อัพยากฤต
อัพยากฤต ( อ่านว่า อับ-พะ-ยา-กฺริด ) - น. กลาง ๆ ระหว่างกุศลกับอกุศล คือไม่จัดเป็นกุศลหรืออกุศล ในความว่า ธรรมที่เป็นอัพยากฤต. (ส.; ป. อพฺยากต).
ข้างบนนี้ เอาข้อมูลมาจาก : https://www.xn--q3c2aquc2kd.com/define/อัพยากฤต
- - - - - - - - - - - - - - - - - - -
อัพยากตธรรม
ไม่ดีไม่ชั่วในตัวมันเอง
อ่านว่า อับ-พะ-ยา-กะ-ตะ-ทำ
แยกศัพท์เป็น อัพยากต + ธรรม
( 1 ) “อัพยากต” เขียนแบบบาลีเป็น “อพฺยากต” อีกรูปหนึ่งเป็น “อวฺยากต” รากศัพท์เดิมมาจาก น + วิ + อา + กต
( ก ) วิ ( คำอุปสรรค = วิเศษ , พิเศษ , แจ้ง , ต่าง ) + อา ( คำอุปสรรค = ทั่วไป , ยิ่ง , กลับความ ) + กรฺ ( ธาตุ = ทำ ) + ต ปัจจัย , แผลง อิ ที่ วิ เป็น ย ( วิ > วฺย ) , ลบ รฺ ที่สุดธาตุ ( กรฺ > ก )
: วิ > วฺย + อา + กรฺ = วฺยากรฺ + ต = วฺยากรต > วฺยากต แปลตามศัพท์ว่า “ทำให้กระจ่างแจ้งทั่วถึง”
“วฺยากต” เป็นศัพท์กิริยากิตก์และใช้เป็นคุณศัพท์ได้ด้วย มีความหมายดังนี้ –
( 1 ) ตอบ , อธิบาย , ประกาศ , ตัดสิน ( answered , explained , declared , decided )
( 2 ) ทำนาย ( predicted )
( 3 ) ตกลง , ตกลงใจ ( settled , determined )
( ข ) น ( นิบาตบอกความปฏิเสธ = ไม่, ไม่ใช่ ) + วฺยากต แปลง น เป็น อ ตามกฎไวยากรณ์บาลี :
( 1 ) ถ้าพยางค์แรกของคำที่ “น” ไปประสมด้วย ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ ท่านให้แปลง “น” เป็น “อ” ( อะ )
( 2 ) ถ้าพยางค์แรกของคำที่ “น” ไปประสมด้วย ขึ้นต้นด้วยสระ คือ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ ท่านให้แปลง “น” เป็น “อน” ( อะ-นะ )
ในที่นี้ “วฺยากต” ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ ดังนั้นจึงต้องแปลง “น” เป็น “อ”
: น + วฺยากต = นวฺยากต > อวฺยากต แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่ไม่ได้ทำให้กระจ่างแจ้งทั่วถึง”
“อวฺยากต” แปลง วฺ เป็น พฺ ได้อีกรูปหนึ่งเป็น “อพฺยากต” ( อับ-เพีย-กะ-ตะ )
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “อพฺยากต” ว่า unexplained , undecided , not declared , indeterminate ( มิได้อธิบาย , มิได้ตัดสินใจ , มิได้ประกาศ , ไม่กำหนดหมาย )
“อพฺยากต” เขียนแบบไทยเป็น “อัพยากต” ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บไว้เป็นรูปคำสันสกฤตว่า “อัพยากฤต” ( อับ-พะ-ยา-กฺริด ) บอกไว้ว่า –
“อัพยากฤต : ( คำนาม ) กลาง ๆ ระหว่างกุศลกับอกุศล คือไม่จัดเป็นกุศลหรืออกุศล ในความว่า ธรรมที่เป็นอัพยากฤต. ( ส. ; ป. อพฺยากต )”
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต อธิบายไว้ว่า –
“อัพยากฤต : “ซึ่งท่านไม่พยากรณ์” , มิได้บอกว่าเป็นกุศลหรืออกุศล ( ไม่จัดเป็นกุศลหรืออกุศล ) คือ เป็นกลางๆ ไม่ดีไม่ชั่ว ไม่ใช่กุศลไม่ใช่อกุศล ได้แก่ วิบาก กิริยา รูป และนิพพาน.”
ในที่นี้คงเขียนตามรูปบาลีเป็น “อัพยากต”
( 2 ) “ธรรม”
บาลีเป็น “ธมฺม” ( ทำ-มะ ) รากศัพท์มาจาก ธรฺ ( ธาตุ = ทรงไว้ ) + รมฺม ( ปัจจัย ) ลบ รฺ ที่สุดธาตุ ( ธรฺ > ธ ) และ ร ต้นปัจจัย ( รมฺม > มฺม )
: ธรฺ > ธ + รมฺม > มฺม : ธ + มฺม = ธมฺม ( ปุงลิงค์ ) แปลตามศัพท์ว่า –
( 1 ) “กรรมที่ทรงไว้ซึ่งความดีทุกอย่าง” ( หมายถึงบุญ )
( 2 ) “สภาวะที่ทรงผู้ดำรงตนไว้มิให้ตกไปในอบายและวัฏทุกข์” ( หมายถึงคุณธรรมทั่วไปตลอดจนถึงโลกุตรธรรม )
( 3 ) “สภาวะที่ทรงไว้ซึ่งสัตว์ผู้บรรลุมรรคเป็นต้นมิให้ตกไปในอบาย” ( หมายถึงโลกุตรธรรม คือมรรคผล )
( 4 ) “สภาวะที่ทรงลักษณะของตนไว้ หรืออันปัจจัยทั้งหลายทรงไว้” ( หมายถึงสภาพหรือสัจธรรมทั่วไป )
( 5 ) “สภาวะอันพระอริยะมีโสดาบันเป็นต้นทรงไว้ ปุถุชนทรงไว้ไม่ได้” ( หมายถึงโลกุตรธรรม คือมรรคผล )
คำแปลตามศัพท์ที่เป็นกลางๆ “ธมฺม” คือ “สภาพที่ทรงไว้”
“ธมฺม” สันสกฤตเป็น “ธรฺม” เราเขียนอิงสันสกฤตเป็น “ธรรม”
อพฺยากต + ธมฺม = อพฺยากตธมฺม ( อับ-เพีย-กะ-ตะ-ทำ-มะ ) แปลว่า “สภาพที่ไม่ได้ทำให้กระจ่างแจ้งทั่วถึง” ทับศัพท์แบบไทยว่า “อัพยากตธรรม” ความหมายหลักอยู่ที่คำว่า “อัพยากต” ดังที่แสดงไว้ข้างต้น
ขยายความ :
เวลาไปฟังสวดพระอภิธรรม ถ้าใครยังพอระลึกได้ก็ย่อมจะได้ยินพระท่านสวดบทแรกว่า กุสลา ธมฺมา อกุสลา ธมฺมา อพฺยากตา ธมฺมา
กุสลา ธมฺมา = ธรรมที่เป็นกุศล คือเป็นฝ่ายดี
อกุสลา ธมฺมา = ธรรมที่เป็นอกุศล คือเป็นฝ่ายชั่ว
อพฺยากตา ธมฺมา = ธรรมที่เป็นกลางๆ ไม่ดีไม่ชั่ว
“อพฺยากตา ธมฺมา” คำนี้แหละที่ผู้เขียนบาลีวันละคำเอามาเรียกเป็น “อัพยากตธรรม” หมายถึง สิ่งที่เป็นกลางๆ ไม่ดีไม่ชั่วในตัวมันเอง
เช่นระบบสื่อสารที่เรารู้จักกันว่า “เฟซบุ๊ก” มันไม่ดีไม่ชั่วในตัวมันเอง แล้วแต่ว่าคนที่มาเกี่ยวข้องกับเฟซบุ๊กจะใช้เพื่อการอันใด
ใช้เฟซบุ๊กทำดีก็ได้
ใช้เฟซบุ๊กทำชั่วก็ได้
ดังนี้ ย่อมกล่าวได้ว่า เฟซบุ๊กเป็นอัพยากตธรรม
- จบ -