Wednesday, June 29, 2022

สังฆเภทขันธกะ : ผู้ทำลายสงฆ์ต้องเกิดในอบาย

 

คำตรัสจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า

เรื่อง สังฆเภทขันธกะ : ผู้ทำลายสงฆ์ต้องเกิดในอบาย
 



ผู้ทำลายสงฆ์ต้องเกิดในอบาย 


( เนื้อหาข้างล่างนี้ มีเลขอ้างอิง ( บรรพ ) ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง เป็นเลขที่ : 411 )  


       มีหรือ พระพุทธเจ้าข้า ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ต้องเกิดในอบาย ตกนรก อยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้ 

       มี อุบาลี ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ ต้องเกิดในอบาย ตกนรก อยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้ 


       และมีหรือ พระพุทธเจ้าข้า ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ ไม่ต้องเกิดในอบาย ไม่ตกนรก อยู่ชั่วกัป พอช่วยเหลือได้ 

       มี อุบาลี ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ ไม่ต้องเกิดในอบาย ไม่ตกนรกอยู่ชั่วกัป พอช่วยเหลือได้ 


       พระพุทธเจ้าข้า ก็ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ ต้องเกิดในอบาย ตกนรกอยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้ เป็นไฉน 

       ดูกรอุบาลี ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมแสดงอธรรมว่าเป็นธรรม มีความเห็นในธรรมนั้นว่าเป็นอธรรม มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นอธรรม อำพรางความเห็น อำพรางความถูกใจ อำพรางความชอบใจ อำพรางความจริง ย่อมประกาศให้จับสลากว่า นี้ธรรม นี้วินัย นี้ สัตถุศาสน์ /////  ท่านทั้งหลายจงจับสลากนี้ จงชอบใจสลากนี้

       ดูกรอุบาลี ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์แม้นี้แล ต้องเกิดในอบาย ตกนรกอยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้


       อนึ่ง อุบาลี ภิกษุย่อมแสดงอธรรมว่าเป็นธรรม มีความเห็นในธรรมนั้นว่าเป็นอธรรม มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นธรรม อำพรางความเห็น อำพรางความถูกใจ อำพรางความชอบใจ อำพรางความจริง ย่อมประกาศให้จับสลากว่า นี้ธรรม นี้วินัย นี้สัตถุศาสน์ ท่านทั้งหลายจงจับสลากนี้ จงชอบใจสลากนี้

       ดูกรอุบาลี ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์นี้แล ต้องเกิดในอบายตกนรก อยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้ 


       อนึ่ง อุบาลี ภิกษุย่อมแสดงอธรรมว่าเป็นธรรม มีความเห็นในธรรมนั้นว่าเป็นอธรรม มีความสงสัยในความแตกกัน อำพรางความเห็น อำพรางความถูกใจ อำพรางความชอบใจ อำพรางความจริง ย่อมประกาศให้จับสลากว่า นี้ธรรม นี้วินัย นี้สัตถุศาสน์ ท่านทั้งหลายจงจับสลากนี้ จงชอบใจสลากนี้

       ดูกรอุบาลี ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์แม้นี้แล ต้องเกิดในอบาย ตกนรกอยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้ 


       อนึ่ง อุบาลี ภิกษุย่อมแสดงอธรรมว่าเป็นธรรม มีความเห็นในอธรรมนั้นว่าเป็นธรรม มีความเห็นในการแตกกันว่าเป็นอธรรม …

       … มีความเห็นในอธรรมนั้นว่าเป็นธรรม มีความสงสัยในความแตกกัน … 

       … มีความสงสัยในอธรรมนั้น มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็น อธรรม …

       … มีความสงสัยในอธรรมนั้น มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นธรรม …

       … มีความสงสัยในอธรรมนั้น มีความสงสัยในความแตกกัน อำพรางความเห็น อำพรางความถูกใจ อำพรางความชอบใจ อำพรางความจริง ย่อมประกาศให้จับสลากว่า นี้ธรรม นี้วินัย นี้สัตถุศาสน์ ท่านทั้งหลายจงจับสลากนี้ จงชอบใจสลากนี้ 

       ดูกรอุบาลี ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์แม้นี้แล ต้องเกิดในอบาย ตกนรกอยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้ 


       อนึ่ง อุบาลี ภิกษุย่อมแสดงธรรมว่าเป็นอธรรม … 

       ย่อมแสดงสิ่งมิใช่วินัยว่าเป็นวินัย 

       ย่อมแสดงวินัยว่ามิใช่วินัย 

       ย่อมแสดงคำอันตถาคตมิได้ตรัสภาษิตไว้ว่าเป็นคำอันตถาคตตรัสภาษิตไว้ 

       ย่อมแสดงคำอันตถาคตตรัสภาษิตไว้ว่าเป็นคำอันตถาคตมิได้ตรัสภาษิตไว้ 

       ย่อมแสดงกรรมอันตถาคตมิได้ประพฤติมาว่าเป็นกรรมอันตถาคตประพฤติมาแล้ว

       ย่อมแสดงกรรมอันตถาคตประพฤติมาแล้ว ว่าเป็นกรรมอันตถาคตมิได้ประพฤติมาแล้ว 

       ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตมิได้บัญญัติไว้ว่าเป็นสิ่งที่ตถาคตบัญญัติไว้ 

       ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตบัญญัติไว้ว่าเป็นสิ่งที่ตถาคตมิได้บัญญัติไว้ 

       ย่ย่อมแสดง อนาบัติ /////  ว่าเป็น อาบัติ /////  

       ย่อมแสดงอาบัติว่าเป็นอนาบัติ 

       อมแสดง อาบัติเบา ///// ว่าเป็น อาบัติหนัก /////  

       ย่อมแสดงอาบัติหนักว่าเป็นอาบัติเบา 

       ย่อมแสดงอาบัติมีส่วนเหลือว่าเป็นอาบัติหาส่วนเหลือมิได้ 

       ย่อมแสดงอาบัติหาส่วนเหลือมิได้ว่าเป็นอาบัติมีส่วนเหลือ 

       ย่อมแสดง อาบัติชั่วหยาบ /////  ว่าเป็นอาบัติไม่ชั่วหยาบ 

       ย่อมแสดงอาบัติไม่ชั่วหยาบว่าเป็นอาบัติชั่วหยาบ 

       มีความเห็นในธรรมนั้นว่าเป็นอธรรม 

       มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นอธรรม 

       มีความเห็นในธรรมนั้นว่าเป็นอธรรม 

       มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นธรรม 

       มีความเห็นในธรรมนั้นว่าเป็นอธรรม 

       มีความสงสัยในความแตกกัน  

       มีความเห็นในธรรมนั้นว่าเป็นธรรม 

       มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นอธรรม  

       มีความเห็นในธรรมนั้นว่าเป็นธรรม 

       มีความสงสัยในความแตกกัน มีความสงสัยในธรรมนั้น 

       มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นอธรรม มีความสงสัยในธรรมนั้น 

       มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นธรรม มีความสงสัยในธรรมนั้น  

       มีความสงสัยในความแตกกัน 

       อำพรางความเห็น 

       อำพรางความถูกใจ 

       อำพรางความชอบใจ 

       อำพรางความจริง 

       ย่อมประกาศให้จับสลากว่า นี้ธรรมนี้วินัย นี้สัตถุศาสน์ ท่านทั้งหลายจงจับสลากนี้ จงชอบใจสลากนี้ 


       ดูกรอุบาลี ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์แม้นี้แล ต้องเกิดในอบาย ตกนรกอยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้ 



* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) นำมาจากพระไตรปิฎก  /  หัวข้อใหญ่สุด : อาจารโคจรสมฺปนฺนา  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : คัมภีร์ จุลวรรค ภาค 2 ( วินัยปิฎก เล่มที่ 7 )  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : ขันธ์ที่ 3 : สังฆเภทขันธกะ  /  หัวข้อย่อยรองลงมา : สังฆเภทขันธกะ : ผู้ทำลายสงฆ์ต้องเกิดในอบาย 



* * * อีกช่องทางหนึ่ง คือ สามารถอ่านได้ใน หนังสือ พุทธวจน เรื่อง อริยวินัย  /  หน้าที่ : 903 , 904 , 905 



- จบ -