พุทธวจน - คําสอนจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า
เรื่อง ความมีขึ้นแห่งภพ ( นัยที่ 1 )
เรื่อง ความมีขึ้นแห่งภพ ( นัยที่ 1 )
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ! พระผู้มีพระภาคเจ้ากล่าวอยู่ว่า ‘ภพ–ภพ’ ดังนี้ ภพ ย่อมมีได้ ด้วยเหตุเพียงเท่าไรเล่า พระเจ้าข้า!
อานนท์! ถ้ากรรมมีกามธาตุ * * * ( 1 ) เป็นวิบาก จักไม่ได้มีแล้วไซร้ กามภพ จะพึงปรากฏได้แลหรือ ?
หามิได้ พระเจ้าข้า!
อานนท์! ด้วยเหตุนี้แหละ กรรมจึงเป็นเนื้อนา วิญญาณเป็นเมล็ดพืช ตัณหาเป็นยาง ( สำหรับหล่อเลี้ยงเชื้องอก ) ของพืช วิญญาณของสัตว์ทั้งหลาย มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูก ตั้งอยู่แล้วด้วยธาตุชั้นทราม ( กามธาตุ ) การบังเกิดขึ้นในภพใหม่ต่อไป ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้
อานนท์! ถ้ากรรมมีรูปธาตุ * * * ( 2 ) เป็นวิบาก จักไม่ได้มีแล้วไซร้ รูปภพ จะพึงปรากฏได้แลหรือ ?
หามิได้ พระเจ้าข้า!
อานนท์! ด้วยเหตุนี้แหละ กรรมจึงเป็นเนื้อนา วิญญาณเป็นเมล็ดพืช ตัณหาเป็นยางของพืช วิญญาณของสัตว์ทั้งหลาย มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูก ตั้งอยู่แล้วด้วยธาตุชั้นกลาง ( รูปธาตุ ) การบังเกิดขึ้นในภพใหม่ต่อไป ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้
อานนท์! ถ้ากรรมมีอรูปธาตุ * * * ( 3 ) เป็นวิบาก จักไม่ได้มีแล้วไซร้ อรูปภพ จะพึงปรากฏได้แลหรือ ?
หามิได้ พระเจ้าข้า!
อานนท์! ด้วยเหตุนี้แหละ กรรมจึงเป็นเนื้อนา วิญญาณเป็นเมล็ดพืช ตัณหาเป็นยางของพืช วิญญาณของสัตว์ทั้งหลาย มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูก ตั้งอยู่แล้วด้วยธาตุชั้นประณีต ( อรูปธาตุ ) การบังเกิดขึ้นในภพใหม่ต่อไป ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้
อานนท์! ภพ ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้แล
อานนท์! ถ้ากรรมมีกามธาตุ * * * ( 1 ) เป็นวิบาก จักไม่ได้มีแล้วไซร้ กามภพ จะพึงปรากฏได้แลหรือ ?
หามิได้ พระเจ้าข้า!
อานนท์! ด้วยเหตุนี้แหละ กรรมจึงเป็นเนื้อนา วิญญาณเป็นเมล็ดพืช ตัณหาเป็นยาง ( สำหรับหล่อเลี้ยงเชื้องอก ) ของพืช วิญญาณของสัตว์ทั้งหลาย มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูก ตั้งอยู่แล้วด้วยธาตุชั้นทราม ( กามธาตุ ) การบังเกิดขึ้นในภพใหม่ต่อไป ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้
อานนท์! ถ้ากรรมมีรูปธาตุ * * * ( 2 ) เป็นวิบาก จักไม่ได้มีแล้วไซร้ รูปภพ จะพึงปรากฏได้แลหรือ ?
หามิได้ พระเจ้าข้า!
อานนท์! ด้วยเหตุนี้แหละ กรรมจึงเป็นเนื้อนา วิญญาณเป็นเมล็ดพืช ตัณหาเป็นยางของพืช วิญญาณของสัตว์ทั้งหลาย มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูก ตั้งอยู่แล้วด้วยธาตุชั้นกลาง ( รูปธาตุ ) การบังเกิดขึ้นในภพใหม่ต่อไป ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้
อานนท์! ถ้ากรรมมีอรูปธาตุ * * * ( 3 ) เป็นวิบาก จักไม่ได้มีแล้วไซร้ อรูปภพ จะพึงปรากฏได้แลหรือ ?
หามิได้ พระเจ้าข้า!
อานนท์! ด้วยเหตุนี้แหละ กรรมจึงเป็นเนื้อนา วิญญาณเป็นเมล็ดพืช ตัณหาเป็นยางของพืช วิญญาณของสัตว์ทั้งหลาย มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูก ตั้งอยู่แล้วด้วยธาตุชั้นประณีต ( อรูปธาตุ ) การบังเกิดขึ้นในภพใหม่ต่อไป ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้
อานนท์! ภพ ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้แล
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
* * * ( 1 ) กามธาตุ= ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม และธาตุไฟ ( ดูเพิ่มเติม ไตรปิฎกไทย นิทาน. สํ. 16/148/355-6. )
* * * ( 2 ) รูปธาตุ= สิ่งที่เป็นรูปในส่วนละเอียด ( ดูเพิ่มเติม “มีอวัยวะน้อยใหญ่ครบถ้วนมีอินทรีย์ไม่ทราม” ไตรปิฎกไทย สี. ที. 9/32/49. )
* * * ( 3 ) อรูปธาตุ= สิ่งที่ไม่ใช่รูป เป็นนามธรรม เช่น เวทนา สัญญา สังขาร (ผู้ได้สมาธิระดับ อากาสานัญจายตนะขึ้นไป)
* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) คัดมาจากหนังสือ พุทธวจน เรื่อง ภพภูมิ / หัวข้อใหญ่ : ภพ / หัวข้อย่อย : ความมีขึ้นแห่งภพ ( นัยที่ 1 ) / หัวข้อเลขที่ : 2 / -บาลี ติก. อํ. 20/287/516. / หน้าที่ : 4 , 5
- END -