Thursday, April 1, 2021

เทวดาเหล่า มนาปกายิกา

 

พุทธวจน - คําสอนจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า

เรื่อง เทวดาเหล่า มนาปกายิกา

     ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !  ขอประทานวโรกาส วันนี้ ข้าพระองค์ไปยังวิหารที่พักกลางวันหลีกเร้นอยู่ ครั้งนั้นแล เทวดาเหล่า มนาปกายิกา มากมายเข้ามาหาข้าพระองค์ถึงที่อยู่ อภิวาทแล้วยืน ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วกล่าวกะข้าพระองค์ว่า

       ข้าแต่ท่านพระอนุรุทธะผู้เจริญ!  ข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นเทวดาชื่อว่า มนาปกายิกา มีอิสระและอำนาจในฐานะ 3 ประการ คือ

       ( 1 ) ข้าพเจ้าทั้งหลายหวังวรรณะเช่นใด ก็ได้วรรณะเช่นนั้นโดยพลัน 

       ( 2 ) หวังเสียงเช่นใด ก็ได้เสียงเช่นนั้นโดยพลัน 

       ( 3 ) หวังความสุขเช่นใด ก็ได้ความสุขเช่นนั้นโดยพลัน

       ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ!  มาตุคามประกอบด้วยธรรมเท่าไร เมื่อตายไป จึงเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาเหล่า มนาปกายิกา

       อนุรุทธะ!  มาตุคามประกอบด้วยธรรม 8 ประการ เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาเหล่า มนาปกายิกา
 
       ธรรม 8 ประการ เป็นอย่างไรเล่า ?

       อนุรุทธะ!  

       ( 1 ) มาตุคามในโลกนี้ ที่มารดาบิดาผู้มุ่งประโยชน์แสวงหาความเกื้อกูล อนุเคราะห์ เอื้อเอ็นดูยอมยกให้แก่ชายใดผู้เป็นสามี สำหรับชายนั้น เธอต้องตื่นก่อน นอนภายหลัง คอยฟังรับใช้ ประพฤติให้ถูกใจ กล่าวถ้อยคำเป็นที่รัก 

       ( 2 ) ชนเหล่าใดเป็นที่เคารพของสามี คือ มารดา บิดาหรือสมณพราหมณ์ เธอสักการะเคารพนับถือบูชาชนเหล่านั้น และต้อนรับท่านเหล่านั้นผู้มาถึงแล้วด้วยอาสนะและน้ำ

       ( 3 ) การงานใดเป็นงานในบ้านของสามี คือ เธอเป็นคนขยัน ไม่เกียจคร้านในการงานนั้น ประกอบด้วยปัญญาอันเป็นอุบายในการงานนั้น สามารถจัดทำได้ 

       ( 4 ) ชนเหล่าใดเป็นคนภายในบ้านของสามี คือ ทาส คนใช้ หรือกรรมกร ย่อมรู้ว่าการงานที่เขาเหล่านั้นทำแล้วและยังไม่ได้ทำ

       ( 5 ) ย่อมรู้อาการของคนภายในบ้านผู้เป็นไข้ว่า ดีขึ้นหรือทรุดลง

       ( 6 ) ย่อมแบ่งปันของกินของบริโภคให้แก่เขาตามควร 

       ( 7 )สิ่งใดที่สามีหามาได้จะเป็นทรัพย์ ข้าว เงินหรือทอง ย่อมรักษาคุ้มครองสิ่งนั้นไว้ และไม่เป็นนักเลงการพนัน ไม่เป็นขโมย ไม่เป็นนักดื่ม ไม่ผลาญทรัพย์ให้พินาศ 

       ( 8 ) เป็นอุบาสิกาถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นสรณะ เป็นผู้มีศีล งดเว้นจากปาณาติบาต อทินนาทาน กาเมสุมิจฉาจาร มุสาวาท และการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท เป็นผู้มีการบริจาค มีใจปราศจากมลทิน คือ ความตระหนี่ อยู่ครองเรือน มีจาคะอันปล่อยแล้ว มีฝ่ามืออันชุ่ม ยินดีในการสละ ควรแก่การขอ ยินดีในการจำแนกทาน

       อนุรุทธะ !  มาตุคามประกอบด้วยธรรม 8 ประการนี้แล เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาเหล่า มนาปกายิกา 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

( คาถาผนวกท้ายพระสูตร ) 

       สุภาพสตรีผู้มีปรีชา ย่อมไม่ดูหมิ่นสามี

       ผู้หมั่นเพียร ขวนขวายอยู่เป็นนิตย์

       เลี้ยงตนอยู่ทุกเมื่อ ทั้งให้ความปรารถนาทั้งปวง

       ไม่ยังสามีให้ขุ่นเคือง ด้วยถ้อยคำแสดงความหึงหวง

       และย่อมบูชาผู้ที่เคารพทั้งปวงของสามี

       เป็นผู้ขยัน ไม่เกียจคร้าน 

       สงเคราะห์คนข้างเคียงของสามี

       ประพฤติเป็นที่พอใจของสามี 

       รักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้ 

       นารีใด ย่อมประพฤติตามความชอบใจของสามีอย่างนี้ นารีนั้น ย่อมเข้าถึงความเป็นเทวดาเหล่า มนาปกายิกา

* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) คัดมาจากหนังสือ พุทธวจน เรื่อง ภพภูมิ  /  หัวข้อใหญ่ : เทวดา  /  หัวข้อย่อย : เทวดาเหล่า มนาปกายิกา  /  หัวข้อเลขที่ : 81  /  -บาลี สตฺตก. อํ. 23/269/136.  /  หน้าที่ : 313 , 314 , 315 , 316 

- END -