Wednesday, October 5, 2022

อภิสมาจาร

 




       อภิสมาจาร ( อ่านว่า อะ-พิ-สะ-มา-จาน ) - มารยาทอันดี, ความประพฤติอันดี 



* * * : ข้างบนนี้ เอาข้อมูลมาจาก : https://dictionary.sanook.com/search/dict-th-th-pleang/อภิสมาจาร  


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

อภิสมาจาร

       อ่านว่า อะ-พิ-สะ-มา-จาน

       แยกศัพท์เป็น อภิ + สม + อาจาร

       ( 1 ) “อภิ”

       เป็นคำอุปสรรค มีความหมายว่า เหนือ , ทับ , ยิ่ง , ข้างบน ( over , along over , out over , on top of ) โดยอรรถรสของภาษาหมายถึง มากมาย , ใหญ่หลวง ( very much , greatly ) 


       ( 2 ) “สม”

       บาลีอ่านว่า สะ-มะ ในที่นี้มีที่มาได้ 2 นัย คือ -

       นัย 1 มาจากศัพท์ว่า “สม” ( สะ-มะ ) รากศัพท์มาจาก สมฺ ( ธาตุ = ห้อย , ย้อย ) + อ ( อะ ) ปัจจัย

       : สมฺ + อ = สม แปลตามศัพท์ว่า “ภาวะที่ห้อยอยู่” ( คืออยู่เคียงคู่กัน ) 

       “สม” ในบาลีเป็นคุณศัพท์ ( ถ้าเป็นนาม เป็นปุงลิงค์ ) ใช้ในความหมายดังนี้ -

              ( 1 ) เรียบ , ได้ระดับ ( even , level )

              ( 2 ) เหมือนกัน , เสมอกัน , อย่างเดียวกัน ( like , equal , the same ) 

              ( 3 ) เที่ยงธรรม , ซื่อตรง , มีจิตไม่วอกแวก , ยุติธรรม ( impartial , upright , of even mind , just ) 


       : สม + อาจาร = สมาจาร 

       นัย 2 คำเดิมมาจาก “สํ” ( สัง ) เป็นคำอุปสรรค ตำราบาลีไทยแปลว่า “พร้อม , กับ , ดี” หมายถึง พร้อมกัน , ร่วมกัน ( together ) แปลงนิคหิตเป็น มฺ ( มะ )

       : สํ > สม + อาจาร = สมาจาร 


       ( 3 ) “อาจาร”

       บาลีอ่านว่า อา-จา-ระ รากศัพท์มาจาก อา ( คำอุปสรรค = ทั่วไป , ยิ่ง ) + จรฺ ( ธาตุ = ประพฤติ ) + ณ ปัจจัย , ลบ ณ , ทีฆะ ( ยืดเสียง ) อะ ที่ จ-( รฺ ) เป็น อา ( จรฺ > จารฺ ) 

       : อา + จรฺ = อาจรฺ + ณ = อาจรณ > อาจร > อาจาร แปลตามศัพท์ว่า “การประพฤติทั่ว” = อันใดที่ควรประพฤติ ก็ประพฤติอันนั้นทั่วทั้งหมด ไม่บกพร่อง

       “อาจาร” (ปุงลิงค์) ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ -

              ( 1 ) เป็นคำนาม = การวางตัว , ความประพฤติ , การปฏิบัติ , ความประพฤติชอบ , กิริยามารยาทที่ดี ( way of behaving , conduct , practice , right conduct , good manners ) 

              ( 2 ) เป็นคำคุณศัพท์ = ประพฤติดี , ประพฤติชอบ , มีความประพฤติเช่นนั้นเป็นกิจวัตร ( practising , indulging in , or of such & such a conduct )

       พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า -

       “อาจาร, อาจาร- : ( คำนาม ) ความประพฤติ , ความประพฤติดี ; จรรยา , มรรยาท ; ธรรมเนียม , แบบแผน , หลัก. (ป., ส.).” 


       การประสมคำ : 

       1 สม ( สํ > สม ) + อาจาร = สมาจาร ( สะ-มา-จา-ระ ) แปลว่า ( 1 ) “ความประพฤติที่เหมาะสม”  ( 2 ) “ความประพฤติดีงาม” หมายถึง ความประพฤติ , การปฏิบัติตัว ( conduct , behaviour ) 


       2 อภิ + สมาจาร = อภิสมาจาร ( อะ-พิ-สะ-มา-จา-ระ ) แปลว่า “ความประพฤติที่เหมาะสมดีงามอย่างยิ่ง” หมายถึง กิริยา วาจา มารยาท และการปฏิบัติตัวที่ดีงามเมื่อปรากฏต่อสายตาของผู้คน นำมาซึ่งความเลื่อมใสชื่นชมแก่ผู้ที่ได้พบเห็น


ขยายความ :

       พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต บอกความหมายของ “อภิสมาจาร” ไว้ว่า -

…………..

       อภิสมาจาร : ความประพฤติดีงามที่ประณีตยิ่งขึ้นไป , ขนบธรรมเนียมเพื่อความประพฤติดีงามยิ่งขึ้นไปของพระภิกษุ และเพื่อความเรียบร้อยงดงามแห่งสงฆ์ ; เทียบ อาทิพรหมจรรย์ 


………….. 

       “อภิสมาจาร” เมื่อใช้ประกอบเข้ากับคำว่า “สิกฺขา” ลงปัจจัยเปลี่ยนรูปเป็น “อภิสมาจาริกา” เรียกควบกันว่า “อภิสมาจาริกาสิกฺขา” ( อะ-พิ-สะ-มา-จา-ริ-กา-สิก-ขา ) ใช้ในภาษาไทยเป็น “อภิสมาจาริกาสิกขา” ( -สิกขา ไม่มีจุดใต้ ก ) 

       พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต บอกความหมายไว้ว่า -


………….. 

       อภิสมาจาริกาสิกขา : หลักการศึกษาอบรมในฝ่ายขนบธรรมเนียมที่จะชักนำความประพฤติ ความเป็นอยู่ของพระสงฆ์ให้ดีงามมีคุณยิ่งขึ้นไป , สิกขาฝ่ายอภิสมาจาร ; เทียบ อาทิพรหมจริยกาสิกขา 


………….. 

       ที่คำว่า “อาทิพรหมจริยกาสิกขา” พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต บอกไว้ว่า -


…………

       อาทิพรหมจริยกาสิกขา : หลักการศึกษาอบรมในฝ่ายบทบัญญัติหรือข้อปฏิบัติเบื้องต้นของพรหมจรรย์ สำหรับป้องกันความประพฤติเสียหาย , ข้อศึกษาที่เป็นเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์ หมายถึง สิกขาบท 227 ที่มาในพระปาฏิโมกข์ 


………… 

       “อาทิพรหมจริยกาสิกขา” คือศีล 227 สิกขาบท เป็นกฎระเบียบเพื่อให้ดำรงสมณเพศอยู่ได้ ส่วน “อภิสมาจาริกาสิกขา” เป็นกฎระเบียบเพื่อให้สมณเพศมีความงดงามน่าเลื่อมใส 

       ทั้งสองส่วนนี้บรรพชิตในพระพุทธศาสนาต้องประพฤติปฏิบัติด้วยความเอาใจใส่อย่างยิ่ง โดยเฉพาะ “อาทิพรหมจริยกาสิกขา” คือ ศีล 227 เป็นพื้นฐานสำคัญของความเป็นบรรพชิต 

       ภิกษุผู้ประพฤติสำรวมในศีล 227 แม้บางเวลากิริยาวาจาจะรุ่มร่ามไปบ้าง ก็ยังนับว่าเป็นผู้งามแท้ในศีล 

       ตรงข้ามกับภิกษุที่ “อาทิพรหมจริยกาสิกขา” ขาดรุ่งริ่ง แม้จะแต่งกิริยาวาจาคือ “อภิสมาจาริกาสิกขา” ให้เรียบร้อยอย่างไร ซึ่งจะนับว่างามแท้นั้นหามิได้เลย 


อุปมา : 

       “อาทิพรหมจริยกาสิกขา” เหมือนอาบน้ำให้เนื้อตัวสะอาด 

       “อภิสมาจาริกาสิกขา” เหมือนประแป้งแต่งตัวให้สวยงาม 



* * * : ข้างบนนี้ เอาข้อมูลมาจาก : http://dhamma.serichon.us/2022/05/07/อภิสมาจาร-ศัพท์วิชาการท/  


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  


- จบ -