Tuesday, April 27, 2021

ข้อควรทราบเกี่ยวกับอกุศลมูล ( ราคะ โทสะ โมหะ )

 

พุทธวจน - คําสอนจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า

เรื่อง ข้อควรทราบเกี่ยวกับอกุศลมูล ( ราคะ โทสะ โมหะ )

       ภิกษุทั้งหลาย !  ถ้าพวกปริพพาชกเดียรถีย์เหล่าอื่นจะพึงถามอย่างนี้ว่า

       “อาวุโส ! ธรรม 3 อย่างเหล่านี้ มีอยู่ คือ ราคะ โทสะ โมหะ

       อาวุโส ! อะไรเป็นความผิดแปลก อะไรเป็นความแตกต่าง อะไรเป็นเครื่องแสดงความต่าง ระหว่างธรรม 3 อย่างเหล่านั้น ?” ดังนี้

       ภิกษุทั้งหลาย!  พวกเธอถูกถามอย่างนี้แล้ว พึงพยากรณ์แก่เขาว่า

       “อาวุโส ! ราคะมีโทษน้อย คลายช้า โทสะมีโทษมาก คลายเร็ว โมหะมีโทษมาก คลายช้า”

       ถ้าเขาถามว่า “อาวุโส ! อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย ที่ทำให้ราคะที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือราคะที่เกิดขึ้นแล้ว เป็นไปเพื่อความเจริญโดยยิ่ง เพื่อความไพบูลย์ ?” ดังนี้

       คำตอบพึงมีว่า สุภนิมิต ( สิ่งที่แสดงให้รู้สึกว่างาม ) คือเมื่อเขาทำในใจซึ่งสุภนิมิตโดยไม่แยบคาย ราคะที่ยังไม่เกิดก็เกิดขึ้น และราคะที่เกิดอยู่แล้ว ก็เป็นไปเพื่อวามเจริญโดยยิ่ง เพื่อความไพบูลย์

       อาวุโส ! นี้คือเหตุ นี้คือปัจจัย

       ถ้าเขาถามอีกว่า “อาวุโส ! อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย ที่ทำให้โทสะที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือโทสะที่เกิดขึ้นแล้ว เป็นไปเพื่อความเจริญโดยยิ่ง เพื่อความไพบูลย์?” ดังนี้

       คำตอบพึงมีว่า ปฏิฆนิมิต ( สิ่งที่แสดงให้รู้สึกกระทบกระทั่ง ) คือเมื่อเขาทำในใจซึ่ง ปฏิฆนิมิต โดยไม่แยบคาย โทสะที่ยังไม่เกิดก็เกิดขึ้น และโทสะที่เกิดอยู่แล้ว ก็เป็นไปเพื่อความเจริญโดยยิ่ง เพื่อความไพบูลย์

       อาวุโส ! นี้คือเหตุ นี้คือปัจจัย

       ถ้าเขาถามอีกว่า “อาวุโส ! อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย ที่ทำให้โมหะที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือโมหะที่เกิดขึ้นแล้ว เป็นไปเพื่อความเจริญโดยยิ่ง เพื่อความไพบูลย์?” ดังนี้

       คำตอบพึงมีว่า อโยนิโสมนสิการ ( การกระทำในใจดยไม่แยบคาย ) คือเมื่อทำในใจโดยไม่แยบคาย โมหะที่ยังไม่เกิดก็เกิดขึ้น และโมหะที่เกิดอยู่แล้วก็เป็นไปเพื่อความเจริญโดยยิ่ง เพื่อความไพบูลย์

       อาวุโส ! นี้คือเหตุ นี้คือปัจจัย

       ถ้าเขาถามอีกว่า “อาวุโส ! อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย ที่ทำให้ราคะที่ยังไม่เกิด ไม่เกิดขึ้น หรือราคะที่เกิดขึ้นแล้ว ละไป?” ดังนี้ 

       คำตอบพึงมีว่า อสุภนิมิต ( สิ่งที่แสดงให้รู้สึกว่าไม่งาม ) คือเมื่อเขาทำในใจซึ่ง อสุภนิมิต โดยแยบคาย ราคะที่ยังไม่เกิดก็ไม่เกิดขึ้น และราคะที่เกิดอยู่แล้วก็ละไป 

       อาวุโส ! นี้คือเหตุ นี้คือปัจจัย 

       ถ้าเขาถามอีกว่า “อาวุโส ! อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย ที่ทำให้โทสะที่ยังไม่เกิดไม่เกิดขึ้น หรือโทสะที่เกิดขึ้นแล้ว ละไป ?” ดังนี้ 

       คำตอบพึงมีว่า เมตตาเจโตวิมุตติ ( ความหลุดพ้นแห่งจิตอันประกอบอยู่ด้วยเมตตา ) คือเมื่อเขาทำ ในใจซึ่ง เมตตาเจโตวิมุตติ โดยแยบคาย โทสะที่ยังไม่เกิดก็ไม่เกิดขึ้น และโทสะที่เกิดอยู่แล้วก็ละไป 

       อาวุโส ! นี้คือเหตุ นี้คือปัจจัย

       ถ้าเขาถามอีกว่า “อาวุโส ! อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย ที่ทำให้โมหะที่ยังไม่เกิด ไม่เกิดขึ้น หรือโมหะที่เกิดขึ้นแล้ว ละไป?” ดังนี้ 

       คำตอบพึงมีว่า โยนิโสมนสิการ คือเมื่อทำในใจโดยแยบคาย โมหะที่ยังไม่เกิดก็ไม่เกิดขึ้น และโมหะที่เกิดอยู่แล้วก็ละไป

       อาวุโส ! นี้คือเหตุ นี้คือปัจจัย  

* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) คัดมาจากหนังสือ พุทธวจน เรื่อง ปฐมธรรม  /  หัวข้อใหญ่ : ธรรมะกับชีวิต  /  หัวข้อย่อย : ข้อควรทราบเกี่ยวกับอกุศลมูล ( ราคะ โทสะ โมหะ )  /  หัวข้อเลขที่ : 38  /  -บาลี ติก. อํ. 20/256/508.  /  หน้าที่ : 105 , 106 , 107 

- END -