Sunday, March 28, 2021

เปรตวิสัย

 

พุทธวจน - คําสอนจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า

เรื่อง เปรตวิสัย

1.อัฏฐิสังขลิกเปรต

       ท่านพระโมคคัลลานะกล่าวว่า อาวุโส!  ผมลงจากคิชฌกูฏบรรพต เขตพระนครราชคฤห์นี้ ได้เห็นอัฏฐิสังขลิกเปรต มีแต่ร่างกระดูก ลอยไปในเวหาส์ ฝูงแร้ง เหยี่ยว และนกตะกรุม พากันโฉบอยู่ขวักไขว่ จิกสับโดยแรง จิกทึ้ง ยื้อแย่งตามช่องซี่โครง สะบัดซึ่งเปรตนั้นอยู่ไปมา เปรตนั้นร้องครวญคราง

       อาวุโส!  ผมนั้นได้คิดเช่นนี้ว่า น่าอัศจรรย์จริงหนอ น่าประหลาดจริงหนอ ที่สัตว์แม้เห็นปานนี้ ยักษ์แม้เห็นปานนี้ เปรตแม้เห็นปานนี้ การได้อัตภาพแม้เห็นปานนี้ ก็มีอยู่

       ภิกษุทั้งหลายพากันเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ท่านพระโมคคัลลานะอวดอุตริมนุสธรรม

       ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

       ภิกษุทั้งหลาย!  สาวกทั้งหลายย่อมเป็นผู้มีจักษุอยู่ ย่อมเป็นผู้มีญาณอยู่ เพราะสาวกได้รู้ได้เห็น หรือได้ทำสัตว์เช่นนี้ให้เป็นพยานแล้ว

       ภิกษุทั้งหลาย!  เมื่อกาลก่อนเราก็ได้เห็นสัตว์นั้นแต่เราไม่ได้พยากรณ์ ถ้าเราพยากรณ์สัตว์นั้นและคนอื่นไม่เชื่อเรา ข้อนั้นก็จะพึงเป็นไปเพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์แก่เขาเหล่านั้นสิ้นกาลนาน

       ภิกษุทั้งหลาย!  สัตว์นั้นเคยเป็นคนฆ่าโคอยู่ในพระนครราชคฤห์นี่เอง ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น เขาหมกไหม้อยู่ในนรกหลายปี หลายร้อยปี หลายพันปี หลายแสนปี แล้วได้ประสบอัตภาพเช่นนี้ ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้นแหละที่ยังเป็นส่วนเหลืออยู่

       ภิกษุทั้งหลาย!  โมคคัลลานะพูดจริง โมคคัลลานะไม่ต้องอาบัติ


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

2.มังสเปสิเปรต

       …ได้เห็นมังสเปสิเปรต มีแต่ชิ้นเนื้อ ลอยไปในเวหาส์ ฝูงแร้ง เหยี่ยว และนกตะกรุมพากันโฉบอยู่ขวักไขว่ จิกสับโดยแรง จิกทึ้ง ยื้อแย่ง สะบัดซึ่งเปรตนั้นอยู่ไปมา เปรตนั้นร้องครวญคราง … 

       ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

       ภิกษุทั้งหลาย!   … สัตว์นั้นเคยเป็นคนฆ่าโค อยู่ในพระนครราชคฤห์นี้เอง … 


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

3.มังสปิณฑเปรต

       …ได้เห็นมังสปิณฑเปรต มีแต่ก้อนเนื้อ ลอยไปในเวหาส์ ฝูงแร้ง เหยี่ยว และนกตะกรุมพากันโฉบอยู่ขวักไขว่ จิกสับโดยแรง จิกทึ้ง ยื้อแย่ง สะบัดซึ่งเปรตนั้นอยู่ไปมา เปรตนั้นร้องครวญคราง … 

       ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

       ภิกษุทั้งหลาย!  … สัตว์นั้นเคยเป็นคนฆ่านกอยู่ในพระนครราชคฤห์นี้เอง … 


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

4.นิจฉวิเปรต 

       …ได้เห็นนิจฉวิเปรตชาย ไม่มีผิวหนัง ลอยไปในเวหาส์ ฝูงแร้ง เหยี่ยว และนกตะกรุมพากันโฉบอยู่ขวักไขว่ จิกสับโดยแรง จิกทึ้ง ยื้อแย่ง สะบัดซึ่งเปรตนั้นอยู่ไปมา เปรตนั้นร้องครวญคราง … 

       ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

       ภิกษุทั้งหลาย!  … สัตว์นั้นเคยเป็นคนฆ่าแกะอยู่ในพระนครราชคฤห์นี้เอง … 


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

5.อสิโลมเปรต

       …ได้เห็นอสิโลมเปรตชาย มีขนเป็นดาบ ลอยไปในเวหาส์ ดาบเหล่านั้นของมันหลุดลอยขึ้นไปแล้วตกลงที่กายของมันเอง เปรตนั้นร้องครวญคราง … 

       ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

       ภิกษุทั้งหลาย!  … สัตว์นั้นเคยเป็นคนฆ่าสุกรอยู่ในพระนครราชคฤห์นี้เอง … 


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

6.สัตติโลมเปรต

       …ได้เห็นสัตติโลมเปรตชาย มีขนเป็นหอก ลอยไปในเวหาส์ หอกเหล่านั้นของมัน หลุดลอยขึ้นไปแล้วตกลงที่กายของมันเอง เปรตนั้นร้องครวญคราง … 

       ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

       ภิกษุทั้งหลาย!  … สัตว์นั้นเคยเป็นคนฆ่าเนื้ออยู่ในพระนครราชคฤห์นี้เอง … 


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

7.อุสุโลมเปรต

       …ได้เห็นอุสุโลมเปรตชาย มีขนเป็นลูกศรลอยไปในเวหาส์ ลูกศรนั้นของมัน หลุดลอยขึ้นไปแล้วตกลงที่กายของมันเอง เปรตนั้นร้องครวญคราง … 

       ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

       ภิกษุทั้งหลาย!  … สัตว์นั้นเคยเป็นเพชฌฆาตอยู่ในพระนครราชคฤห์นี้เอง … 


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

8.สูจิโลมเปรต

       …ได้เห็นสูจิโลมเปรตชาย มีขนเป็นเข็ม ลอยไปในเวหาส์ เข็มเหล่านั้นของมัน หลุดลอยขึ้นไปแล้วตกลงที่กายของมันเอง เปรตนั้นร้องครวญคราง … 

       ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

       ภิกษุทั้งหลาย!  … สัตว์นั้นเคยเป็นคนฝึกม้าอยู่ในพระนครราชคฤห์นี้เอง … 


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

9.สูจกเปรต

       …ได้เห็นสูจกโลมเปรตชาย มีขนเป็นเข็ม ลอยไปในเวหาส์ เข็มเหล่านั้นของมันทิ่มเข้าไปในศีรษะ แล้วออกทางปาก ทิ่มเข้าไปในปาก แล้วออกทางอก เข็มออกทางอก ทิ่มเข้าไปในอก แล้วออกทางปาก ทิ่มเข้าไปในปาก แล้วออกทางอก ทิ่มเข้าไปในอก แล้วออกทางท้อง ทิ่มเข้าไปในท้อง แล้วออกทางขาทั้งสอง ทิ่มเข้าไปในขาทั้งสอง แล้วออกทางแข้งทั้งสอง ทิ่มเข้าไปในแข้งทั้งสอง แล้วออกทางเท้าทั้งสอง เปรตนั้นร้องครวญคราง … 

       ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

       ภิกษุทั้งหลาย!  … สัตว์นั้นเคยเป็นคนชอบพูดจาส่อเสียด อยู่ในพระนครราชคฤห์นี้เอง … 


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

10. กุมภัณฑเปรต

       …ได้เห็นกุมภัณฑเปรตชาย มีอัณฑะโตเท่าหม้อ ลอยไปในเวหาส์ เปรตนั้นแม้เมื่อเดินไปย่อมยกอัณฑะเหล่านั้นแหละขึ้นพาดบ่าเดินไป แม้เมื่อนั่งก็ย่อมนั่งบนอัณฑะเหล่านั้นแหละ ฝูงแร้งเหยี่ยว และนกตะกรุม พากันโฉบอยู่ขวักไขว่ จิกสับโดยแรง จิกทึ้ง ยื้อแย่ง สะบัดซึ่งเปรตนั้นอยู่ไปมา เปรตนั้นร้องครวญคราง … 

       ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

       ภิกษุทั้งหลาย!  … สัตว์นั้นเคยเป็นผู้พิพากษา ตัดสินคดีไม่เป็นธรรม อยู่ในพระนครราชคฤห์นี้เอง … 


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

11.คูถนิมุคคเปรต

       …ได้เห็นคูถนิมุคคเปรตชาย ผู้จมอยู่ในหลุมคูถท่วมศีรษะ … 

       ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

       ภิกษุทั้งหลาย!  … สัตว์นั้นเคยเป็นชู้กับภรรยาของผู้อื่น อยู่ในพระนครราชคฤห์นี้เอง … 


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

12.คูถขาทิเปรต

       …ได้เห็นคูถขาทิเปรตชาย ผู้จมอยู่ในหลุมคูถท่วมศีรษะ กำลังเอามือทั้งสองกอบคูถกินอยู่ …

       ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

       ภิกษุทั้งหลาย!  … สัตว์นั้นเคยเป็นพราหมณ์ผู้ชั่วช้า อยู่ในพระนครราชคฤห์นี้เอง ครั้งศาสนาพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า พราหมณ์นั้นนิมนต์พระภิกษุสงฆ์ด้วยภัตตาหารแล้ว เทคูถลงในรางจนเต็ม สั่งคนให้ไปบอกภัตตกาล แล้วได้กล่าวคำนี้ว่า “ขอท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! จงฉันอาหารและนำไปให้พอแก่ความต้องการจากสถานที่นี้” ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น เขาหมกไหม้ในนรกหลายปี หลายร้อยปี หลายพันปี หลายแสนปี แล้วได้ประสบอัตภาพเช่นนี้ ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้นแหละซึ่งยังเป็นส่วนเหลืออยู่ … 


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

13.นิจฉวิตถีเปรต

       …ได้เห็นนิจฉวิตถีเปรตหญิง ไม่มีผิวหนัง ลอยไปในเวหาส์ ฝูงแร้ง เหยี่ยว และนกตะกรุม พากันโฉบอยู่ขวักไขว่ จิกสับโดยแรง จิกทึ้ง ยื้อแย่ง สะบัดซึ่งเปรตหญิงนั้นอยู่ไปมา เปรตหญิงนั้นร้องครวญคราง … 

       ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

       ภิกษุทั้งหลาย!  … เปรตหญิงนั้นเคยเป็นหญิงประพฤตินอกใจสามี อยู่ในพระนครราชคฤห์นี้เอง ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น เขาหมกไหม้อยู่ในนรกหลายปี หลายร้อยปี หลายพันปี หลายแสนปี แล้วได้ประสบอัตภาพเช่นนี้ ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้นแหละที่ยังเป็นส่วนเหลืออยู่ 


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

14.มังคุลิตถีเปรต

       …ได้เห็นมังคุลิตถีเปรตหญิง มีรูปร่างน่าเกลียด มีกลิ่นเหม็น ลอยไปในเวหาส์ ฝูงแร้ง เหยี่ยว และนกตะกรุม พากันโฉบอยู่ขวักไขว่ จิกสับโดยแรง จิกทึ้ง ยื้อแย่ง สะบัดซึ่งเปรตหญิงนั้นอยู่ไปมา เปรตหญิงนั้นร้องครวญคราง … 

       ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

       ภิกษุทั้งหลาย!  … เปรตหญิงนั้นเคยเป็นหญิงหมอดู ( อิกฺขณิกา ) อยู่ในพระนครราชคฤห์นี้เอง …  


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

15.โอกิลินีเปรต

       …ได้เห็นโอกิลินีเปรตหญิง มีร่างกายถูกไฟลวก มีหยาดเหงื่อไหลหยด มีถ่านเพลิงโปรยลง ลอยไปในเวหาส์ เปรตหญิงนั้นร้องครวญคราง … 

       ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

       ภิกษุทั้งหลาย !  … เปรตหญิงนั้นเคยเป็นอัครมเหสีของพระเจ้ากาลิงคะ นางเป็นคนขี้หึง ได้เอากระทะเต็มด้วยถ่านเพลิงคลอกสตรีร่วมพระสวามี…  


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

16.อสีสกพันธเปรต 

       …ได้เห็นอสีสกพันธเปรต มีศีรษะขาดลอยไปในเวหาส์ ตาและปากของมันอยู่ที่อก ฝูงแร้ง เหยี่ยว และนกตะกรุม พากัน
โฉบอยู่ขวักไขว่ จิกสับโดยแรง จิกทึ้ง ยื้อแย่ง สะบัดซึ่งเปรตนั้นอยู่ไปมา เปรตนั้นร้องครวญคราง … 

       ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

       ภิกษุทั้งหลาย!  … สัตว์นั้นเคยเป็นเพชฌฆาตผู้ฆ่าโจร ชื่อทามริกะ อยู่ในพระนครราชคฤห์นี้เอง … 


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

17.ภิกษุเปรต

       …ได้เห็นภิกษุเปรต ลอยไปในเวหาส์ สังฆาฏิ บาตร ประคตเอว และร่างกายของมันถูกไฟติดลุกโชน เปรตนั้นร้องครวญคราง … 

       ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

       ภิกษุทั้งหลาย!  … ภิกษุเปรตนั้นเคยเป็นภิกษุผู้ชั่วช้า ในศาสนาของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า … 


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

18.ภิกษุณีเปรต

       …ได้เห็นภิกษุณีเปรต ลอยไปในเวหาส์ สังฆาฏิ บาตร ประคตเอว และร่างกายของมันถูกไฟติดลุกโชน เปรตนั้นร้องครวญคราง … 

       ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า 

       ภิกษุทั้งหลาย!  … ภิกษุณีเปรตนั้นเคยเป็นภิกษุณีผู้ชั่วช้า ในศาสนาของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า … 


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

19.สิกขมานาเปรต 

       …ได้เห็นสิกขมานาเปรต ลอยไปในเวหาส์ สังฆาฏิ บาตร ประคตเอว และร่างกายของมันถูกไฟติดลุกโชน เปรตนั้นร้องครวญคราง … 

       ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า 

       ภิกษุทั้งหลาย!  … สิกขมานาเปรตนั้นเคยเป็นสิกขมานาผู้ชั่วช้า ในศาสนาของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

20.สามเณรเปรต

       …ได้เห็นสามเณรเปรต ลอยไปในเวหาส์ สังฆาฏิ บาตร ประคตเอว และร่างกายของมันถูกไฟติดลุกโชน เปรตนั้นร้องครวญคราง … 

       ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

       ภิกษุทั้งหลาย !  … สามเณรเปรตนั้น เคยเป็นสามเณรผู้ชั่วช้า ในศาสนาของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า … 


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

21.สามเณรีเปรต

       …ได้เห็นสามเณรีเปรต ลอยไปในเวหาส์ สังฆาฏิ บาตร ประคตเอว และร่างกายของมันถูกไฟติดลุกโชน เปรตนั้นร้องครวญคราง … 

       ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

       ภิกษุทั้งหลาย!  … สามเณรีเปรตนั้น เคยเป็นสามเณรีผู้ชั่วช้า ในศาสนาของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า 


       ( ในสูตรอื่นก็มีตรัสถึงเรื่องนี้เช่นกัน แต่มีต่างกันตรงที่ในบาลีไม่มีคำว่า เปโต ( เปรต ) นิทาน. สํ.16/298/637. 

* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) คัดมาจากหนังสือ พุทธวจน เรื่อง ภพภูมิ  /  หัวข้อใหญ่ : เปรตวิสัย  /  หัวข้อย่อย : เปรตวิสัย  /  หัวข้อเลขที่ : 43  /  -บาลี มหาวิ. วิ. 1/210/295.  /  หน้าที่ : 136 , 137 , 138 , 139 , 140 , 141 , 142 , 143 , 144 , 145 , 146 , 147 , 148 

- END -