Sunday, April 3, 2022

สมถขันธกะ : มูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์

 

คำตรัสจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า

เรื่อง สมถขันธกะ : มูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์
 



มูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์

( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 641 )  


       อะไรเป็นมูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์

       รากแห่งการโจท 6 อย่าง เป็นมูลแห่ง  อนุวาทาธิกรณ์ ///// 

       รากแห่งอกุศลทั้ง 3 เป็นมูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์ 

       รากแห่งกุศลทั้ง 3 เป็นมูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์ 

       แม้กายก็เป็นมูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์

       แม้วาจาก็เป็นมูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์ 


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 642 )  


       รากแห่งการโจท 6 อย่าง เป็นมูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์ เป็นไฉน 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มักโกรธ ถือโกรธ

       ภิกษุที่มักโกรธ ถือโกรธนั้น ย่อมไม่มีความเคารพ ยำเกรงในพระศาสดา ในพระธรรม ในพระสงฆ์อยู่ ย่อมไม่ทำให้บริบูรณ์แม้ใน สิกขา /////  

       ภิกษุที่ไม่เคารพยำเกรงในพระศาสดา ในพระธรรม ในพระสงฆ์อยู่ แม้ในสิกขาก็ไม่ทำให้บริบูรณ์นั้น ย่อมยังการโจทกันให้เกิดในสงฆ์ 

       การโจทย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เกื้อกูลแก่ชนมาก เพื่อไม่เป็นสุขแก่ชนมาก เพื่อความพินาศแก่ชนมาก เพื่อความไม่เกื้อกูล เพื่อทุกข์แก่เทพยดาและมนุษย์ 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าพวกเธอเล็งเห็นรากแห่งการโจทกันเห็นปานนี้ ทั้งภายในและภายนอกได้ พวกเธอในบริษัทนั้น พึงพยายามละรากแห่งการโจทกันอันลามกนั้นแหละเสีย  

       ถ้าพวกเธอไม่เล็งเห็นรากแห่งการโจทกันเห็นปานนี้ ทั้งภายในและภายนอก พวกเธอในบริษัทนั้นพึงปฏิบัติเพื่อความยืดเยื้อแห่งรากแห่งการโจทกันอันลามกนั้นแหละ  

       ความละรากแห่งการโจทกันอันลามกนั้น ย่อมมีด้วยอย่างนี้  

       การยืดเยื้อแห่งรากแห่งการโจทกันอันลามกนั้น ย่อมมีต่อไปด้วยอย่างนี้ 


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 643 )  


       ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ข้ออื่นยังมีอีก  

       ภิกษุเป็นผู้ลบหลู่ตีเสมอท่าน … 

       ภิกษุเป็นผู้มีปรกติ อิสสา /////  ตระหนี่ … 

       ภิกษุเป็นผู้อวดดี เจ้ามายา … 

       ภิกษุเป็นผู้มีความปรารถนาลามก มีความเห็นผิด … 

       ภิกษุเป็นผู้ถือแต่ความเห็นของตน ถืออย่างแน่นแฟ้น ปลดได้ยาก 

       ภิกษุที่ถือแต่ความเห็นของตน ถืออย่างแน่นแฟ้น ปลดได้ยากนั้น ย่อมไม่มีความเคารพยำเกรงในพระศาสดา ในพระธรรม ในพระสงฆ์อยู่ ย่อมไม่ทำให้
บริบูรณ์แม้ในสิกขา  

       ภิกษุที่ไม่มีความเคารพยำเกรงในพระศาสดา ในพระธรรม ในพระสงฆ์อยู่ แม้ในสิกขา ก็ไม่ทำให้บริบูรณ์นั้น ย่อมยังการโจทกันให้เกิดในสงฆ์  

       การโจทกันย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เกื้อกูลแก่ชนมาก เพื่อไม่เป็นสุขแก่ชนมากเพื่อความพินาศแก่ชนมาก เพื่อความไม่เกื้อกูล เพื่อทุกข์แก่เทพยดาและมนุษย์ดูกรภิกษุทั้งหลาย  

       ถ้าพวกเธอเล็งเห็นรากแห่งการโจทกันเห็นปานนี้ ทั้งภายในและภายนอกได้ พวกเธอในบริษัทนั้น พึงพยายามและรากแห่งการโจทกันอันลามกนั้นแหละเสีย  

       ถ้าพวกเธอไม่เล็งเห็นรากแห่งการโจทกันเห็นปานนี้ ทั้งภายในและภายนอก พวกเธอในบริษัทนั้น พึงปฏิบัติเพื่อความยืดเยื้อแห่งรากแห่งการโจทกันอันลามกนั้นแหละ  

       ความละรากแห่งการโจทกันอันลามกนั้นย่อมมีด้วยอย่างนี้ 

       ความยืดเยื้อแห่งรากแห่งการโจทกันอันลามกนั้น ย่อมมีต่อไปด้วยอย่างนี้

       รากแห่งการโจทกัน 6 อย่างนี้ เป็นมูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์ 



* * * อกุศลมูล 3

( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 644 )  


       อกุศลมูล 3 อย่าง เป็นมูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์เป็นไฉน 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุทั้งหลายในธรรมวินัยนี้ 

       ย่อมมีจิตโลภโจท 

       ย่อมมีจิตโกรธโจท  

       ย่อมมีจิตหลงโจทภิกษุ 

       ด้วย ศีลวิบัติ /////  อาจารวิบัติ /////  ทิฏฐิวิบัติ /////  หรือ อาชีววิบัติ /////   

       อกุศลมูล 3 อย่างนี้ เป็นมูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์ 



* * * กุศลมูล 3

( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 645 )  


       กุศลมูล ๓ อย่าง เป็นมูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์ เป็นไฉน 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุทั้งหลายในธรรมวินัยนี้  

       ย่อมมีจิตไม่โลภโจท  

       ย่อมมีจิตไม่โกรธโจท  

       ย่อมมีจิตไม่หลงโจทภิกษุ  

       ด้วยศีลวิบัติ อาจารวิบัติ ทิฏฐิวิบัติ หรือ อาชีววิบัติ  

       กุศลมูล 3 อย่างนี้ เป็นมูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์ 



( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 646 )  


       อนึ่ง กาย เป็นมูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์ เป็นไฉน  

       ภิกษุบางรูปในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีผิวพรรณน่ารังเกียจ ไม่น่าดู มีรูปร่างเล็ก มีอาพาธมากเป็นคนบอด ง่อย กระจอก หรืออัมพาต 

       ภิกษุทั้งหลายย่อมโจทภิกษุนั้น ด้วยกายใด  

       กายนี้ เป็นมูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์ 



( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 647 )  


       อนึ่ง วาจา เป็นมูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์ เป็นไฉน  

       ภิกษุบางรูปในธรรมวินัยนี้ เป็นคนพูดไม่ดี พูดไม่ชัด พูดระราน  

       ภิกษุทั้งหลายย่อมโจทภิกษุนั้น ด้วยวาจาใด  

       วาจานี้ เป็นมูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์ 



* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) นำมาจากพระไตรปิฎก  /  หัวข้อใหญ่สุด : อาจารโคจรสมฺปนฺนา  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : คัมภีร์ จุลวรรค ภาค 1 ( วินัยปิฎก เล่มที่ 6 )  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : ขันธ์ที่ 4 : สมถขันธกะ  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : สมถขันธกะ : มูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์ 



* * * อีกช่องทางหนึ่ง คือ สามารถอ่านได้ใน หนังสือ พุทธวจน เรื่อง อริยวินัย  /  หน้าที่ : 772 , 773 , 774
 


- จบ -