พุทธวจน - คําสอนจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า
เรื่อง ทรงได้รับการบำเรอ
เรื่อง ทรงได้รับการบำเรอ
ภิกษุทั้งหลาย! เราเป็นผู้ละเอียดอ่อน ละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง ละเอียดอ่อนอย่างที่สุด , ดังเราจะเล่าให้ฟัง
ภิกษุทั้งหลาย! เขาขุดสระ 3 สระในวังแห่งบิดาของเรา , ในสระหนึ่งปลูกอุบล ( บัวเขียว ) , สระหนึ่งปลูกปทุม ( บัวหลวง ) , สระหนึ่งปลูกบุณฑริกะ ( บัวขาว ) , เพื่อประโยชน์แก่เรา
ภิกษุทั้งหลาย! มิใช่ว่าจันทน์ที่เราใช้อย่างเดียวที่มาแต่เมืองกาสี , ถึงผ้าโพก , เสื้อ , ผ้านุ่ง , ผ้าห่ม , ก็ล้วนมาแต่เมืองกาสี
ภิกษุทั้งหลาย! เขาคอยกั้นเศวตฉัตรให้เราด้วยหวังว่าความหนาว , ความร้อน , ละออง , หญ้า , หรือน้ำ ค้าง อย่าได้ถูกต้องเราทั้งกลางวันและกลางคืน
ภิกษุทั้งหลาย! มีปราสาทสำหรับเรา 3 หลัง ; หลังหนึ่งสำหรับฤดูหนาว , หลังหนึ่งสำหรับฤดูร้อน , และหลังหนึ่งสำหรับฤดูฝน
เราอยู่บนปราสาทสำหรับฤดูฝน ตลอดสี่เดือนฤดูฝน ให้เขาบำเรออยู่ด้วยดนตรีอันปราศจากบุรุษ , ไม่ลงจากปราสาททั้งหลาย
ภิกษุทั้งหลาย! ในวังของบิดาเรา , เขาให้ข้าวสุกแห่งข้าวสาลีเจือด้วยเนื้อแก่ทาสและคนงาน ( ดาษดื่น ) เช่นเดียวกับที่ที่อื่นเขาให้ข้าวปลายเกรียนกับน้ำส้มแก่พวกทาส และคนใช้
ภิกษุทั้งหลาย! เมื่อเราเพียบพร้อมไปด้วยการได้ตามใจตัวถึงเพียงนี้ มีการได้รับความประคบประหงมถึงเพียงนี้ ความคิดก็ยังบังเกิดแก่เราว่า “ปุถุชนที่มิได้ยินได้ฟัง ทั้งที่ตัวเองจะต้องแก่ ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้ , แต่ครั้นเห็นคนอื่นแก่ ก็นึกอิดหนาระอาใจ สะอิดสะเอียน ไม่นึกถึงตัวเสียเลย ถึงเราเองก็เหมือนกัน จะต้องแก่ ไม่ข้ามพ้นความแก่ไปได้ , แต่ว่าเมื่อจะต้องแก่ ไม่พ้นความแก่ไปได้ แล้วจะมาลืมตัว อิดหนาระอาใจ สะอิดสะเอียน เมื่อเห็นคนอื่นแก่นั้น ไม่เป็นการสมควรแก่เรา”
ภิกษุทั้งหลาย! เมื่อเราพิจารณาได้เช่นนี้ ความมัวเมาในความหนุ่มของเรา ได้หายไปหมดสิ้น
ภิกษุทั้งหลาย! ปุถุชนที่ไม่ได้ยินได้ฟัง ทั้งที่ตัวเองจะต้องเจ็บไข้ ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้ , ครั้นเห็นคนอื่นเจ็บไข้ ก็นึกอิดหนาระอาใจ สะอิดสะเอียน ไม่นึกถึงตัวเสียเลย ถึงเราเองก็เหมือนกัน จะต้องเจ็บไข้ ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้ , แต่ว่าเมื่อจะต้องเจ็บไข้ ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้แล้ว จะมาลืมตัว อิดหนาระอาใจ สะอิดสะเอียน เมื่อเห็นคนอื่นเจ็บไข้นั้น ไม่เป็นการสมควรแก่เรา
ภิกษุทั้งหลาย! เมื่อเราพิจารณาได้เช่นนี้ ความมัวเมาในความไม่มีโรค ของเราก็หายไปหมดสิ้น
ภิกษุทั้งหลาย! ปุถุชนที่ไม่ได้ยินได้ฟัง ทั้งที่ตัวเองจะต้องตาย ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้ , ครั้นเห็นคนอื่นตาย ก็อิดหนาระอาใจ สะอิดสะเอียน ไม่นึกถึงตัวเสียเลย ถึงเราเองก็เหมือนกัน จะต้องตาย ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้ , แต่ว่าเมื่อจะต้องตาย ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้แล้ว จะมาลืมตัว อิดหนาระอาใจ สะอิดสะเอียน เมื่อเห็นคนอื่นตายนั้น ไม่เป็นการสมควรแก่เรา
ภิกษุทั้งหลาย! เมื่อเราพิจารณาได้เช่นนี้ ความมัวเมาในชีวิตความเป็นอยู่ ของเราได้หายไปหมดสิ้น
* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) คัดมาจากหนังสือ พุทธวจน เรื่อง ตถาคต / หัวข้อใหญ่ : เรื่องตั้งแต่ก่อนประสูติจนถึงก่อนบรรพชา / หัวข้อย่อย : ทรงได้รับการบำเรอ / หัวข้อเลขที่ : 31 / -บาลี ติก. อํ. 20/183-185/478. / หน้าที่ : 60 , 61 , 62
- END -