Saturday, April 23, 2022

อนุวาต

 

อนุวาต 



       อนุวาต - ผ้าดาม , ผ้าทาบ , แผ่นผ้ายาวๆ ที่ทาบไปตามริมสบงหรือตะเข็บ  



- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

การใส่อนุวาต

       ผ้าจะดูประณีตหรือไม่เพียงไร ส่วนที่สำคัญอีกที่ก็คือการใส่ขอบชายผ้า หรืออนุวาต

       อนุวาตที่นำมาใส่ต้องตัดตามทางผ้า หมายความว่า หากเป็นผ้าด้านขวางก็ให้ตัดด้านข้าง ผ้าที่เป็นด้านยาวก็ต้องตัดด้านยาว เหตุเพราะว่าผ้าแต่ละด้านจะหดไม่เท่ากัน 


       สำหรับจีวรจะตัดอนุวาตขนาด 18 ซม ( เพื่อพับด้านยาวทั้งสองด้านให้เหลือขนาดจริง 16 ซม.)  ยาวเท่าขนาดของจีวรทั้งสี่ด้าน 


       1. รีดริมจีวรทั้งสี่ด้าน ขนาด 1 ซม. 

       2. นำอนุวาต มาประกบ แล้วเย็บริมนอกทั้งสี่ด้าน เหลือตรงมุมผ้า ประมาณ 5 ซม. เพื่อการเข้ามุม 

       3. ทำมุมทั้งสี่ ให้ได้ฉาก 

       4. เย็บขอบอนุวาตด้านในทั้งสี่ด้าน 



- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

       องค์ประกอบของจีวร

       จีวรผืนหนึ่งมีขัณฑ์ไม่น้อยกว่า 5 ขัณฑ์ เกินกว่านั้นใช้ได้แต่ต้องเป็น"ขัณฑ์ขอน(คี่)"ตามพระวินัย จีวรจะเป็นขัณฑ์ขอน อาทิเช่น 5 , 7 , 9  ส่วนใหญ่จะนิยม 9 ขัณฑ์ ในกรณีที่ผ้าหน้าแคบอาจจะทำขัณฑ์ให้เล็กลงเพื่อประหยัดผ้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม 

       ในการตัดเย็บจีวรนี้เราจะใช้เฉพาะ มณฑลและอัฑฒมณฑลเท่านั้น ส่วนชื่อจำเพาะอื่นๆจะข้ามไปเพราะจะมีขนาดเหมือนกันแต่ต่างตรงตำแหน่งที่อยู่ของมณฑลต่างๆเหล่านั้นเท่านั้น  


โดยมีผ้าที่เป็นส่วนชื่อเรียกดังนี้ ( ดูส่วนและเส้นต่างๆของจีวร ) 

       1. อัฑฒมณฑล คีเวยยะ ( พันรอบคอ ) 

       2. มณฑล วิวัฏฏะ 

       3. อัฑฒมณฑล วิวัฏฏะ 

       4. อัฑฒมณฑล อนุวิวัฏฏะ 

       5. มณฑล อนุวิวัฏฏะ 

       6. มณฑล ชังเฆยยะ 

       7. อัฑฒมณฑล ชังเฆยยะ ( ปกแข้ง ) 

       8. อัฑฒมณฑล พาหันตะ ( ส่วนที่พันแขน ) 

       9. กุสิ 

       10. อัฑฒกุสิ 

       11. อนุวาต 

       12. รังดุม , ลูกดุม ( ดูเพิ่มเติม ) 

       จีวรนั้นโปรดให้ตัดอย่างคันนาชาวมคธ คือเป็นกระทงมีเส้นคั่น 

       - กระทงใหญ่ เรียกว่า" มณฑล " 

       - กระทงเล็ก เรียกว่า" อัฑฒมณฑล " 

       - เส้นคั่นในระหว่างมณฑลกับอัฑฒมณฑล ดุจคันนาขวาง เรียกว่า" อัฑฒกุสิ " 

       - รวมมณฑล อัฑฒมณฑล อัฑฒกุสิ เรียกว่า" ขัณฑ์ " ดูความหมายของคำว่า"ขัณฑ์" 

       - ในระหว่างขัณฑ์ มีเส้นคั่นดุจคันนายาว เรียกว่า" กุสิ " 



ตรัสสรรเสริญท่านพระอานนท์ 

       ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทำธรรมีกถา ในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานนท์เป็นคนฉลาด อานนท์ได้ซาบซึ้งถึงเนื้อความแห่งถ้อยคำที่เรากล่าวย่อได้โดยกว้างขวาง อานนท์ทำผ้ากุสิก็ได้ ทำผ้าชื่ออัฑฒกุสิก็ได้ ทำผ้าชื่อมณฑลก็ได้ ทำผ้าชื่ออัฑฒมณฑลก็ได้ ทำผ้าชื่อวิวัฏฏะก็ได้ ทำผ้าชื่ออนุวิวัฏฏะก็ได้ ทำผ้าชื่อคีเวยยกะก็ได้ ทำผ้าชื่อชังเฆยยกะก็ได้ และทำผ้าชื่อพาหันตะก็ได้จีวรจักเป็นผ้าที่ตัดแล้ว เศร้าหมองด้วยศัสตรา สมควรแก่สมณะ และพวกศัตรูไม่ต้องการ 

       ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตผ้าสังฆาฏิตัด ผ้าอุตราสงค์ตัด ผ้าอันตรวาสกตัด 


- จบ -