Sunday, February 14, 2021

การเจริญอานาปานสติ ( ตามนัยแห่งมหาสติปัฏฐานสูตร )

 

พุทธวจน - คําสอนจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า

เรื่อง การเจริญอานาปานสติ ( ตามนัยแห่งมหาสติปัฏฐานสูตร )



        ภิกษุทั้งหลาย!  ภิกษุเป็นผู้มีปกติพิจารณาเห็นกายในกายอยู่นั้น เป็นอย่างไรเล่า ?

       ภิกษุทั้งหลาย!  ในกรณีนี้ ภิกษุไปแล้วสู่ป่า หรือโคนไม้ หรือเรือนว่างก็ตาม ย่อมนั่งคู้ขาเข้ามาโดยรอบ ( ขัดสมาธิ ) ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า เธอเป็นผู้มีสติหายใจเข้า มีสติหายใจออก

       ( 1 ) เมื่อหายใจเข้ายาว ก็รู้ชัดว่าเราหายใจเข้ายาว หรือเมื่อหายใจออกยาว ก็รู้ชัดว่าเราหายใจออกยาว หรือว่า

       ( 2 ) เมื่อหายใจเข้าสั้น ก็รู้ชัดว่าเราหายใจเข้าสั้น หรือเมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ชัดว่าเราหายใจออกสั้น

       ( 3 ) เธอย่อมทำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งกายทั้งปวง จักหายใจเข้า เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งกายทั้งปวง จักหายใจออก

       ( 4 ) เธอย่อมทำการฝึกหัดศึกษาว่า เราทำกายสังขารให้รำงับ จักหายใจเข้า เราทำกายสังขารให้รำงับ จักหายใจออก

       เช่นเดียวกับนายช่างกลึงหรือลูกมือของนายช่างกลึงผู้ชำนาญ เมื่อเขาชักเชือกกลึงยาว ก็รู้ชัดว่าเราชักเชือกกลึงยาว เมื่อชักเชือกกลึงสั้น ก็รู้ชัดว่าเราชักเชือกกลึงสั้น ฉันใดก็ฉันนั้น

       ด้วยอาการอย่างนี้แล ที่ภิกษุเป็นผู้มีปกติพิจารณาเห็นกายในกายอันเป็นภายในอยู่บ้าง ในกายอันเป็นภายนอกอยู่บ้าง ในกายทั้งภายในและภายนอกอยู่บ้าง

       และเป็นผู้มีปกติพิจารณาเห็นธรรม อันเป็นเหตุเกิดขึ้นในกายอยู่บ้าง เห็นธรรมเป็นเหตุเสื่อมไปในกายอยู่ บ้าง  เห็นทั้งธรรมเป็นเหตุเกิดขึ้นและเสื่อมไปในกายอยู่บ้าง 

       ก็แหละ สติว่า “กายมีอยู่” ดังนี้ของเธอนั้น เป็นสติที่เธอดำรงไว้เพียงเพื่อความรู้ เพียงเพื่ออาศัยระลึก ที่แท้ เธอเป็นผู้ที่ตัณหาและทิฏฐิอาศัยไม่ได้ และเธอไม่ยึดมั่นอะไรๆ ในโลกนี้ 

       ภิกษุทั้งหลาย!  ภิกษุชื่อว่า เป็นผู้มีปกติพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ แม้ด้วยอาการอย่างนี้

* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) คัดมาจากหนังสือ พุทธวจน เรื่อง อานาปานสติ  /  หัวข้อย่อย : การเจริญอานาปานสติ ( ตามนัยแห่งมหาสติปัฏฐานสูตร )  /  หัวข้อเลขที่ : 5  /  -บาลี มหา. ที. 10/322-324/274. -บาลี มู. ม. 12/103-105/133.  /  หน้าที่ : 45 , 46 

- END -