คำขอขมาโทษ
* * * พิธีขมาหลายคน
ผู้ขอ - เถเร ปะมาเทนะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง , สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต. ( 3 หน )
ผู้รับ - อะหัง ขะมามิ ตุมเหหิปิ เม ขะมิตัพพัง
ผู้ขอ - ขะมามะ ภันเต
* * * พิธีขมาคนเดียว
ผู้ขอ - เถเร ปะมาเทนะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง , สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต. ( 3 หน )
ผู้รับ - อะหัง ขะมามิ ตะยาปิ เม ขะมิตัพพัง
ผู้ขอ - ขะมามิ ภันเต
* * * คำตอบรับผู้มาขอขมา ( ที่เป็นพุทธวจน )
-บาลี จุลฺล. วิ. 7/180/369
“ยะโต จะ โข ตะวัง อาวุโส อัจจะยัง อัจจะยะโต ทิส๎วา ยะถาธัมมัง ปะฏิกะโรสิ ตันเต มะยัง ปะฏิคคัณหามะ วุทธิ เหสา อาวุโส อะริยัสสะ วินะเย โย อัจจะยัง อัจจะยะโต ทิส๎วา ยะถาธัมมัง ปะฏิกะโรติ อายะติง สังวะรัง อาปัชชะติ”
เมื่อใดท่านเห็นโทษ โดยความเป็นโทษ แล้วทำคืนตามธรรม เมื่อนั้น เรารับโทษนั้นของท่าน เพราะผู้ใดเห็นโทษโดยความเป็นโทษ แล้ว ทำคืนตามธรรม ///// ถึงความสำรวมต่อไป ข้อนั้น เป็นความเจริญในอริยวินัย
* * * คำสัตตาหะกะระณียะ
“สัตตาหะกะระณียัง กิจจัง เม อัตถิ ตัสมา มะยา คันตัพพัง อิมัส๎มิง สัตตาหัพภันตะเร นิวัตติสสามิ”
* * * คำ กรานกฐิน /////
ผ้าสังฆาฏิ - อิมายะ สังฆาฏิยากะฐินัง อัตถะรามิ
ผ้าอุตตราสงค์ - อิมินา อุตตะราสังเฆนะ กะฐินัง อัตถะรามิ
ผ้าอันตรวาสก - อิมินา อันตะระวาสะเกนะ กะฐินัง อัตถะรามิ
* * * คำอนุโมทนากฐิน
อันภิกษุผู้กรานกฐินนั้น พึงเข้าไปหาสงฆ์ ห่ม ผ้าอุตราสงค์ ///// เฉวียงบ่า ประคองอัญชลี กล่าวอย่างนี้ว่า
“อัตถะตัง อาวุโส ( ภันเต ) สังฆัสสะ กะฐินัง , ธัมมิโก กะฐินัตถาโร , อะนุโมทะถะ
ท่านเจ้าข้า กฐินของสงฆ์กรานแล้ว การกรานกฐินเป็นธรรม
ขอท่านทั้งหลาย อนุโมทนาเถิด”
ภิกษุผู้อนุโมทนาเหล่านั้น พึงห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า ประคองอัญชลี กล่าวอย่างนี้ ว่า
“อัตถะตัง ภันเต ( อาวุโส ) สังฆัสสะ กะฐินัง , ธัมมิโก กะฐินัตถาโร , อะนุโมทามะ
ผู้มีอายุ กฐินของสงฆ์กรานแล้ว การกรานกฐินเป็นธรรม
เราทั้งหลาย อนุโมทนา”
* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) นำมาจากพระไตรปิฎก / หัวข้อใหญ่สุด : อริยวินัย ที่มาในพระไตรปิฎกเล่มอื่นๆ / หัวข้อย่อยรองลงมา : ส่วนปิดท้ายภาคผนวก / หัวข้อย่อยรองลงมา : ส่วนปิดท้ายภาคผนวก : คำขอขมาโทษ
* * * อีกช่องทางหนึ่ง คือ สามารถอ่านได้ใน หนังสือ พุทธวจน เรื่อง อริยวินัย / หน้าที่ : 1,100 , 1,101
- จบ -