Monday, June 27, 2022

อสัทธรรม

 

อสัทธรรม 


       "อสัทธรรม" พระพุทธเจ้าทรงปรารภพระเทวทัต พระองค์ตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย ทางที่ดี ภิกษุพึงพิจารณาเห็นวิบัติของตนและของผู้อื่น ตามกาลอันควร พิจารณาเห็นสมบัติของตนและของคนอื่น ตามกาลอันควร พระเทวทัตถูกอสัทธรรมครอบงำย่ำยีจิต ต้องไปเกิดในอบาย ต้องไปเกิดในนรก ดำรงอยู่ชั่วกัป แก้ไขไม่ได้ 

       อสัทธรรม ได้แก่ ลาภครอบงำย่ำยีจิต , ความเสื่อมภาภครอบงำย่ำยีจิต , ยศครอบงำย่ำยีจิต , ความเสื่อมยศครอบงำย่ำยีจิต , สักการะครอบงำย่ำยีจิต , ความเสีื่อมสักการะครอบงำย่ำยีจิต , ความปรารถนาชั่วครอบงำย่ำยีจิต และความมีมิตรชั่วครอบงำย่ำยีจิต 

       หากอสัทธรรมเหล่านี้เข้าครอบงำย่ำยีจิต อาสวะและความเร่าร้อนที่ก่อความคับแค้นพึงเกิดขึ้น 

       หากอสัทธรรมเหล่่านี้ไม่ครอบงำย่ำยีจิต ในหมู่มนุษย์ ( ผู้มีจิตใจสูงส่งเพราะประพฤติกุศลธรรม 10 อย่าง ) อาสวะและความเร่าร้อนที่ก่อความคับแค้นย่อมไม่มีแก่เธอ

       บริษัท 4 โปรดเรียน จดจำ ทรงจำ ธรรมบรรยายนี้ เพราะประกอบด้วยประโยชน์ เป็นเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์ ( ย่อความจากอุตตรวิปัตติสูตร หน้า 209 พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมจร.เล่ม 23 )    


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

       [ เล่มที่ 37 ] พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม 4 หน้า 286 

       [ 84 ] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อสัทธรรม 7 ประการนี้ 7ระการเป็นไฉน คือ 

       อสัตบุรุษเป็นผู้ไม่มีศรัทธา 1 

       ไม่มีหิริ 1 

       ไม่มีโอตตัปปะ 1 

       ไม่มีสุตะ ( ไม่สดับฟังพระธรรม ) 1 

       เป็นผู้เกียจคร้าน 1 

       มีสติหลงลืม 1 

       มีปัญญาทราม 1 


       ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อสัทธรรม 7 ประการนี้แล 


       ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัทธรรม 7 ประการนี้ 7 ประการนี้เป็นไฉน คือ

       สัตบุรุษเป็นผู้มีศรัทธา 1
 
       มีหิริ 1 

       มีโอตตัปปะ 1 

       เป็นพหูสูต 1 

       ปรารภความเพียร 1 

       มีสติ 1 

       มีปัญญา 1


       ดูก่อนภิกษุทั้งหลายสัทธรรม 7 ประการนี้แล    


- จบ -