรเสร็จ
2. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรหลีกไป
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักไม่ให้ทำจีวรผืนนี้ จักไม่กลับ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยตกลงใจ
3. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรหลีกไป
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
แล้วให้ทำจีวรผืนนั้น
จีวรของเธอที่ทำอยู่นั้นได้เสียหาย
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยผ้าเสียหาย
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 105 )
4. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรหลีกไป
ด้วยตั้งใจว่า จักไม่กลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ
เธอให้ทำจีวรผืนนั้นเสร็จ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยทำจีวรเสร็จ
5. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรหลีกไป
ด้วยตั้งใจว่า จักไม่กลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักไม่ให้ทำจีวรผืนนี้
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยตกลงใจ
6. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรหลีกไป
ด้วยตั้งใจว่า จักไม่กลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ
แล้วให้ทำจีวรผืนนั้น
จีวรของเธอที่ทำอยู่นั้นได้เสียหาย
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยผ้าเสียหาย
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 106 )
7. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรหลีกไป
ด้วยไม่ตั้งใจ คือ เธอไม่ได้คิดว่าจักกลับมา
และไม่ได้คิดว่าจักไม่กลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
เธอให้ทำจีวรผืนนั้นเสร็จ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยทำจีวรเสร็จ
8. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรหลีกไป
ด้วยไม่ตั้งใจ คือ เธอไม่ได้คิดว่าจักกลับมา และไม่ได้คิดว่าจักไม่กลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักไม่ให้ทำจีวรผืนนี้ จักไม่กลับ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยตกลงใจ
9. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรหลีกไป
ด้วยไม่ตั้งใจ คือ เธอไม่ได้คิดว่าจักกลับมา และไม่ได้คิดว่าจักไม่กลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอก สีมานี้แหละ จักไม่กลับ
แล้วให้ทำจีวรผืนนั้น
จีวรของเธอที่ทำอยู่นั้นได้เสียหาย
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยผ้าเสียหาย
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 107 )
10. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรหลีกไป
ด้วยคิดว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
เธอให้ทำจีวรผืนนั้นเสร็จ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยทำจีวรเสร็จ
11. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรหลีกไป
ด้วยตั้งใจว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักไม่ให้ทำจีวรผืนนี้ จักไม่กลับ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยตกลงใจ
12. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรหลีกไป
ด้วยคิดว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
แล้วให้ทำจีวรผืนนั้น
จีวรของเธอที่ทำอยู่นั้นได้เสียหาย
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยผ้าเสียหาย
13. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรหลีกไป
ด้วยคิดว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
ให้ทำจีวรผืนนั้น
ครั้นทำจีวรเสร็จแล้ว ได้ยินข่าวว่า ในอาวาสนั้นกฐินเดาะแล้ว
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยได้ยินข่าว
14. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรหลีกไป
ด้วยคิดว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
ให้ทำจีวรผืนนั้น
ครั้นทำจีวรเสร็จแล้ว คิดว่าจักกลับมา จักกลับมา
แล้วล่วงคราวกฐินเดาะ ณ ภายนอกสีมา
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยล่วงเขต
15. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรหลีกไป
ด้วยคิดว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
ให้ทำจีวรผืนนั้น
ครั้นทำจีวรเสร็จแล้ว คิดว่าจักกลับมา จักกลับมา
แล้วกลับมาทันกฐินเดาะ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น พร้อมกับภิกษุทั้งหลาย
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 108 )
ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรหลีกไป * * * ( 2 )
… ( พึงขยายความโดยละเอียดเหมือนวาระที่ว่าด้วยเรื่อง การเดาะกฐิน กำหนดด้วยถือจีวรหลีกไป )
ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ถือจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
เธอให้ทำจีวรผืนนั้นเสร็จ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยทำจีวรเสร็จ … ( พึงขยายความโดยละเอียดเหมือนวาระที่ว่าด้วยเรื่อง การเดาะกฐิน กำหนดด้วยนำจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป )
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 109 )
1. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
เธอให้ทำจีวรผืนนั้นเสร็จ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยทำจีวรเสร็จ
2. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักไม่ให้ทำจีวรผืนนี้ จักไม่กลับ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยตกลงใจ
3. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
แล้วให้ทำจีวรผืนนั้น
จีวรของเธอที่ทำอยู่นั้น ได้เสียหาย
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยผ้าเสียหาย
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 110 )
4. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
ด้วยคิดว่า จักไม่กลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ
เธอให้ทำจีวรผืนนั้นเสร็จ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยทำจีวรเสร็จ
5. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
ด้วยคิดว่า จักไม่กลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักไม่ให้ทำจีวรผืนนี้แหละ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยตกลงใจ
6. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
ด้วยคิดว่า จักไม่กลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ
แล้วให้ทำจีวรผืนนั้น
จีวรของเธอที่ทำอยู่นั้นได้เสียหาย
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยผ้าเสียหาย
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 111 )
7. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
ด้วยไม่ตั้งใจ คือไม่ได้คิดว่าจักกลับมา และไม่ได้คิดว่าจักไม่กลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
เธอให้ทำจีวรผืนนั้นเสร็จ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยทำจีวรเสร็จ
8. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
ด้วยไม่ตั้งใจ คือไม่ได้คิดว่าจักกลับมา และไม่ได้คิดว่าจักไม่กลับ
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักไม่ให้ทำจีวรผืนนี้ จักไม่กลับ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยตกลงใจ
9. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
ด้วยไม่ตั้งใจ คือไม่ได้คิดว่าจักกลับมา และไม่ได้คิดว่าจักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
แล้วให้ทำจีวรผืนนั้น
จีวรของเธอที่ทำอยู่นั้นได้เสียหาย
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยผ้าเสียหาย
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 112 )
10. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
ด้วยคิดว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับละ
เธอให้ทำจีวรผืนนั้นเสร็จ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยทำจีวรเสร็จ
11. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
ด้วยคิดว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักไม่ให้ทำจีวรผืนนี้ จักไม่กลับ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยตกลงใจ
12. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
ด้วยคิดว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
เธอให้ทำจีวรนั้น
จีวรของเธอที่ทำอยู่นั้นได้เสียหาย
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยผ้าเสียหาย
13. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
ด้วยคิดว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
ให้ทำจีวรผืนนั้น
ครั้นทำจีวรเสร็จแล้ว ได้ยินข่าวว่า ในอาวาสนั้น กฐินเดาะเสียแล้ว
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยได้ยินข่าว
14. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
ด้วยคิดว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
ให้ทำจีวรผืนนั้น
ครั้นทำจีวรเสร็จแล้ว คิดว่าจักกลับมา จักกลับมา
แล้วล่วงคราวกฐินเดาะ ณ ภายนอกสีมา
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยล่วงเขต
15. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว นำจีวรที่ทำค้างไว้หลีกไป
ด้วยคิดว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
ให้ทำจีวรผืนนั้น
ครั้นทำจีวรเสร็จแล้วคิดว่า จักกลับมา จักกลับมา
แล้วกลับมาทันกฐินเดาะ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น พร้อมกับภิกษุทั้งหลาย
* * * ความสิ้นหวัง 12 หมวด
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 113 )
1. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยหวังจะได้จีวร
เธออยู่นอกสีมา
เข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนั้น
ได้ไม่สมหวัง ไม่ได้ตามหวัง
เธอคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
เธอให้ทำจีวรผืนนั้นเสร็จ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยทำจีวรเสร็จ
2. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยหวังจะได้จีวร
เธออยู่นอกสีมา
เข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนั้น
ได้ไม่สมหวัง ไม่ได้ตามหวัง
เธอคิดอย่างนี้ว่า จักไม่ให้ทำจีวรผืนนี้ จักไม่กลับ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยตกลงใจ
3. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยหวังจะได้จีวร
เธออยู่นอกสีมา
เข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนั้น
ได้ไม่สมหวัง ไม่ได้ตามหวัง
เธอคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
เธอให้ทำจีวรผืนนั้น
จีวรของเธอที่ทำอยู่นั้นได้เสียหาย
การเดาะกฐิน ของภิกษุนั้น กำหนดด้วยผ้าเสียหาย
4. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยหวังจะได้จีวร
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังว่าจะได้จีวรนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
แล้วเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังว่าจะได้จีวรนั้น
เธอสิ้นหวังว่าจะได้จีวรนั้น
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยสิ้นหวัง
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 114 )
5. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยหวังจะได้จีวร
คิดว่า จักไม่กลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนั้น
ได้ไม่สมหวัง ไม่ได้ตามหวัง
เธอคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ
เธอให้ทำจีวรผืนนั้นเสร็จ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยทำจีวรเสร็จ
6. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยหวังจะได้จีวร
คิดว่าจักไม่กลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนั้น
ได้ไม่สมหวัง ไม่ได้ตามหวัง
เธอคิดอย่างนี้ว่า จักไม่ให้ทำจีวรผืนนี้
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยตกลงใจ
7. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยหวังจะได้จีวร
คิดว่าจักไม่กลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนั้น
ได้ไม่สมหวัง ไม่ได้ตามหวัง
เธอคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ
เธอให้ทำจีวรผืนนั้นเสร็จ
จีวรของเธอที่ทำอยู่นั้นได้เสียหาย
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยผ้าเสียหาย
8. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยหวังจะได้จีวร
คิดว่า จักไม่กลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ
แล้วเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนั้น
เธอสิ้นหวังว่าจะได้จีวรนั้น
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยสิ้นหวัง
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 115 )
9. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยหวังจะได้จีวร
โดยไม่ได้ตั้งใจคือ เธอไม่ได้คิดว่าจะกลับ และไม่คิดว่าจักไม่กลับมา
เธออยูนอกสีมา
เข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนั้น
ได้ไม่สมหวัง ไม่ได้ตามหวัง
เธอคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
เธอให้ทำจีวรผืนนั้นเสร็จ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยทำจีวรเสร็จ
10. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยหวังจะได้จีวร
โดยไม่ตั้งใจ คือ เธอไม่ได้คิดว่า จะกลับมา และไม่ได้คิดว่าจักไม่กลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนั้น
ได้ไม่สมหวัง ไม่ได้ตามหวัง
เธอคิดอย่างนี้ว่า จักไม่ให้ทำจีวรผืนนี้ จักไม่กลับ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยตกลงใจ
11. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยหวังจะได้จีวร
โดยไม่ตั้งใจ คือ เธอไม่ได้คิดว่าจะกลับมา และไม่ได้คิดว่าจักไม่กลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนั้น
ได้ไม่สมหวัง ไม่ได้ตามหวัง
เธอคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
เธอให้ทำจีวรผืนนั้นเสร็จ
จีวรของเธอที่ทำอยู่นั้นได้เสียหาย
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยผ้าเสียหาย
12. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยหวังจะได้จีวร
โดยไม่ตั้งใจ คือ เธอไม่ได้คิดว่าจักกลับมา และไม่ได้คิดว่าจักไม่กลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
แล้วเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนั้น
เธอสิ้นหวังว่าจะได้จีวรนั้น
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยสิ้นหวัง
* * * ความสมหวัง 12 หมวด
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 116 )
1. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยหวังจะได้จีวร
คิดว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนั้น
ได้สมหวัง ไม่ได้ผิดหวัง
เธอคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
เธอให้ทำจีวรผืนนั้นเสร็จ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยทำจีวรเสร็จ
2. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยหวังจะได้จีวร
คิดว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนั้น
ได้สมหวัง ไม่ได้ผิดหวัง
เธอคิดอย่างนี้ว่า จักไม่ให้ทำจีวรผืนนี้ จักไม่กลับ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยตกลงใจ
3. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยหวังจะได้จีวร
คิดว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนั้น
ได้สมหวัง ไม่ได้ผิดหวัง
เธอคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
เธอให้ทำจีวรผืนนั้นเสร็จ
จีวรของเธอที่ทำอยู่นั้นได้เสีย หรือหาย
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยผ้าเสียหาย
4. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยหวังจะได้จีวร
คิดว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
แล้วเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรผืนนั้น
เธอสิ้นหวังว่าจะได้จีวรผืนนั้น
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยสิ้นหวัง
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 117 )
5. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยหวังจะได้จีวร
คิดว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
ได้ยินข่าวว่า ในอาวาสนั้นกฐินเดาะเสียแล้ว
จึงคิดอย่างนี้ว่า เพราะกฐินในอาวาสนั้นเดาะ จักเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ
เธอเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนั้น
ได้สมหวัง ไม่ได้ผิดหวัง
เธอคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละจักไม่กลับ
เธอให้ทำจีวรผืนนั้นเสร็จ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยทำจีวรเสร็จ
6. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยหวังจะได้จีวร
คิดว่า จะกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
ได้ยินข่าวว่า ในอาวาสนั้นกฐินเดาะเสียแล้ว
จึงคิดอย่างนี้ว่า เพราะกฐินในอาวาสนั้นเดาะ จักเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ
เธอเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนั้น
ได้สมหวัง ไม่ได้ผิดหวัง
เธอคิดอย่างนี้ว่า จักไม่ให้ทำจีวรผืนนี้ จักไม่กลับ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยตกลงใจ
7. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยหวังจะได้จีวร
คิดว่าจะกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
ได้ยินข่าวว่า ในอาวาสนั้นกฐินเดาะเสียแล้ว
จึงคิดอย่างนี้ว่า เพราะกฐินในอาวาสนั้นเดาะ จักเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
แล้วเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวัง จะได้จีวรนั้น
เธอสิ้นหวังจะได้อย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
แล้วให้ทำจีวรผืนนั้น
จีวรของเธอที่ทำอยู่นั้นได้เสียหาย
การเดาะกฐินของภิกษุนั้นกำหนดด้วยผ้าเสียหาย
8. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยหวังจะได้จีวร
คิดว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
ได้ทราบข่าวว่า ในอาวาสนั้นกฐินเดาะเสียแล้ว
จึงคิดอย่างนี้ว่า เพราะกฐินในอาวาสนั้นเดาะ จักเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
แล้วเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนั้น
เธอสิ้นหวังจะได้จีวรผืนนั้น
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยสิ้นหวัง
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 118 )
9. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยหวังจะได้จีวร
คิดว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนั้น
ได้สมหวัง ไม่ได้ผิดหวัง
เธอให้ทำจีวรผืนนั้น
ครั้นทำจีวรเสร็จแล้วได้ยินข่าวว่า ในอาวาสนั้นกฐินเดาะเสีย
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยได้ยินข่าว
10. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยหวังจะได้จีวร
คิดว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
แล้วเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนั้น
เธอสิ้นหวังจะได้จีวรนั้น
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยสิ้นหวัง
11. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยหวังจะได้จีวร
คิดว่าจักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนั้น
ได้สมหวัง ไม่ได้ผิดหวัง
เธอให้ทำจีวรนั้น
ครั้นทำจีวรเสร็จแล้ว คิดว่าจักกลับมา จักกลับมา
ล่วงคราวเดาะกฐินนอกสีมา
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยล่วงเขต
12. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยหวังจะได้จีวร
คิดว่า จักกลับมา
เธออยู่นอกสีมา
เข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนั้น
ได้สมหวัง ไม่ได้ผิดหวัง
เธอให้ทำจีวรนั้น
ครั้นทำจีวรเสร็จแล้ว คิดว่า จักกลับมา จักกลับมา
แล้วกลับมาทันกฐินเดาะ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น พร้อมกับภิกษุทั้งหลาย
* * * กรณียะ 12 หมวด
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 119 )
1. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยกรณียะบางอย่าง
เธออยู่นอกสีมา
มีความหวังจะได้จีวร
เธอเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนั้น
ได้ไม่สมหวัง ไม่ได้ตามหวัง
จึงคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
เธอให้ทำจีวรนั้นเสร็จ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยทำจีวรเสร็จ
2. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยกรณียะบางอย่าง
เธออยู่นอกสีมา
มีความหวังว่าจะได้จีวร
เธอเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังว่าจะได้จีวรนั้น
ได้ไม่สมหวัง ไม่ได้ตามหวัง
จึงคิดอย่างนี้ว่า จักไม่ให้ทำจีวรนี้ จักไม่กลับ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยตกลงใจ
3. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยกรณียะบางอย่าง
เธออยู่นอกสีมา
มีความหวังว่าจะได้จีวร
เธอเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนั้น
ได้ไม่สมหวัง ไม่ได้ตามหวัง
จึงคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
จึงให้ทำจีวรนั้น
จีวรของเธอที่ทำอยู่นั้นได้เสีย หรือหาย
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยผ้าเสียหาย
4. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยกรณียะบางอย่าง
เธออยู่นอกสีมา
มีความหวังว่าจะได้จีวร
จึงคิดอย่างนี้ว่า จักเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังว่าจะได้จีวรนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับละ
จึงเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังจะได้จีวรนั้น
เธอสิ้นหวังว่าจะได้จีวรนั้น
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยสิ้นหวัง
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 120 )
5. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยกรณียะบางอย่าง
คิดว่า จักไม่กลับมา
เธออยู่นอกสีมา
มีความหวังว่าจะได้จีวร
จึงเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังว่าจะได้จีวรนั้น
ได้ไม่สมหวัง ไม่ได้ตามหวัง
เธอคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ
แล้วให้ทำจีวรนั้นเสร็จ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยทำจีวรเสร็จ
6. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยกรณียะบางอย่าง
คิดว่า จักไม่กลับมา
เธออยู่นอกสีมา
มีความหวังว่าจะได้จีวร
จึงเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังว่าจงได้จีวรนั้น
ได้ไม่สมหวัง ไม่ได้ตามหวัง
เธอคิดอย่างนี้ว่า จักไม่ให้ทำจีวรนี้
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยตกลงใจ
7. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยกรณียะบางอย่าง
คิดว่า จักไม่กลับมา
เธออยู่นอกสีมา
มีความหวังว่าจะได้จีวร
จึงเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังว่าจะได้จีวรนั้น
ได้ไม่สมหวัง ไม่ได้ตามหวัง
เธอคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ
แล้วให้ทำจีวรนั้น
จีวรของเธอที่ทำอยู่นั้นได้เสียหาย
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยผ้าเสียหาย
8. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยกรณียะบางอย่าง
คิดว่า จักไม่กลับ
เธออยู่นอกสีมา
มีความหวังว่าจะได้จีวร
จึงคิดอย่างนี้ว่า จักเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังว่าจะได้จีวรนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ
แล้วเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังว่าจะได้จีวรนั้น
เธอสิ้นหวังว่าจะได้จีวรนั้น
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยสิ้นหวัง
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 121 )
9. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยกรณียะบางอย่าง
โดยไม่ตั้งใจ
คือ เธอไม่ได้คิดว่าจักกลับมา และไม่ได้คิดว่าจักไม่กลับมา
เธออยู่นอกสีมา
มีความหวังว่าจะได้จีวร
จึงเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังว่าจะได้จีวรนั้น
ได้ไม่สมหวัง ไม่ได้ตามหวัง
เธอคิดอย่างนี้ว่าจักให้ทำจีวรนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
จึงให้ทำจีวรนั้นเสร็จ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยทำจีวรเสร็จ
10. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยกรณียะบางอย่าง
โดยไม่ตั้งใจ
คือ เธอไม่ได้คิดว่าจักกลับมา และไม่ได้คิดว่าจักไม่กลับมา
เธออยู่นอกสีมา
มีความหวังว่าจะได้จีวร
จึงเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังว่าจะได้จีวรนั้น
ได้ไม่สมหวัง ไม่ได้ตามหวัง
เธอคิดอย่างนี้ว่าจักไม่ให้ทำจีวรนี้ จักไม่กลับละ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยตกลงใจ
11. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยกรณียะบางอย่าง
โดยไม่ตั้งใจ
คือเธอไม่ได้คิดว่าจักกลับ และไม่ได้คิดว่าจักไม่กลับมา
เธออยู่นอกสีมา
มีความหวังว่าจะได้จีวร
จึงเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังว่าจะได้จีวรนั้น
ได้ไม่สมหวัง ไม่ได้ตามหวัง
เธอคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
แล้วให้ทำจีวรนั้น
จีวรของเธอที่ทำอยู่นั้นได้เสียหาย
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยผ้าเสียหาย
12. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว หลีกไปด้วยกรณียะบางอย่าง
โดยไม่ตั้งใจ
คือ เธอไม่ได้คิดว่า จักกลับมา และไม่ได้คิดว่าจักไม่กลับมา
เธออยู่นอกสีมา
มีความหวังว่าจะได้จีวร
จึงคิดอย่างนี้ว่า จักเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังว่าจะได้จีวรนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับละ
แล้วเข้าไปยังที่ซึ่งมีหวังว่าจะได้จีวรนั้น
เธอสิ้นหวังที่จะได้จีวรนั้น
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยสิ้นหวัง
* * * หวังได้ส่วนจีวร 9 วิธี
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 122 )
1. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ประสงค์จะไปสู่ทิศ จึงหลีกไป
แต่ยังหวังได้ส่วนจีวร
เธอไปสู่ทิศแล้ว
ภิกษุทั้งหลายถามว่า อาวุโส คุณจำพรรษาที่ไหน และส่วนจีวรของคุณอยู่ที่ไหน
เธอตอบอย่างนี้ว่า ผมจำพรรษาในอาวาสโน้น และส่วนจีวรของผมก็อยู่ที่อาวาสนั้น
ภิกษเหล่านั้นกล่าวอย่างนี้ว่า อาวุโส คุณจงไปนำจีวรนั้นมา พวกผมจักทำจีวรให้คุณ ณ ที่นี้
เธอกลับไปสู่อาวาสนั้น แล้วถามภิกษุทั้งหลายว่า อาวุโส ส่วนจีวรของผมอยู่ที่ไหน
ภิกษุเหล่านั้นตอบ อย่างนี้ว่า อาวุโส นี้ส่วนจีวรของคุณๆ จักไปไหน
เธอตอบอย่างนี้ว่า ผมจักไปสู่อาวาสชื่อโน้น ภิกษุทั้งหลายในอาวาสนั้นจักทำจีวรให้ผม
ภิกษุเหล่านั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ไม่ควร อาวุโส คุณอย่าไปเลย พวกผมจักช่วยทำจีวรให้คุณ ณ ที่นี้
เธอคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
แล้วให้ทำจีวรนั้นเสร็จ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยทำจีวรเสร็จ
2. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ประสงค์จะไปสู่ทิศ จึงหลีกไป ....
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยตกลงใจ
3. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ประสงค์จะไปสู่ทิศ จึงหลีกไป ....
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยผ้าเสียหาย
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 123 )
4. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ประสงค์จะไปสู่ทิศ จึงหลีกไป
แต่ยังหวังได้ส่วนจีวร
เธอนั้นไปสู่ทิศแล้ว
ภิกษุทั้งหลายถามว่า อาวุโส คุณจำพรรษาที่ไหน และส่วนจีวรของคุณอยู่ที่ไหน
เธอตอบอย่างนี้ว่า ผมจำพรรษาในอาวาสโน้น และส่วนจีวรของผมก็อยู่ที่อาวาสนั้น
ภิกษุเหล่านั้นกล่าวอย่างนี้ว่า อาวุโส คุณจงไปนำจีวรนั้นมา พวกผมจักทำจีวรให้คุณ ณ ที่นี้
เธอกลับไปสู่อาวาสนั้นแล้ว ถามภิกษุทั้งหลายว่า อาวุโส ส่วนจีวรของผมอยู่ที่ไหน
ภิกษุเหล่านั้น ตอบอย่างนี้ว่า อาวุโส นี้ส่วนจีวรของคุณ
เธอถือจีวรนั้นไปสู่อาวาสแห่งนั้น
ภิกษุทั้งหลายในระหว่างทางถามเธอว่า อาวุโส คุณจักไปไหน
เธอตอบอย่างนี้ว่า ผมจักไปสู่อาวาสชื่อโน้น ภิกษุทั้งหลายในอาวาสนั้น จักทำจีวรให้ผม
ภิกษุเหล่านั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ไม่ควรอาวุโส อย่าไปเลย พวกผมจักทำจีวรให้คุณ ณ ที่นี้
เธอคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับ
แล้วให้ทำจีวรนั้นเสร็จ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยทำจีวรเสร็จ
5. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ประสงค์จะไปสู่ทิศ จึงหลีกไป
แต่ยังหวังได้ส่วนจีวร
เธอนั้นไปสู่ทิศแล้ว
ภิกษุทั้งหลายถามว่า อาวุโส คุณจำพรรษาที่ไหน และส่วนจีวรของคุณอยู่ที่ไหน
เธอตอบอย่างนี้ว่า ผมจำพรรษาในอาวาสโน้น และส่วนจีวรของผมก็อยู่ที่อาวาสนั้น
ภิกษุเหล่านั้นกล่าวอย่างนี้ว่า อาวุโส คุณจงไปนำจีวรนั้นมา พวกผมจักทำจีวรให้คุณ ณ ที่นี้
เธอกลับไปสู่อาวาสนั้นแล้ว ถามภิกษุทั้งหลายว่า อาวุโส ส่วนจีวรของผมอยู่ที่ไหน
ภิกษุเหล่านั้นตอบอย่างนี้ว่า อาวุโส นี้ส่วนจีวรของคุณ
เธอถือจีวรนั้นไปสู่อาวาสแห่งนั้น
ภิกษุทั้งหลาย ในระหว่างทางถามเธอว่า อาวุโส คุณจักไปไหน
เธอตอบอย่างนี้ว่า ผมจักไปสู่อาวาสชื่อโน้น ภิกษุทั้งหลายในอาวาสนั้นจักทำจีวรให้ผม
ภิกษุเหล่านั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ไม่ควรอาวุโส อย่าไปเลย พวกผมจักทำจีวรให้คุณ ณ ที่นี้
เธอคิดอย่างนี้ว่า จักไม่ให้ทำจีวรนี้ จักไม่กลับ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยตกลงใจ
6. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ประสงค์จะไปสู่ทิศ จึงหลีกไป
แต่ยังหวังได้ส่วนจีวรเธอนั้นไปสู่ทิศแล้ว
ภิกษุทั้งหลายถามว่า อาวุโส คุณจำพรรษาที่ไหน และส่วนจีวรของคุณอยู่ที่ไหน
เธอตอบอย่างนี้ว่า ผมจำพรรษาในอาวาสโน้น และส่วนจีวรของผมก็อยู่ที่อาวาสนั้น
ภิกษุเหล่านั้นกล่าวอย่างนี้ว่า อาวุโส คุณจงไปนำจีวรนั้นมา พวกผมจักทำจีวรให้คุณ ณ ที่นี้
เธอกลับไปสู่อาวาสนั้นแล้ว ถามภิกษุทั้งหลายว่า อาวุโส ส่วนจีวรของผมอยู่ที่ไหน
ภิกษุเหล่านั้นตอบอย่างนี้ว่า อาวุโส นี้ส่วนจีวรของคุณ
เธอถือจีวรนั้นไปสู่อาวาสแห่งนั้น
ภิกษุทั้งหลายในระหว่างทางถามเธอนั้นว่า อาวุโส คุณจักไปไหน
เธอตอบอย่างนี้ว่า ผมจักไปสู่อาวาสชื่อโน้น ภิกษุทั้งหลายในอาวาสนั้นจักทำจีวรให้ผม
ภิกษุเหล่านั้น กล่าวอย่างนี้ว่า ไม่ควร อาวุโส อย่าไปเลย พวกผมจักทำจีวรให้คุณ ณ ที่นี้
เธอคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไปกลับ
แล้วให้ทำจีวรนั้น
จีวรของเธอที่ทำอยู่นั้น ได้เสียหาย
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยผ้าเสียหาย
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 124 )
7. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ประสงค์จะไปสู่ทิศ จึงหลีกไป
แต่ยังหวังจะได้จีวร
เธอนั้นไปสู่ทิศแล้ว
ภิกษุทั้งหลายถามว่า อาวุโส คุณจำพรรษาที่ไหน และส่วนจีวรของคุณอยู่ที่ไหน
เธอตอบอย่างนี้ว่า ผมจำพรรษาในอาวาสโน้น และส่วนจีวรของผมก็อยู่ที่อาวาสนั้น
ภิกษุเหล่านั้นกล่าวอย่างนี้ว่า อาวุโส คุณจงไปนำจีวรนั้นมา พวกผมจักทำจีวรให้คุณ ณ ที่นี้
เธอกลับไปสู่อาวาสนั้นแล้ว ถามภิกษุทั้งหลายว่า อาวุโส ส่วนจีวรของผมอยู่ที่ไหน
ภิกษุเหล่านั้นตอบอย่างนี้ว่า นี้ส่วนจีวรของคุณ
เธอถือจีวรนั้นมาสู่อาวาสนั้น
เมื่อเธอมาถึงอาวาสนั้นแล้ว ได้คิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับละ
เธอให้ทำจีวรนั้นเสร็จ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยทำจีวรเสร็จ
8. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ประสงค์จะไปสู่ทิศ
เธอคิดอย่างนี้ว่า จักไม่ให้ทำจีวรผืนนี้ จักไม่กลับละ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยตกลงใจ
9. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ประสงค์จะไปสู่ทิศ จึงหลีกไป ....
เธอคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ภายนอกสีมานี้แหละ จักไม่กลับละ
เธอให้ทำจีวรผืนนั้นเสร็จ
จีวรของเธอที่ทำอยู่นั้นได้เสียหาย
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยผ้าเสียหาย
* * * ผาสุวิหาร คือ อยู่ตามสบาย 5 ข้อ
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 125 )
1. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ต้องการจะอยู่ตามสบาย จึงถือจีวรหลีกไปด้วยตั้งใจว่า จักไปสู่อาวาสชื่อโน้น
ถ้าในอาวาสนั้น ความสบายจักมีแก่เรา เราจักอยู่
ถ้าความสบายไม่มีแก่เรา เราจักไปสู่อาวาสชื่อโน้น
ถ้าในอาวาสนั้น ความสบายจักมีแก่เรา เราจักอยู่
ถ้าความสบายไม่มีแก่เรา เราจักไปสู่อาวาสชื่อโน้น
ถ้าในอาวาสนั้น ความสบายจักมีแก่เรา เราจักอยู่
ถ้าความสบายไม่มีแก่เรา เราจักกลับ
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ที่นี้แหละ จักไม่กลับละ
เธอให้ทำจีวรผืนนั้นเสร็จ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยทำจีวรเสร็จ
2. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ต้องการจะอยู่ตามสบาย จึงถือจีวรหลีกไปด้วยตั้งใจว่า จักไปสู่อาวาสชื่อโน้น
ถ้าในอาวาสนั้น ความสบายจักมีแก่เรา เราจักอยู่
ถ้าความสบายไม่มีแก่เรา เราจักไปสู่อาวาสชื่อโน้น
ถ้าในอาวาสนั้น ความสบายจักมีแก่เรา เราจักอยู่
ถ้าความสบายไม่มีแก่เรา เราจักไปสู่อาวาสชื่อโน้น
ถ้าในอาวาสนั้น ความสบายจักมีแก่เรา เราจักอยู่
ถ้าความสบายไม่มีแก่เรา เราจักกลับ
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักไม่ให้ทำจีวรผืนนี้ จักไม่กลับละ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยตกลงใจ
3. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ต้องการจะอยู่ตามสบาย จึงถือจีวรหลีกไป ด้วยตั้งใจว่า จักไปสู่อาวาสชื่อโน้น
ถ้าในอาวาสนั้น ความสบายจักมีแก่เรา เราจักอยู่
ถ้าความสบายไม่มีแก่เรา เราจักไปสู่อาวาสชื่อโน้น
ถ้าในอาวาสนั้น ความสบายจักมีแก่เรา เราจักอยู่
ถ้าความสบายไม่มีแก่เรา เราจักไปสู่อาวาสชื่อโน้น
ถ้าในอาวาสนั้น ความสบายจักมีแก่เรา เราจักอยู่
ถ้าความสบายไม่มีแก่เรา เราจักกลับ
เธออยู่นอกสีมา
เกิดความคิดอย่างนี้ว่า จักให้ทำจีวรผืนนี้ ณ ที่นี้แหละ จักไม่กลับละ
เธอให้ทำจีวรผืนนั้นเสร็จ
จีวรของเธอที่ทำอยู่นั้น ได้เสียหาย
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยผ้าเสียหาย
4. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ต้องการจะอยู่ตามสบาย จึงถือจีวรหลีกไป ด้วยตั้งใจว่า จักไปสู่อาวาสชื่อโน้น
ถ้าในอาวาสนั้น ความสบายจักมีแก่เรา เราจักอยู่
ถ้าความสบายไม่มีแก่เรา เราจักไปสู่อาวาสชื่อโน้น
ถ้าในอาวาสนั้น ความสบายจักมีแก่เรา เราจักอยู่
ถ้าความสบายไม่มีแก่เรา เราจักไปสู่อาวาสชื่อโน้น
ในอาวาสนั้น ความสบายจักมีแก่เรา เราจักอยู่
ถ้าความสบายไม่มีแก่เรา เราจักกลับ
เธออยู่นอกสีมา
ให้ทำจีวรผืนนั้น
ครั้นทำจีวรเสร็จแล้ว คิดว่าจักกลับ จักกลับ จนล่วงคราวกฐินเดาะ ณ ภายนอกสีมา
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น กำหนดด้วยล่วงเขต
5. ภิกษุได้กรานกฐินแล้ว ต้องการจะอยู่ตามสบาย จึงถือจีวรหลีกไป ด้วยตั้งใจว่าจะไปสู่อาวาสชื่อโน้น
ถ้าในอาวาสนั้น ความสบายจักมีแก่เรา เราจักอยู่
ถ้าความสบายไม่มีแก่เรา เราจักไปสู่อาวาสชื่อโน้น
ถ้าในอาวาสนั้น ความสบายจักมีแก่เรา เราจักอยู่
ถ้าความสบายไม่มีแก่เรา เราจักไปสู่อาวาสชื่อโน้น
ถ้าในอาวาสนั้น ความสบายจักมีแก่เรา เราจักอยู่
ถ้าความสบายไม่มีแก่เรา เราจักกลับ
เธออยู่นอกสีมา
ให้ทำจีวรผืนนั้น
ครั้นทำเสร็จแล้ว คิดว่าจักกลับ จักกลับ
กลับมาทันกฐินเดาะ
การเดาะกฐินของภิกษุนั้น ( ชื่อว่าเดาะ ) พร้อมกับภิกษุทั้งหลาย
* * * ปลิโพธ และ สิ้น ปลิโพธ
( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 126 )
ดูกรภิกษุทั้งหลาย กฐินมี ปลิโพธ 2 และสิ้นปลิโพธ 2
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อย่างไรเล่า กฐินมีปลิโพธ 2 คือ
อาวาสปลิโพธ 1
จีวรปลิโพธ 1
* * * ปลิโพธ 2
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ อาวาสปลิโพธ เป็นอย่างไร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ยังอยู่ในอาวาสนั้น หรือหลีกไป ผูกใจอยู่ว่า จักกลับมา
อย่างนี้แลชื่อว่า อาวาสปลิโพธ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ จีวรปลิโพธ เป็นอย่างไร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ยังไม่ได้ทำจีวร หรือทำค้างไว้ก็ดี ยังไม่สิ้นความหวังว่าจะได้จีวรก็ดี
อย่างนี้แลชื่อว่า จีวรปลิโพธ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย กฐินมีปลิโพธ 2 อย่างนี้แล
* * * สิ้นปลิโพธ 2
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อย่างไรเล่า กฐินสิ้นปลิโพธ 2 คือ
สิ้นอาวาสปลิโพธ 1
สิ้นจีวรปลิโพธ 1
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ สิ้นอาวาสปลิโพธ อย่างไร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ หลีกไปจากอาวาสนั้น ด้วยสละใจ วางใจ ปล่อยใจ ทอดธุระว่าจักไม่กลับมา
อย่างนี้แล ชื่อว่า สิ้นอาวาสปลิโพธ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สิ้นจีวรปลิโพธเป็นอย่างไร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ทำจีวรเสร็จแล้วก็ดี ทำเสียก็ดี ทำหายเสียก็ดี ทำไฟไหม้เสียก็ดี สิ้นความหวังว่าจะได้จีวรก็ดี
อย่างนี้แล ชื่อว่า สิ้นจีวรปลิโพธ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย กฐินสิ้นปลิโพธมี 2 อย่างนี้แล
- - - - - - - - - - - - - - - - - - -
กฐินขันธกะ จบ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
* * * ( 1 ) พระไตรปิฎกภาษาไทยฉบับหลวง ปีพิมพ์ พ.ศ. 2525 ใช้ว่า อาทายสัตกะ ที่ 6 แต่ในปีพิมพ์ พ.ศ. 2500 และ พ.ศ. 2514 ใช้ว่า อาทายสัตกะ ที่ 1 ซึ่งบาลี ตอนจบ มีว่า อาทายสตฺตกกํ นิฏฺจิตํ ปฐมํ แปลได้ว่า อาทายสัตกะ ที่ 1 จบ - ผู้รวบรวม
* * * ( 2 ) พระไตรปิฎกภาษาไทยฉบับหลวง ปีพิมพ์ พ.ศ. 2500 , พ.ศ. 2514 และ พ.ศ. 2525 ใช้ว่า ถือจีวรหลีกไป ซึ่งบาลีมีว่า จีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ แปลได้ว่า นำจีวรหลีกไป - ผู้รวบรวม
* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) นำมาจากพระไตรปิฎก / หัวข้อใหญ่สุด : อาจารโคจรสมฺปนฺนา / หัวข้อย่อยรองลงมา : คัมภีร์ มหาวรรค ภาค 2 ( วินัยปิฎก เล่มที่ 5 ) / หัวข้อย่อยรองลงมา : ขันธ์ที่ 3 : กฐินขันธกะ / หัวข้อย่อยรองลงมา : กฐินขันธก : ทรงอนุญาตให้กรานกฐิน
* * * อีกช่องทางหนึ่ง คือ สามารถอ่านได้ใน หนังสือ พุทธวจน เรื่อง อริยวินัย / หน้าที่ : 448 , 449 , 450 , 451 , 452 , 453 , 454 , 455 , 456 , 457 , 458 , 459 , 460 , 461 , 462 , 463 , 464 , 465 , 466 , 467 , 468 , 469 , 470 , 471 , 472 , 473
- จบ -