พุทธวจน - คําสอนจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า
เรื่อง กระจายเสียซึ่ง ผัสสะ
เรื่อง กระจายเสียซึ่ง ผัสสะ
ภิกษุทั้งหลาย! วิญญาณย่อมมีขึ้น เพราะอาศัยธรรม 2 อย่าง 2 อย่างอะไรเล่า ? 2 อย่างคือ
ภิกษุทั้งหลาย ! เพราะอาศัยซึ่งจักษุด้วย ซึ่งรูปทั้งหลายด้วย
จักขุวิญญาณ จึงเกิดขึ้น
จักษุเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น
รูปทั้งหลายเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น
ธรรมทั้งสอง ( จักษุ+รูป ) อย่างนี้แล เป็นสิ่งที่หวั่นไหวด้วย อาพาธด้วย ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น
จักขุวิญญาณ เป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น
เหตุอันใดก็ตาม ปัจจัยอันใดก็ตาม เพื่อความเกิดขึ้นแห่ง จักขุวิญญาณ
แม้เหตุอันนั้น แม้ปัจจัยอันนั้น ก็ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น
ภิกษุทั้งหลาย! จักขุวิญญาณเกิดขึ้นแล้ว เพราะอาศัยปัจจัยที่ไม่เที่ยงดังนี้ จักขุวิญญาณ จักเป็นของเที่ยงมาแต่ไหน
ภิกษุทั้งหลาย! ความประจวบพร้อมความประชุมพร้อม ความมาพร้อมกันแห่งธรรมทั้งหลาย ( จักษุ+รูป+จักขุวิญญาณ ) 3 อย่าง เหล่านี้ อันใดแล ภิกษุทั้งหลาย! อันนี้เราเรียกว่า จักขุสัมผัส
ภิกษุทั้งหลาย! แม้ จักขุสัมผัส ก็เป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น
เหตุอันใดก็ตาม ปัจจัยอันใดก็ตาม เพื่อความเกิดขึ้นแห่ง จักขุสัมผัส แม้เหตุอันนั้น แม้ปัจจัยอันนั้น ก็ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น
ภิกษุทั้งหลาย! จักขุสัมผัส เกิดขึ้นแล้ว เพราะอาศัยปัจจัยที่ไม่เที่ยงดังนี้ จักขุสัมผัส จักเป็นของเที่ยง มาแต่ไหน
ภิกษุทั้งหลาย! บุคคลที่ ผัสสะ กระทบแล้วย่อมรู้สึก ( เวเทติ )
ผัสสะกระทบแล้วย่อม คิด ( เจเตติ )
ผัสสะกระทบแล้วย่อม จำได้หมายรู้ ( สญฺชานาติ )
แม้ธรรมทั้งหลาย ( เวทนา เจตนา สัญญา ) อย่างนี้เหล่านี้ ก็ล้วนเป็นสิ่งที่หวั่นไหวด้วย อาพาธด้วย ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น
( ในกรณีแห่ง โสตวิญญาณก็ดี ฆานวิญญาณก็ดี ชิวหาวิญญาณก็ดี กายวิญญาณก็ดี ก็มีนัยเดียวกัน )
ภิกษุทั้งหลาย! เพราะอาศัยซึ่ง มโนด้วย ซึ่ง ธรรมารมณ์ทั้งหลายด้วย มโนวิญญาณ จึงเกิดขึ้น
มโน เป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น
ธรรมารมณ์ทั้งหลาย เป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น
ธรรมทั้งสอง ( มโน+ธรรมารมณ์ ) อย่างนี้แล เป็นสิ่งที่หวั่นไหวด้วย อาพาธด้วย ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น
มโนวิญญาณ เป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น
เหตุอันใดก็ตาม ปัจจัยอันใดก็ตาม เพื่อความเกิดขึ้นแห่ง มโนวิญญาณ แม้เหตุอันนั้น แม้ปัจจัยอันนั้น ก็ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น
ภิกษุทั้งหลาย! มโนวิญญาณ เกิดขึ้นแล้ว เพราะอาศัยปัจจัยที่ไม่เที่ยงดังนี้ มโนวิญญาณจักเป็นของเที่ยงมาแต่ไหน
ภิกษุทั้งหลาย! ความประจวบพร้อม ความประชุมพร้อม ความมาพร้อมกันแห่งธรรมทั้งหลาย ( มโน+ธรรมารมณ์+มโนวิญญาณ ) 3 อย่าง เหล่านี้ อันใดแล ภิกษุทั้งหลาย! อันนี้เราเรียกว่า มโนสัมผัส
ภิกษุทั้งหลาย! แม้ มโนสัมผัส ก็เป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น
เหตุอันใดก็ตาม ปัจจัยอันใดก็ตาม เพื่อความเกิดขึ้นแห่ง มโนสัมผัส แม้เหตุอันนั้น แม้ปัจจัยอันนั้น ก็ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น
ภิกษุทั้งหลาย! มโนสัมผัส เกิดขึ้นแล้ว เพราะอาศัยปัจจัยที่ไม่เที่ยงดังนี้ มโนสัมผัสจักเป็นของเที่ยงมาแต่ไหน
ภิกษุทั้งหลาย! บุคคลที่ ผัสสะ กระทบแล้วย่อม รู้สึก ( เวเทติ )
ผัสสะกระทบแล้วย่อม คิด ( เจเตติ )
ผัสสะกระทบแล้วย่อม จำได้หมายรู้ ( สญฺชานาติ )
แม้ธรรมทั้งหลาย ( เวทนา เจตนา สัญญา ) อย่างนี้เหล่านี้ ก็ล้วนเป็นสิ่งที่หวั่นไหวด้วย อาพาธด้วย ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น
* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) คัดมาจากหนังสือ พุทธวจน เรื่อง มรรควิธีที่ง่าย / หัวข้อใหญ่ : ปฏิปทาเป็นที่สบายแก่การบรรลุ “นิพพาน” / หัวข้อย่อย : กระจายเสียซึ่ง ผัสสะ / หัวข้อเลขที่ : 16 / -บาลี สฬา. สํ. 18/85/124-7. / หน้าที่ : 63 , 64 , 65 , 66 , 67
- END -