พุทธวจน - คําสอนจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า
เรื่อง เทวดาเหล่า มนาปกายิกา
เรื่อง เทวดาเหล่า มนาปกายิกา
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ขอประทานวโรกาส วันนี้ ข้าพระองค์ไปยังวิหารที่พักกลางวันหลีกเร้นอยู่ ครั้งนั้นแล เทวดาเหล่า มนาปกายิกา มากมายเข้ามาหาข้าพระองค์ถึงที่อยู่ อภิวาทแล้วยืน ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วกล่าวกะข้าพระองค์ว่า
ข้าแต่ท่านพระอนุรุทธะผู้เจริญ! ข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นเทวดาชื่อว่า มนาปกายิกา มีอิสระและอำนาจในฐานะ 3 ประการ คือ
( 1 ) ข้าพเจ้าทั้งหลายหวังวรรณะเช่นใด ก็ได้วรรณะเช่นนั้นโดยพลัน
( 2 ) หวังเสียงเช่นใด ก็ได้เสียงเช่นนั้นโดยพลัน
( 3 ) หวังความสุขเช่นใด ก็ได้ความสุขเช่นนั้นโดยพลัน
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ! มาตุคามประกอบด้วยธรรมเท่าไร เมื่อตายไป จึงเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาเหล่า มนาปกายิกา
อนุรุทธะ! มาตุคามประกอบด้วยธรรม 8 ประการ เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาเหล่า มนาปกายิกา
ธรรม 8 ประการ เป็นอย่างไรเล่า ?
อนุรุทธะ!
( 1 ) มาตุคามในโลกนี้ ที่มารดาบิดาผู้มุ่งประโยชน์แสวงหาความเกื้อกูล อนุเคราะห์ เอื้อเอ็นดูยอมยกให้แก่ชายใดผู้เป็นสามี สำหรับชายนั้น เธอต้องตื่นก่อน นอนภายหลัง คอยฟังรับใช้ ประพฤติให้ถูกใจ กล่าวถ้อยคำเป็นที่รัก
( 2 ) ชนเหล่าใดเป็นที่เคารพของสามี คือ มารดา บิดาหรือสมณพราหมณ์ เธอสักการะเคารพนับถือบูชาชนเหล่านั้น และต้อนรับท่านเหล่านั้นผู้มาถึงแล้วด้วยอาสนะและน้ำ
( 3 ) การงานใดเป็นงานในบ้านของสามี คือ เธอเป็นคนขยัน ไม่เกียจคร้านในการงานนั้น ประกอบด้วยปัญญาอันเป็นอุบายในการงานนั้น สามารถจัดทำได้
( 4 ) ชนเหล่าใดเป็นคนภายในบ้านของสามี คือ ทาส คนใช้ หรือกรรมกร ย่อมรู้ว่าการงานที่เขาเหล่านั้นทำแล้วและยังไม่ได้ทำ
( 5 ) ย่อมรู้อาการของคนภายในบ้านผู้เป็นไข้ว่า ดีขึ้นหรือทรุดลง
( 6 ) ย่อมแบ่งปันของกินของบริโภคให้แก่เขาตามควร
( 7 )สิ่งใดที่สามีหามาได้จะเป็นทรัพย์ ข้าว เงินหรือทอง ย่อมรักษาคุ้มครองสิ่งนั้นไว้ และไม่เป็นนักเลงการพนัน ไม่เป็นขโมย ไม่เป็นนักดื่ม ไม่ผลาญทรัพย์ให้พินาศ
( 8 ) เป็นอุบาสิกาถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นสรณะ เป็นผู้มีศีล งดเว้นจากปาณาติบาต อทินนาทาน กาเมสุมิจฉาจาร มุสาวาท และการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท เป็นผู้มีการบริจาค มีใจปราศจากมลทิน คือ ความตระหนี่ อยู่ครองเรือน มีจาคะอันปล่อยแล้ว มีฝ่ามืออันชุ่ม ยินดีในการสละ ควรแก่การขอ ยินดีในการจำแนกทาน
อนุรุทธะ ! มาตุคามประกอบด้วยธรรม 8 ประการนี้แล เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาเหล่า มนาปกายิกา
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
( คาถาผนวกท้ายพระสูตร )
สุภาพสตรีผู้มีปรีชา ย่อมไม่ดูหมิ่นสามี
ผู้หมั่นเพียร ขวนขวายอยู่เป็นนิตย์
เลี้ยงตนอยู่ทุกเมื่อ ทั้งให้ความปรารถนาทั้งปวง
ไม่ยังสามีให้ขุ่นเคือง ด้วยถ้อยคำแสดงความหึงหวง
และย่อมบูชาผู้ที่เคารพทั้งปวงของสามี
เป็นผู้ขยัน ไม่เกียจคร้าน
สงเคราะห์คนข้างเคียงของสามี
ประพฤติเป็นที่พอใจของสามี
รักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้
นารีใด ย่อมประพฤติตามความชอบใจของสามีอย่างนี้ นารีนั้น ย่อมเข้าถึงความเป็นเทวดาเหล่า มนาปกายิกา
* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) คัดมาจากหนังสือ พุทธวจน เรื่อง ภพภูมิ / หัวข้อใหญ่ : เทวดา / หัวข้อย่อย : เทวดาเหล่า มนาปกายิกา / หัวข้อเลขที่ : 81 / -บาลี สตฺตก. อํ. 23/269/136. / หน้าที่ : 313 , 314 , 315 , 316
- END -