Monday, March 22, 2021

ทรงทราบความยิ่งและหย่อน แห่งอินทรีย์ของสัตว์

 

พุทธวจน - คําสอนจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า

เรื่อง ทรงทราบความยิ่งและหย่อน แห่งอินทรีย์ของสัตว์ 

       อุทายิ!  บุคคล 4 จำพวกเหล่านี้ มีอยู่ในโลก 4 จำพวกเหล่าไหนเล่า ? 4 จำพวก คือ :-

       อุทายิ!  บุคคลบางคนในกรณีนี้ เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อละ เพื่อสลัดคืนซึ่งอุปธิ ความดำริอันซ่านไป ( สรสงฺกปฺปา ) ซึ่งประกอบด้วยอุปธิ กลุ้มรุมเขาอยู่ ; เขาทน มีความดำริอันซ่านไปเหล่านั้น ไม่ละเสีย ไม่บรรเทาเสีย ไม่กระทำให้สิ้นสุดเสีย ไม่กระทำให้ถึงซึ่งความไม่มี ; อุทายิ! เราย่อมกล่าวบุคคลนี้แลว่า เป็นผู้ประกอบอยู่ด้วยกิเลส ( สํยุตฺโต ) หาใช่เป็นผู้ปราศจากกิเลส ( วิสํยุตฺโต ) ไม่ เพราะเหตุไรเราจึงกล่าวอย่างนั้น ? อุทายิ! เพราะเหตุว่า เรารู้ความยิ่งหย่อนแห่งอินทรีย์ ( ที่มีอยู่ ) ในบุคคลนี้

       อุทายิ!  แต่ว่าบุคคลบางคนในกรณีนี้ เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อละ เพื่อสลัดคืนซึ่งอุปธิ ความดำริอันซ่านไป ซึ่งประกอบด้วยอุปธิกลุ้มรุมเขาอยู่ ; เขาไม่ทน มีความดำริอันซ่านไปเหล่านั้น เขาละอยู่ บรรเทาอยู่ กระทำ ให้สิ้นสุดอยู่ กระทำให้ถึงซึ่งความไม่มีอยู่ ; อุทายิ! เราย่อมกล่าวบุคคลแม้นี้ว่า ยังเป็นผู้ประกอบอยู่ด้วยกิเลส หาใช่เป็นผู้ปราศจากกิเลสไม่ อยู่นั่นเอง เพราะเหตุไรเราจึงกล่าวอย่างนั้น ? อุทายิ! เพราะเหตุว่า เรารู้ความยิ่งหย่อนแห่งอินทรีย์ ( ที่มีอยู่ ) ในบุคคลนี้ 

       อุทายิ!  แต่ว่าบุคคลบางคนในกรณีนี้ เป็นผู้ปฏิบัติ เพื่อละ เพื่อสลัดคืนซึ่งอุปธิ ; เพราะการหลงลืมแห่งสติ ในกาลบางคราว ความดำริอันซ่านไป ซึ่งประกอบด้วยอุปธิ ก็กลุ้มรุมเขาอยู่ ; อุทายิ! ( ระยะเวลาที่ ) สติ ( จะกลับ ) เกิดขึ้น ก็ยังช้า ( กว่าระยะเวลาที่ ) เขาทำให้ความดำรินั้น ละไป บรรเทาไป สิ้นสุดไป ถึงความไม่มีไปอย่างฉับพลัน , ไปเสียอีก

       อุทายิ!  เปรียบเหมือนบุรุษหยดน้ำสองสามหยด ลงไปในกระทะเหล็กที่ร้อนเปรี้ยงอยู่ทั้งวัน ; ( ระยะเวลาที่ ) น้ำหยดลงไปยังช้า ( กว่าระยะเวลาที่ ) น้ำ นั้นถึงซึ่งความเหือดแห้งหายไปอย่างฉับพลัน , ฉันใด;

       อุทายิ! ข้อนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน กล่าวคือ บุคคลบางคนในกรณีนี้ เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อละ เพื่อสลัดคืนซึ่งอุปธิ ; เพราะการหลงลืมแห่งสติในกาลบางคราว ความดำริอันซ่านไป ซึ่งประกอบด้วยอุปธิ ก็กลุ้มรุมเขาอยู่ ; อุทายิ! ( ระยะเวลาที่ ) สติ ( จะกลับ ) เกิดขึ้นก็ยังช้า ( กว่าระยะเวลาที่ ) เขาทำ ให้ความดำรินั้นละไป บรรเทาไป สิ้นสุดไป ถึงความไม่มี ไปอย่างฉับพลัน , ไปเสียอีก ; อุทายิ! เราย่อมกล่าวบุคคลแม้นี้ว่า ยังเป็นผู้ประกอบอยู่ด้วยกิเลส หาใช่เป็นผู้ปราศจากกิเลสไม่ อยู่นั่นเอง เพราะเหตุไรเราจึงกล่าวอย่างนั้น ? อุทายิ! เพราะเหตุว่า เรารู้ความยิ่งหย่อนแห่งอินทรีย์ ( ที่มีอยู่ ) ในบุคคลนี้

       อุทายิ!  ก็แต่ว่า บุคคลบางคนในกรณีนี้ รู้แจ้งว่า “อุปธิเป็นมูลแห่งทุกข์” ดังนี้แล้ว เป็นผู้ปราศจากอุปธิ หลุดพ้นแล้วเพราะความสิ้นแห่งอุปธิ ; อุทายิ! เราย่อมกล่าวบุคคลนี้แล ว่าเป็นผู้ปราศจากกิเลส หาใช่เป็นผู้ประกอบอยู่ด้วยกิเลสไม่  เพราะเหตุไรเราจึงกล่าวอย่างนั้น อุทายิ!  เพราะเหตุว่า เรารู้ความยิ่งหย่อนแห่งอินทรีย์ ( ที่มีอยู่ ) ในบุคคลนี้

       อุทายิ!  บุคคล 4 จำพวกเหล่านี้แล มีอยู่ในโลก

* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) คัดมาจากหนังสือ พุทธวจน เรื่อง ตถาคต  /  หัวข้อใหญ่ : ลักษณะพิเศษของตถาคต  /  หัวข้อย่อย : ทรงทราบความยิ่งและหย่อน แห่งอินทรีย์ของสัตว์  /  หัวข้อเลขที่ : 132  /  -บาลี ม. ม. 13/187/181.  /  หน้าที่ : 323 , 324 , 325  

- END -