Thursday, April 8, 2021

บาปกรรมเก่า ไม่อาจสิ้นได้ด้วยการทรมานตนเอง

 

พุทธวจน - คําสอนจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า

เรื่อง บาปกรรมเก่า ไม่อาจสิ้นได้ด้วยการทรมานตนเอง

      มหานาม !  คราวหนึ่ง เราอยู่ที่ภูเขาคิชฌกูฏ ใกล้นครราชคฤห์ ครั้งนั้นพวกนิครนถ์เป็นอันมาก ประพฤติวัตรยืนอย่างเดียว งดการนั่ง อยู่ ณ ที่กาฬสิลา ข้างภูเขาอิสิคิลิ ต่างประกอบความเพียรแรงกล้าเสวยเวทนาอันเป็นทุกข์กล้าแข็งแสบเผ็ด

       มหานาม !  ครั้งนั้นเป็นเวลาเย็น เราออกจากที่เร้นแล้ว ไปสู่กาฬสิลา ข้างภูเขา อิสิคิลิ อันพวกนิครนถ์ประพฤติวัตรอยู่ ได้กล่าวกะพวกนิครนถ์เหล่านั้นว่า 

       “ท่านผู้เป็นนิครนถ์ทั้งหลาย!  เพราะอะไรหนอ พวกท่านทั้งหลายจึงประพฤติยืน ไม่นั่ง ประกอบความเพียรได้รับเวทนาอันเป็นทุกข์กล้าแข็งแสบเผ็ด ?” ดังนี้

       มหานาม !  นิครนถ์เหล่านั้นได้กล่าวกะเราว่า

       “ท่านผู้มีอายุ!  ท่านนิครนถนาฏบุตร เป็นผู้รู้สิ่งทั้งปวง เห็นสิ่งทั้งปวง ได้ยืนยันญาณทัสสนะของตนเอง โดยไม่มีการยกเว้นว่า เมื่อเราเดินอยู่ ยืนอยู่ หลับอยู่ ตื่นอยู่ ก็ตาม ญาณทัสสนะของเราย่อมปรากฏติดต่อกันไม่ขาดสาย” ดังนี้

       ท่านนิครนถนาฏบุตรนั้นกล่าวไว้อย่างนี้ว่า “นิครนถ์ผู้เจริญ!  บาปกรรมในกาลก่อนที่ได้ทำไว้ มีอยู่แล พวกท่านจงทำลาย กรรมนั้นให้สิ้นไป ด้วยทุกรกิริยาอันแสบเผ็ดนี้ อนึ่ง เพราะการสำรวม กาย วาจา ใจ ในบัดนี้ ย่อมชื่อว่าไม่ได้กระทำกรรม อันเป็นบาปอีกต่อไป

       เพราะการเผาผลาญกรรมเก่าไม่มีเหลือ และเพราะการไม่กระทำกรรมใหม่ กรรมต่อไปก็ขาดสาย เพราะกรรมขาดสาย ก็สิ้นกรรม เพราะสิ้นกรรม ก็สิ้นทุกข์ เพราะสิ้นทุกข์ ก็สิ้นเวทนา เพราะสิ้นเวทนา ทุกข์ทั้งหมด ก็เหือดแห้งไป ดังนี้

       คำสอนของท่านนาฏบุตรนั้น เป็นที่ชอบใจและควรแก่เรา และพวกเราก็เป็นผู้พอใจต่อคำสอนนั้นด้วย” ดังนี้

       มหานาม !  เราได้กล่าวคำ นี้กะนิครนถ์เหล่านั้นสืบไปว่า

       “ท่านผู้เป็นนิครนถ์ทั้งหลาย!  ท่านทั้งหลายรู้อยู่หรือว่า พวกเราทั้งหลาย ได้มีแล้วในกาลก่อนหรือว่ามิได้มี?”

       “ไม่ทราบเลยท่าน !”

       “ท่านผู้เป็นนิครนถ์ทั้งหลาย!  ท่านทั้งหลายรู้อยู่หรือว่า พวกเราทั้งหลาย ได้ทำกรรมที่เป็นบาปแล้วในกาลก่อนหรือว่าพวกเราไม่ได้ทำแล้ว ?”

       “ไม่ทราบเลยท่าน !”

       “ท่านผู้เป็นนิครนถ์ทั้งหลาย!  ท่านทั้งหลายรู้อยู่หรือว่า พวกเราทั้งหลาย ได้ทำกรรมที่เป็นบาปอย่างนี้ๆ ในกาลก่อน ?”

       “ไม่ทราบเลยท่าน !”

       “ท่านผู้เป็นนิครนถ์ทั้งหลาย!  ท่านทั้งหลายรู้อยู่หรือว่า ( ตั้งแต่ทำตบะมา ) ทุกข์มีจำนวนเท่านี้ๆ ได้สิ้นไปแล้ว และจำนวนเท่านี้ๆ จะสิ้นไปอีก หรือว่าถ้าทุกข์สิ้นไปอีกจำนวนเท่านี้ ทุกข์ก็จักไม่มีเหลือ ?”

       “ไม่ทราบได้เลยท่าน !”

       “ท่านผู้เป็นนิครนถ์ทั้งหลาย!  ท่านทั้งหลายรู้อยู่หรือว่า อะไรเป็นการละเสียซึ่งสิ่งอันเป็นอกุศล และทำสิ่งที่เป็นกุศลให้เกิดขึ้นได้ในภพปัจจุบันนี้?”

       “ไม่เข้าใจเลยท่าน !”

       มหานาม !  เราได้กล่าวคำ นี้ กะนิครนถ์เหล่านั้นสืบไปว่า

       “ท่านผู้เป็นนิครนถ์ทั้งหลาย !  ดังได้ฟังแล้วว่าท่านทั้งหลาย ไม่รู้อยู่ว่าเราทั้งหลายได้มีแล้วในกาลก่อน หรือไม่ได้มีแล้วในกาลก่อน ...ฯลฯ... อะไรเป็นการละเสียซึ่งสิ่งอันเป็นอกุศลแล้ว และทำสิ่งที่เป็นกุศลให้เกิดขึ้นได้ในภพปัจจุบันนี้

       ครั้นเมื่อไม่รู้อย่างนี้แล้ว ( น่าจะเห็นว่า ) ชนทั้งหลายเหล่าใดในโลก ที่เป็นพวกพรานมีฝ่ามือคร่ำไปด้วยโลหิต มีการงานอย่างกักขฬะ ภายหลังมาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว ย่อมบรรพชาในพวกนิครนถ์ทั้งหลาย ละกระมัง ?” 

* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) คัดมาจากหนังสือ พุทธวจน เรื่อง แก้กรรม  /  หัวข้อใหญ่ : ข้อควรทราบเพื่อป้องกันความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องกรรม  /  หัวข้อย่อย : บาปกรรมเก่า ไม่อาจสิ้นได้ด้วยการทรมานตนเอง  /  หัวข้อเลขที่ : 15  /  -บาลี มู. ม. 12/184/219.  /  หน้าที่ : 43 , 44 , 45 , 46 

- END -