Friday, April 9, 2021

ปฏิจจสมุปบาท ในฐานะเป็นกฎสูงสุดของธรรมชาติ

 

พุทธวจน - คําสอนจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า

เรื่อง ปฏิจจสมุปบาท ในฐานะเป็นกฎสูงสุดของธรรมชาติ

      ภิกษุทั้งหลาย!  เราจักแสดงซึ่ง ปฏิจจสมุปบาท ( คือ ธรรมอันเป็นธรรมชาติ อาศัยกันแล้วเกิดขึ้น ) แก่พวกเธอทั้งหลาย พวกเธอทั้งหลาย จงฟังซึ่ง ปฏิจจสมุปบาท นั้น จงทำในใจให้สำเร็จประโยชน์เราจักกล่าวบัดนี้ ...

       ภิกษุทั้งหลาย!  ก็ปฏิจจสมุปบาท เป็นอย่างไรเล่า ?

       ( 1 ) ภิกษุทั้งหลาย!  เพราะชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะย่อมมี

       ภิกษุทั้งหลาย!  เพราะเหตุที่พระตถาคตทั้งหลาย จะบังเกิดขึ้นก็ตาม จะไม่บังเกิดขึ้นก็ตาม ธรรมธาตุนั้น ย่อมตั้งอยู่แล้วนั่นเทียว

       คือ ความตั้งอยู่แห่งธรรมดา ( ธัมมัฏฐิตตา )

       คือ ความเป็นกฎตายตัวแห่งธรรมดา ( ธัมมนิยามตา )

       คือ ความที่เมื่อมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น ( อิทัปปัจจยตา )

       ตถาคต ย่อมรู้พร้อมเฉพาะ ย่อมถึงพร้อมเฉพาะ ซึ่งธรรมธาตุนั้น

       ครั้นรู้พร้อมเฉพาะแล้ว ถึงพร้อมเฉพาะแล้ว ย่อมบอก ย่อมแสดง ย่อมบัญญัติ ย่อมตั้งขึ้นไว้ ย่อมเปิดเผย ย่อมจำแนกแจกแจง ย่อมทำให้เป็นเหมือนการหงายของที่คว่ำ

       และได้กล่าวแล้วในบัดนี้ว่า “ภิกษุทั้งหลาย!  ท่านทั้งหลายจงมาดู เพราะชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะย่อมมี” ดังนี้

       ภิกษุทั้งหลาย!  เพราะเหตุดังนี้แล ธรรมธาตุใด ในกรณีนั้น

       อันเป็น ตถตา คือ ความเป็นอย่างนั้น 

       เป็น อวิตถตา คือ ความไม่ผิดไปจากความเป็นอย่างนั้น

       เป็น อนัญญถตา คือ ความไม่เป็นไปโดยประการอื่น

       เป็น อิทัปปัจจยตา คือ ความที่เมื่อมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น 

       ภิกษุทั้งหลาย!  ธรรมนี้เราเรียกว่า ปฏิจจสมุปบาท ( คือธรรมอันเป็นธรรมชาติ อาศัยกันแล้วเกิดขึ้น )

       ( 2 ) ภิกษุทั้งหลาย!  เพราะภพเป็นปัจจัย ชาติย่อมมี. ...ฯลฯ… * * * ( 1 )

       ( 3 ) ภิกษุทั้งหลาย!  เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ภพย่อมมี. ...ฯลฯ…

       ( 4 ) ภิกษุทั้งหลาย!  เพราะตัณหาเป็นปัจจัย อุปาทาน ย่อมมี. ...ฯลฯ…

       ( 5 ) ภิกษุทั้งหลาย!  เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ตัณหาย่อมมี. ...ฯลฯ...

       ( 6 ) ภิกษุทั้งหลาย!  เพราะผัสสะเป็นปัจจัย เวทนาย่อมมี. ...ฯลฯ… 

       ( 7 ) ภิกษุทั้งหลาย!  เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย ผัสสะย่อมมี. ...ฯลฯ… 

       ( 8 ) ภิกษุทั้งหลาย!  เพราะนามรูปเป็นปัจจัย สฬายตนะย่อมมี. ...ฯลฯ…

       ( 9 ) ภิกษุทั้งหลาย!  เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย นามรูปย่อมมี. ...ฯลฯ... 

       ( 10 ) ภิกษุทั้งหลาย!  เพราะสังขารเป็นปัจจัย วิญญาณย่อมมี. ...ฯลฯ… 

       ( 11 ) ภิกษุทั้งหลาย!  เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย สังขารทั้งหลายย่อมมี.

       ภิกษุทั้งหลาย!  เพราะเหตุที่พระตถาคตทั้งหลาย จะบังเกิดขึ้นก็ตาม จะไม่บังเกิดขึ้นก็ตาม ธรรมธาตุนั้น ย่อมตั้งอยู่แล้วนั่นเทียว

       คือความตั้งอยู่แห่งธรรมดา คือความเป็นกฎตายตัวแห่งธรรมดา คือความที่เมื่อสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น

       ตถาคตย่อมรู้พร้อมเฉพาะ ย่อมถึงพร้อมเฉพาะ ซึ่งธรรมธาตุนั้น

       ครั้นรู้พร้อมเฉพาะแล้ว ถึงพร้อมเฉพาะแล้ว ย่อมบอก ย่อมแสดง ย่อมบัญญัติ ย่อมตั้งขึ้นไว้ ย่อมเปิดเผย ย่อมจำแนกแจกแจง ย่อมทำให้เป็นเหมือนการหงายของที่ควํ่า

       และได้กล่าวแล้วในบัดนี้ว่า “ภิกษุทั้งหลาย!  ท่านทั้งหลายจงดู เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย สังขารทั้งหลายย่อมมี” ดังนี้

       ภิกษุทั้งหลาย!  เพราะเหตุดังนี้แล ธรรมธาตุใดในกรณีนั้น

       อันเป็น ตถตา คือความเป็นอย่างนั้น

       เป็น อวิตถตา คือ ความไม่ผิดไปจากความเป็นอย่างนั้น

       เป็น อนัญญถตา คือ ความไม่เป็นไปโดยประการอื่น

       เป็น อิทัปปัจจยตา คือความที่เมื่อมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น 

       ภิกษุทั้งหลาย!  ธรรมนี้เราเรียกว่า ปฏิจจสมุปบาท

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

   * * * ( 1 ) การละเปยยาล ...ฯลฯ... เช่นนี้ หมายความว่า ข้อความในข้อ ( 2 ) เป็นต้นไปจนกระทั่งถึงข้อ ( 10 ) นี้ซ้ำกันโดยตลอดกับในข้อ ( 1 )

       ต่างกันแต่เพียงปัจจยาการแต่ละปัจจยาการเท่านั้น

       สำหรับข้อสุดท้าย คือข้อ ( 11 ) จะพิมพ์ไว้เต็มเหมือนข้อ ( 1 ) อีกครั้งหนึ่ง

* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) คัดมาจากหนังสือ พุทธวจน เรื่อง แก้กรรม  /  หัวข้อใหญ่ : เรื่องเกี่ยวกับ “กรรม” ในเชิงปฏิจจสมุปบาท ( การที่ทุกข์เกิดขึ้นเพราะอาศัยปัจจัยต่อเนื่องกันมา )  /  หัวข้อย่อย : ปฏิจจสมุปบาท ในฐานะเป็นกฎสูงสุดของธรรมชาติ  /  หัวข้อเลขที่ : 44  /  -บาลี นิทาน. สํ. 16/30/61.  /  หน้าที่ : 162 , 163 , 164 , 165

- END -