Monday, April 12, 2021

กรรมที่เป็นไปเพื่อความสิ้นกรรม

 

พุทธวจน - คําสอนจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า

เรื่อง กรรมที่เป็นไปเพื่อความสิ้นกรรม 

      ภิกษุทั้งหลาย!  กรรม 4 อย่างเหล่านี้ เรากระทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว ประกาศให้รู้ทั่วกัน  กรรม ๔ อย่าง อย่างไรเล่า ?

       ภิกษุทั้งหลาย!  กรรมดำ มีวิบากดำ ก็มีอยู่

       ภิกษุทั้งหลาย!  กรรมขาว มีวิบากขาว ก็มีอยู่

       ภิกษุทั้งหลาย!  กรรมทั้งดำทั้งขาว มีวิบากทั้งดำทั้งขาว ก็มีอยู่ 

       ภิกษุทั้งหลาย!  กรรมไม่ดำไม่ขาว มีวิบากไม่ดำไม่ขาว เป็นไปเพื่อความสิ้นกรรม ก็มีอยู่ 

       ภิกษุทั้งหลาย!  กรรมดำ มีวิบากดำ เป็นอย่างไรเล่า ?

       ภิกษุทั้งหลาย!  บุคคลบางคนในกรณีนี้

       ย่อมปรุงแต่ง กายสังขาร อันเป็นไปกับด้วยความเบียดเบียน

       ย่อมปรุงแต่ง วจีสังขาร อันเป็นไปกับด้วยความเบียดเบียน

       ย่อมปรุงแต่ง มโนสังขาร อันเป็นไปกับด้วยความเบียดเบียน

       ครั้นเขาปรุงแต่งสังขาร ( ทั้ง 3 ) ดังนี้แล้ว ย่อมเข้าถึงโลกอันเป็นไปกับด้วยความเบียดเบียน ผัสสะทั้งหลายอันเป็นไปกับด้วยความเบียดเบียน ย่อมถูกต้องเขา ผู้เข้าถึงโลกอันเป็นไปกับด้วยความเบียดเบียน

       เขาอันผัสสะที่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนถูกต้องแล้ว ย่อมเสวยเวทนาที่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียน อันเป็นทุกข์โดยส่วนเดียว ดังเช่นพวกสัตว์นรก

       ภิกษุทั้งหลาย!  นี้เรียกว่า กรรมดำมีวิบากดำ

       ภิกษุทั้งหลาย!  กรรมขาว มีวิบากขาว เป็นอย่างไรเล่า ?

       ภิกษุทั้งหลาย!  บุคคลบางคนในกรณีนี้ ย่อมปรุงแต่ง กายสังขาร อันไม่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียน

       ย่อมปรุงแต่ง วจีสังขาร อันไม่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียน

       ย่อมปรุงแต่ง มโนสังขาร อันไม่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียน

       ครั้นเขาปรุงแต่ง สังขาร ( ทั้ง 3 ) ดังนี้แล้ว ย่อมเข้าถึงโลกอันไม่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียน ผัสสะทั้งหลายที่ไม่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียน ย่อมถูกต้องเขาผู้เข้าถึงโลกอันไม่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียน

       เขาอันผัสสะที่ไม่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนถูกต้องแล้ว ย่อมเสวยเวทนาที่ไม่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียน อันเป็นสุขโดยส่วนเดียว ดังเช่นพวกเทพสุภกิณหา

       ภิกษุทั้งหลาย!  นี้เรียกว่า กรรมขาว มีวิบากขาว 

       ภิกษุทั้งหลาย!  กรรมทั้งดำทั้งขาว มีวิบากทั้งดำทั้งขาว เป็นอย่างไรเล่า ? 

       ภิกษุทั้งหลาย!  บุคคลบางคนในกรณีนี้

       ย่อมปรุงแต่ง กายสังขาร อันเป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนบ้าง ไม่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนบ้าง

       ย่อมปรุงแต่ง วจีสังขาร อันเป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนบ้าง ไม่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนบ้าง

       ย่อมปรุงแต่ง มโนสังขาร อันเป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนบ้าง ไม่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนบ้าง

       ครั้นเขาปรุงแต่ง สังขาร (ทั้ง 3 ) ดังนี้แล้ว ย่อมเข้าถึงโลกอันเป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนบ้าง ไม่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนบ้าง  ผัสสะทั้งหลายที่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนบ้าง ไม่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนบ้าง ย่อมถูกต้องเขาผู้เข้าถึงโลกอันเป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนบ้าง
ไม่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนบ้าง

       เขาอันผัสสะที่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนบ้าง ไม่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนบ้าง ถูกต้องแล้ว ย่อมเสวยเวทนาที่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนบ้าง ไม่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนบ้าง อันเป็นเวทนาที่เป็นสุขและทุกข์เจือกัน ดังเช่นพวกมนุษย์ พวกเทพบางพวก พวกวินิบาตบางพวก

       ภิกษุทั้งหลาย!  นี้เรียกว่า กรรมทั้งดำ ทั้งขาว มีวิบากทั้งดำ ทั้งขาว

       ภิกษุทั้งหลาย!  กรรมไม่ดำไม่ขาว มีวิบากไม่ดำไม่ขาว เป็นไปเพื่อความสิ้นกรรมนั้น เป็นอย่างไรเล่า ?

       คือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ

       ภิกษุทั้งหลาย!  นี้เรียกว่า กรรมไม่ดำ ไม่ขาว มีวิบากไม่ดำ ไม่ขาว เป็นไปเพื่อความสิ้นกรรม

       ภิกษุทั้งหลาย !  เหล่านี้แล กรรม 4 อย่างที่เราทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้วประกาศให้รู้ทั่วกัน  

* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) คัดมาจากหนังสือ พุทธวจน เรื่อง ฆราวาสชั้นเลิศ  /  หัวข้อใหญ่ : ฆราวาสชั้นเลิศ  /  หัวข้อย่อย : กรรมที่เป็นไปเพื่อความสิ้นกรรม  /  หัวข้อเลขที่ : 24  /  -บาลี ติก. อํ. -บาลี จตุกฺก. อํ. 21/320-321/237.  /  หน้าที่ : 99 , 100 , 101 , 102 

- END -