Sunday, March 14, 2021

เสด็จสำนักอุทกดาบส

 

พุทธวจน - คําสอนจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า

เรื่อง เสด็จสำนักอุทกดาบส 
 

      ราชกุมาร !  เรานั้นแสวงหาอยู่ว่าอะไรเป็นกุศล ค้นหาแต่สิ่งที่ประเสริฐฝ่ายสันติชนิดที่ไม่มีอะไรยิ่งกว่า ; ได้เข้าไปหาอุทกดาบสผู้รามบุตรถึงที่สำนัก แล้วกล่าวว่า “ท่านรามะ!  เราอยากประพฤติพรหมจรรย์ในธรรมวินัยนี้ด้วย”

       ราชกุมาร!  ครั้นเรากล่าวดังนี้ ท่านอุทกผู้รามบุตร ได้กล่าวตอบว่า

       “อยู่เถิดท่านผู้มีอายุ!  ธรรมนี้เป็นเช่นนี้ๆ ; ถ้าบุรุษเข้าใจความแล้ว ไม่นานเลย คงทำให้แจ้ง บรรลุได้ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ทั่วถึงลัทธิของอาจารย์ตน”

       ราชกุมาร!  เราเล่าเรียนธรรมนั้นได้ฉับไวไม่นานเลย

       ราชกุมาร!  เรานั้นกล่าวได้ทั้ง ญาณวาท และ เถรวาท ด้วยอาการมาตรว่าท่องด้วยปาก ด้วยเวลาชั่วที่เจรจาตอบตลอดกาลเท่านั้น อนึ่ง เราและศิษย์อื่นๆ ปฏิญญาได้ว่าเรารู้เราเห็นดังนี้

       ราชกุมาร!  ความรู้สึกได้เกิดขึ้นแก่เราว่า “อุทกผู้รามบุตรได้ประกาศว่า ‘เราทำให้แจ้งธรรมนี้ด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้วแลอยู่’ ด้วยคุณสักว่าศรัทธาอย่างเดียวก็หามิได้ , ที่แท้อุทกผู้รามบุตรคงรู้อยู่เห็นอยู่ ซึ่งธรรมนี้เป็นแน่”

       ราชกุมาร !  ครั้งนั้นเราเข้าไปหาอุทกผู้รามบุตรถึงที่อยู่แล้วกล่าวว่า

       “ท่านรามะ!  ท่านทำธรรมนี้ให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว และประกาศได้เพียงเท่าไรหนอ ?” 

       ครั้นเรากล่าวอย่างนี้ อุทกรามบุตรได้ประกาศให้รู้ถึง เนวสัญญานาสัญญายตนะแล้ว

       ราชกุมาร! ความรู้สึกได้เกิดขึ้นแก่เราว่า “ศรัทธา , วิริยะ , สติ , สมาธิ , ปัญญา จักมีแต่ของอุทกรามบุตรผู้เดียวก็หาไม่  ศรัทธา , วิริยะ , สติ , สมาธิ , ปัญญา ของเราก็มีอยู่ ; อย่างไรก็ตาม เราจักตั้งความเพียร ทำให้แจ้งธรรมที่ท่านรามะประกาศแล้วว่า ‘เราทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้วแลอยู่’ ดังนี้ ให้จงได้”

       ราชกุมาร !  เราได้บรรลุทำให้แจ้งซึ่งธรรมนั้น ด้วยปัญญาอันยิ่งเองฉับไวไม่นานเลย

       ราชกุมาร!  ครั้งนั้น เราเข้าไปหาอุทกผู้รามบุตรถึงที่อยู่แล้วกล่าวว่า “มีเท่านี้หรือที่ท่านบรรลุถึง ทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งแล้วประกาศแก่ผู้อื่นอยู่?”.

       “เท่านี้เองผู้มีอายุ!  ที่เราบรรลุถึง ทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งแล้วประกาศแก่ผู้อื่น”

       “ท่านรามะ!  ถึงเราก็ได้บรรลุทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเองเท่านั้นเหมือนกัน”

       ราชกุมาร!  อุทกผู้รามบุตรได้กล่าวกะเราว่า

       “ลาภของเราแล้ว ท่านผู้มีอายุ!  เราได้ดีแล้ว , ท่านผู้มีอายุ!  มิเสียแรงที่ได้พบเพื่อนร่วมพรหมจรรย์เช่นกับท่าน ผู้ทำให้แจ้งธรรมที่รามะรู้ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง , แม้รามะก็ทำให้แจ้งธรรมที่ท่านทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเองนั้นอย่างเดียวกัน รามะรู้ทั่วถึงธรรมใด ท่านรู้ธรรมนั้น , ท่านรู้ธรรมใด รามะรู้ทั่วถึงธรรมนั้น , รามะเป็นเช่นใด ท่านเป็นเช่นนั้น , ท่านเป็นเช่นใด รามะเป็นเช่นนั้น  ; มาเถิดท่านผู้มีอายุ! ท่านจงปกครองคณะนี้ต่อไป”

       ราชกุมาร!  อุทกรามบุตรเมื่อเป็นสพรหมจารีต่อเรา ก็ได้ตั้งเราไว้ในฐานะแห่งอาจารย์นั่นเทียว ; ได้บูชาเราด้วยการบูชาอันยิ่ง

       ราชกุมาร!  ( เมื่อเราได้เสมอด้วยอาจารย์ ได้การบูชาที่ยิ่งดังนั้น ) ได้เกิดความรู้สึกนี้ว่า “ธรรมนี้จะได้เป็นไปพร้อมเพื่อความหน่าย เพื่อความคลายกำหนัด เพื่อความดับสนิท เพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความรู้พร้อม เพื่อนิพพาน ก็หาไม่ , แต่เป็นไปพร้อม เพียงเพื่อการบังเกิดใน เนวสัญญานาสัญญายตนภพ เท่านั้นเอง”

       ราชกุมาร!  ตถาคต ( เมื่อเห็นโทษในสมาบัติทั้ง 8 ) จึงไม่พอใจในธรรมนั้น เบื่อหน่ายจากธรรมนั้น หลีกไปเสีย

* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) คัดมาจากหนังสือ พุทธวจน เรื่อง ตถาคต  /  หัวข้อใหญ่ : เริ่มแต่ออกบรรพชาแล้วเที่ยวเสาะแสวงหาความรู้ ทรมานพระองค์ จนได้ตรัสรู้  /  หัวข้อย่อย : เสด็จสำนักอุทกดาบส  /  หัวข้อเลขที่ : 37  /  -บาลี ม. ม. 13/446-448/490 * * * ยังมีตรัสในพระสูตรอื่นอีก คือ สคารวสูตร -บาลี ม. ม. 13/672/739 , ปาสราสิสูตร -บาลี มู. ม. 12/320/318 , มหาสัจจกสูตร -บาลี มู. ม. 12/444/412. -ผู้แปล  /  หน้าที่ : 79 , 80 , 81 , 82 

- END -