Tuesday, April 13, 2021

ทางแห่งความสิ้นทุกข์

 

พุทธวจน - คําสอนจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า

เรื่อง ทางแห่งความสิ้นทุกข์

       ภิกษุทั้งหลาย!  ก็ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ ( ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ ) เป็นอย่างไร ? 

       นี้คือ มรรคมีองค์ 8 อันประเสริฐ คือ 

       สัมมาทิฏฐิสัมมาสังกัปปะ

       สัมมาวาจา

       สัมมากัมมันตะ

       สัมมาอาชีวะ

       สัมมาวายามะ

       สัมมาสติสัมมาสมาธิ 

       ก็สัมมาทิฏฐิ เป็นอย่างไร ?

       ความรู้ในทุกข์ ความรู้ใน ทุกขสมุทัย ความรู้ใน ทุกขนิโรธ ความรู้ใน ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา

       สัมมาสังกัปปะ เป็นอย่างไร ?

       ความดำริในการออกจากกาม ความดำริในความไม่พยาบาท ความดำริในอันไม่เบียดเบียน

       สัมมาวาจา เป็นอย่างไร ?

       การงดเว้นจากการพูดเท็จ งดเว้นจากการพูดส่อเสียด ( พูดให้คนแตกแยกกัน ) งดเว้นจากการพูดคำหยาบ งดเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ

       สัมมากัมมันตะ เป็นอย่างไร ?

       การงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ งดเว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เขามิได้ให้ งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม

       สัมมาอาชีวะ เป็นอย่างไร ?

       อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ละการเลี้ยงชีพที่ผิดเสีย สำเร็จการเลี้ยงชีพด้วยการเลี้ยงชีพที่ชอบ

       สัมมาวายามะ เป็นอย่างไร ?

       ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ประคองจิตไว้ ตั้งจิตไว้

       เพื่อมิให้ อกุศลธรรม อันเป็นบาปที่ยังไม่เกิด บังเกิดขึ้น 

       เพื่อ ละ อกุศลธรรม เป็นบาปที่บังเกิดขึ้นแล้ว

       เพื่อ ให้ กุศลธรรม ที่ยังไม่เกิด บังเกิดขึ้น

       เพื่อ ความตั้งอยู่ ไม่เลือนหาย ความงอกงามยิ่งขึ้น ความไพบูลย์ ความเจริญเต็มเปี่ยมยิ่งแห่งกุศลธรรมที่บังเกิดขึ้นแล้ว

       สัมมาสติ เป็นอย่างไร ?

       ภิกษุในธรรมวินัยนี้ พิจารณาเห็น กายในกาย อยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกออกเสียได้

       ภิกษุในธรรมวินัยนี้ พิจารณาเห็น เวทนาในเวทนา อยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัด อภิชฌา และ โทมนัส ในโลกออกเสียได้

       ภิกษุในธรรมวินัยนี้ พิจารณาเห็น จิตในจิต อยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัด อภิชฌา และ โทมนัส ในโลกออกเสียได้

       ภิกษุในธรรมวินัยนี้ พิจารณาเห็น ธรรมในธรรม อยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัด อภิชฌา และ โทมนัส ในโลกออกเสียได้

       สัมมาสมาธิ เป็นอย่างไร ?

       ภิกษุทั้งหลาย!  ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดแล้วจาก กาม ทั้งหลาย สงัดแล้วจาก อกุศลธรรม ทั้งหลาย เข้าถึง ฌานที่หนึ่ง อันมี วิตกวิจาร มี ปีติและสุข อันเกิดแต่ วิเวก แล้วแลอยู่

       เพราะ วิตกวิจาร รำงับลง เธอเข้าถึง ฌานที่สอง อันเป็นเครื่องผ่องใสแห่งใจในภายใน ให้สมาธิเป็นธรรมอันเอกผุดขึ้น ไม่มี วิตกไม่มีวิจาร มีแต่ ปีติ และ สุข อันเกิดแต่สมาธิ แล้วแลอยู่

       เพราะ ปีติ จางหายไป เธอเป็นผู้เพ่งเฉยอยู่ได้ มีสติ มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม และได้เสวยสุข ด้วยกาย ย่อมเข้าถึง ฌานที่สาม อันเป็นฌานที่พระอริยเจ้าทั้งหลาย กล่าวสรรเสริญผู้ได้บรรลุว่าเป็นผู้เฉยอยู่ได้ มีสติ มีความเป็นอยู่เป็น ปกติสุข แล้วแลอยู่

       เพราะ ละสุขและทุกข์ เสียได้ และความดับหายแห่ง โสมนัส และ โทมนัส ในกาลก่อน เธอย่อมเข้าถึง ฌานที่สี่ อันไม่ทุกข์และไม่สุข มีแต่สติอันบริสุทธิ์ เพราะ อุเบกขา แล้วแลอยู

       ภิกษุทั้งหลาย!  นี้เราเรียกว่า สัมมาสมาธิ

       ภิกษุทั้งหลาย!  เหล่านี้แลเราเรียกว่า อริยสัจ คือ หนทางเป็นเครื่องให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์  

* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) คัดมาจากหนังสือ พุทธวจน เรื่อง ฆราวาสชั้นเลิศ  /  หัวข้อใหญ่ : ฆราวาสชั้นเลิศ  /  หัวข้อย่อย : ทางแห่งความสิ้นทุกข์  /  หัวข้อเลขที่ : 41  /  -บาลี มหา. ที. 10/343/299.  /  หน้าที่ : 145 , 146 , 147 , 148 , 149  

- END -