Monday, March 15, 2021

ทรงทำลายความขลาด ก่อนตรัสรู้

 

พุทธวจน - คําสอนจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า

เรื่อง ทรงทำลายความขลาด ก่อนตรัสรู้ 


      ครั้งก่อนแต่การตรัสรู้ เมื่อเรายังไม่ได้ตรัสรู้ ยังเป็นโพธิสัตว์อยู่ มีความรู้สึกว่า เสนาสนะอันสงัด คือป่าและป่าเปลี่ยว เป็นเสนาสนะยากที่จะเสพได้ ความสงัดยากที่จะทำได้ ยากที่จะยินดีในการอยู่ผู้เดียว ป่าทั้งหลายเป็นประหนึ่งว่านำไปเสียแล้วซึ่งใจแห่งภิกษุผู้ยังไม่ได้สมาธิ

       พราหมณ์!  สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด มีกรรมทางกายไม่บริสุทธิ์ เสพเสนาสนะสงัด คือป่าและป่าเปลี่ยวอยู่ , เพราะโทษคือกรรมทางกาย อันไม่บริสุทธิ์ของตนแล สมณพราหมณ์ผู้เจริญเหล่านั้น ย่อมเรียกร้องมาซึ่งความขลาดและความกลัวอย่างอกุศล

       ส่วนเราเอง หาได้เป็นผู้มีกรรมทางกายอันไม่บริสุทธิ์ แล้วเสพเสนาสนะสงัด คือป่าและป่าเปลี่ยวไม่ : เราเป็นผู้มีกรรมทางกายอันบริสุทธิ์

       ในบรรดาพระอริยเจ้าทั้งหลายผู้มีกรรมทางกายอันบริสุทธิ์ และเสพเสนาสนะอันสงัด คือป่าและป่าเปลี่ยว เราเป็นอริยเจ้าองค์หนึ่งในพระอริยเจ้าเหล่านั้น

       พราหมณ์! เรามองเห็นความเป็นผู้มีกรรมทางกายอันบริสุทธิ์ในตนอยู่ จึงถึงความมีขนอันตกสนิทแล้ว ( ไม่ขนพอง ) อยู่ในป่าได้

       พราหมณ์!  สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด มีวจีกรรมไม่บริสุทธิ์ , … มีมโนกรรมไม่บริสุทธิ์ , … มีอาชีวะไม่บริสุทธิ์ , … มีอภิชฌามาก มีความกำหนัดแก่กล้าในกามทั้งหลาย , … มีจิตพยาบาท มีดำริชั่วในใจ , … มีถีนมิทธะกลุ้มรุมจิต , … มีจิตฟุ้งขึ้นไม่สงบ , … มีความระแวงมีความสงสัย , … เป็นผู้ยกตนข่มท่าน , … เป็นผู้มักหวาดเสียว มีชาติแห่งคนขลาด , … มีความปรารถนาเต็มที่ในลาภสักการะและสรรเสริญ , … เป็นคนเกียจคร้าน มีความเพียรเลวทราม , … เป็นผู้ละสติ ปราศจากสัมปชัญญะ , … มีจิตไม่ตั้งมั่น มีจิตหมุนไปผิด , … มีปัญญาเสื่อมทราม เป็นคนพูดบ้าน้ำลาย , ( อย่างหนึ่งๆ ) … เสพเสนาสนะสงัด คือป่าและป่าเปลี่ยวอยู่ เพราะโทษ ( อย่างหนึ่งๆ ) นั้นของตนแล สมณพราหมณ์ผู้เจริญเหล่านั้น ย่อมเรียกร้องมาซึ่งความขลาด และความกลัวอย่างอกุศล

       ส่วนเราเองหาได้เป็นผู้ ( ประกอบด้วยโทษนั้นๆ อย่างใดอย่างหนึ่ง ) มีวจีกรรมไม่บริสุทธิ์ ( เป็นต้น ) ไม่ : เราเป็นผู้มีวจีกรรมอันบริสุทธิ์ ( และปราศจากโทษเหล่านั้นทุกอย่าง ) ในบรรดาพระอริยเจ้าทั้งหลายผู้มีวจีกรรมอันบริสุทธิ์ ( เป็นต้น ) และเสพเสนาสนะสงัด คือป่าและป่าเปลี่ยว เราเป็นอริยเจ้าองค์หนึ่งในพระอริยเจ้าเหล่านั้น

       พราหมณ์! เรามองเห็นความเป็นผู้มีวจีกรรมอันบริสุทธิ์ ( เป็นต้น ) ในตนอยู่จึงถึงความเป็นผู้มีขนตกสนิทแล้ว แลอยู่ในป่าได้

       พราหมณ์!  ความตกลงใจอันนี้ได้มีแก่เราว่า ถ้ากระไรในราตรีอันกำหนดได้แล้วว่า เป็นวัน 14 , 15 และ 8 ค่ำ แห่งปักข์ สวนอันถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์ ป่าอันถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์ ต้นไม้อันถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์ เหล่าใดเป็นที่น่าพึงกลัว เป็นที่ชูชันแห่งโลมชาติ เราพึงอยู่ในเสนาสนะเช่นนั้นเถิด บางที เราอาจเห็นตัวความขลาดและความกลัวได้

       พราหมณ์!  เราได้อยู่ในเสนาสนะเช่นนั้น ในวันอันกำหนดนั้นแล้ว

       พราหมณ์!  เมื่อเราอยู่ในเสนาสนะเช่นนั้น สัตว์ป่าแอบเข้ามา หรือว่านกยูงทำกิ่งไม้แห้งให้ตกลงมา หรือว่าลมพัดหยากเยื่อใบไม้ให้ตกลงมา : ความตกใจกลัวได้เกิดแก่เราว่า นั่นความกลัวและความขลาดมาหาเราเป็นแน่ ความคิดค้นได้มีแก่เราว่า ทำไมหนอ เราจึงเป็นผู้พะวงแต่ในความหวาดกลัว ถ้าอย่างไร เราจะหักห้ามความขลาดกลัวนั้นๆเสีย โดยอิริยาบถที่ความขลาดกลัวนั้นๆมาสู่เรา

       พราหมณ์!  เมื่อเราจงกรมอยู่ ความกลัวเกิดมีมา เราก็ขืนจงกรมแก้ความขลาดนั้น , ตลอดเวลานั้น เราไม่ยืน ไม่นั่ง ไม่นอน 

       เมื่อเรายืนอยู่ ความกลัวเกิดมีมา เราก็ขืนยืน แก้ความขลาดนั้น ตลอดเวลานั้น เราไม่จงกรม ไม่นั่ง ไม่นอน

       เมื่อเรานั่งอยู่ ความกลัวเกิดมีมา เราก็ขืนนั่งแก้ความขลาดนั้น ตลอดเวลานั้น เราไม่จงกรม ไม่ยืน ไม่นอน

       พราหมณ์! เมื่อเรานอนอยู่ ความขลาดเกิดมีมา เราก็ขืนนอนแก้ความขลาดนั้น , ตลอดเวลานั้น เราไม่จงกรม ไม่ยืน ไม่นั่งเลย

* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) คัดมาจากหนังสือ พุทธวจน เรื่อง ตถาคต  /  หัวข้อใหญ่ : เริ่มแต่ออกบรรพชาแล้วเที่ยวเสาะแสวงหาความรู้ ทรมานพระองค์ จนได้ตรัสรู้  /  หัวข้อย่อย : ทรงทำลายความขลาด ก่อนตรัสรู้  /  หัวข้อเลขที่ : 46  /  -บาลี มู. ม. 12/29/30.  /  หน้าที่ : 111 , 112 , 113 , 114  

- END -