Friday, April 2, 2021

ชุมนุมเทวดา

 

พุทธวจน - คําสอนจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า

เรื่อง ชุมนุมเทวดา 

       ภิกษุทั้งหลาย!  พวกเทวดาในโลกธาตุทั้ง 10 ประชุมกันมาก เพื่อทัศนาตถาคตและภิกษุสงฆ์

       พวกเทวดาประมาณเท่านี้แหละ ได้ประชุมกัน เพื่อทัศนาพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งได้มีแล้วในอดีตกาล เหมือนที่ประชุมกันเพื่อทัศนาเราในบัดนี้

       พวกเทวดาประมาณเท่านี้แหละ จักประชุมกัน เพื่อทัศนาพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งจักมีในอนาคตกาล เหมือนที่ประชุมกันเพื่อทัศนาเราในบัดนี้

       เราจักบอกนามพวกเทวดา เราจักระบุนามพวกเทวดา เราจักแสดงนามพวกเทวดา พวกเธอจงฟังเรื่องนั้น จงทำในใจให้ดี เราจักกล่าว

       ยักษ์ 7,000 เป็นภุมมเทวดาอาศัยอยู่ในพระนครกบิลพัสดุ์ ยักษ์ 6,000 อยู่ที่เขาเหมวตา ยักษ์ 3,000 อยู่ที่เขาสาตาคีรี ยักษ์เหล่านั้นรวมเป็น 16,000 มีรัศมีต่างๆกัน มีฤทธิ์ มีอานุภาพ มีรัศมี มียศ ยินดี มุ่งมายังป่าอันเป็นที่ประชุมของภิกษุ
 
       ยักษ์ 500 อยู่ที่เขาเวสสามิตตะ มีรัศมีต่างๆกัน มีฤทธิ์ มีอานุภาพ มีรัศมี มียศ ยินดี มุ่งมายังป่าอันเป็นที่ประชุมของภิกษุ
 
       ยักษ์ชื่อ กุมภีระ อยู่ในพระนครราชคฤห์ เขาเวปุลละ เป็นที่อยู่ของยักษ์นั้น ยักษ์ แสนเศษ แวดล้อมยักษ์ชื่อ กุมภีระ นั้น  ยักษ์ชื่อ กุมภีระ อยู่ในพระนครราชคฤห์แม้นั้น ก็ได้มายังป่าอันเป็นที่ประชุมของภิกษุ

       ท้าวธตรัฏฐ อยู่ด้านทิศบูรพา ปกครองทิศนั้น เป็นอธิบดีของพวก คนธรรพ์ เธอเป็นมหาราช มียศ แม้บุตรของเธอก็มาก มีนามว่า อินทะ มีกำลังมาก มีฤทธิ์ มีอานุภาพ มีรัศมี มียศ ยินดี มุ่งมายังป่าอันเป็นที่ประชุมของภิกษุ

       ท้าววิรุฬหก อยู่ด้านทิศทักษิณ ปกครองทิศนั้น เป็นอธิบดีของพวก กุมภัณฑ์ เธอเป็นมหาราช มียศ แม้บุตรของเธอก็มาก มีนามว่า อินท มีกำลังมาก มีฤทธิ์ มีอานุภาพ มีรัศมี มียศ ยินดี มุ่งมายังป่าอันเป็นที่ประชุมของภิกษุ

       ท้าววิรูปักษ์ อยู่ด้านทิศปัจจิม ปกครองทิศนั้น เป็นอธิบดีของพวก นาค เธอเป็นมหาราช มียศ แม้บุตรของเธอก็มาก มีนามว่า อินท มีกำลังมาก มีฤทธิ์ มีอานุภาพ มีรัศมี มียศ ยินดี มุ่งมายังป่าอันเป็นที่ประชุมของภิกษ

       ท้าวกุเวร อยู่ด้านทิศอุดร ปกครองทิศนั้น เป็นอธิบดีของพวก ยักษ์ เธอเป็นมหาราช มียศ แม้บุตรของเธอก็มาก มีนามว่า อินท มีกำลังมาก มีฤทธิ์ มีอานุภาพ มีรัศมี มียศ ยินดี มุ่งมายังป่าอันเป็นที่ประชุมของภิกษุ

       ท้าวมหาราชทั้ง 4 นั้น ยังทิศทั้ง 4 โดยรอบให้รุ่งเรือง ได้ยืนอยู่แล้วในป่าเขตพระนครกบิลพัสดุ์

       พวกบ่าวของท้าวมหาราชทั้ง 4 นั้น มีมายา ล่อลวง โอ้อวด เจ้าเล่ห์ มาด้วยกัน มีชื่อคือ กุเฏณฑุ 1 เวเฏณฑุ 1 วิฏ 1 วิฏฏะ 1 จันทนะ 1 กามเสฏฐะ 1 กินนุฆัณฑุ 1 นิฆัณฑุ 1

       และท้าวเทวราชทั้งหลายผู้มีนามว่าปนาทะ 1 โอปมัญญะ 1 เทพสารถีมีนามว่า มาตลิ 1 จิตตเสนะ ผู้คนธรรพ์ 1 นโฬราชะ 1 ชโนสภะ 1 ปัญจสิขะ 1 ติมพรู 1 สุริยวัจฉสาเทพธิดา 1 มาทั้งนั้น ราชาและคนธรรพ์พวกนั้น และพวกอื่น กับเทวราชทั้งหลาย ยินดี มุ่งมายังป่าอันเป็นที่ประชุมของภิกษุ

       อนึ่ง เหล่านาคที่อยู่ในสระชื่อ นภสะ บ้าง อยู่ในเมือง เวสาลี บ้าง พร้อมด้วยนาคบริษัทเหล่า ตัจฉกะ กัมพลนาค และ อัสสตรนาค ก็มา นาคผู้อยู่ในท่าชื่อ ปายาคะกับญาติ ก็มา นาคผู้อยู่ในแม่น้ำ ยมุนา เกิดในสกุลธตรัฏฐ ผู้มียศ ก็มา เอราวัณเทพบุตร ผู้เป็นช้างใหญ่ แม้นั้นก็มายังป่าอันเป็นที่ประชุมของภิกษุ

       ปักษีทวิชาติผู้เป็นทิพย์ มีนัยน์ตาบริสุทธิ์ นำนาคราชไปได้โดยพลันนั้นมาโดยทางอากาศถึงท่ามกลางป่า ชื่อของปักษีนั้นว่าจิตรสุบรรณ ในเวลานั้น นาคราชทั้งหลาย ไม่ได้มีความกลัว พระพุทธเจ้าได้ทรงกระทำให้ปลอดภัยจากครุฑ นาคกับครุฑเจรจากัน ด้วยวาจาอันไพเราะ กระทำพระพุทธเจ้าให้เป็นสรณะ

       พวกอสูรอาศัยสมุทรอยู่ อัน ท้าววชิรหันถ์ รบชนะแล้ว เป็นพี่น้องของ ท้าววาสพ มีฤทธิ์ มียศ เหล่านี้คือพวก กาลกัญชอสูร มีกายใหญ่น่ากลัว ก็มา

       พวกทานเวฆสอสูร ก็มา เวปจิตติอสูร สุจิตติอสูร ปหาราทอสูร และนมุจีพระยามาร ก็มาด้วยกัน บุตรของพลิอสูร 100 มีชื่อว่า ไพโรจน์ ทั้งหมดผูกสอดเครื่องเสนาอันมีกำลัง เข้าไปใกล้ อสุรินทราหู แล้วกล่าวว่า “ท่านผู้เจริญ! บัดนี้ เป็นสมัยที่จะประชุมกัน” ดังนี้แล้ว เข้าไปยังป่าอันเป็นที่ประชุมของภิกษุ 

       ในเวลานั้น เทวดาทั้งหลาย ชื่ออาโป ชื่อปฐวี ชื่อเตโช ชื่อวาโย ได้พากันมาแล้ว เทวดา ชื่อวรุณะ ชื่อวารุณะ ชื่อโสมะ ชื่อยสสะ ก็มาด้วยกัน

       เทวดาผู้บังเกิดในหมู่เทวดา ด้วยเมตตาและกรุณาฌาน เป็นผู้มียศ ก็มา

       หมู่เทวดา 10 เหล่านี้เป็น 10 พวก ทั้งหมดล้วนมีรัศมีต่างๆ กัน มีฤทธิ์ มีอานุภาพ มีรัศมี มียศ ยินดี มุ่งมายังป่าอันเป็นที่ประชุมของภิกษุ 

       เทวดาชื่อเวณฑู ชื่อสหลี ชื่ออสมา ชื่อยมะ ทั้งสองพวก ก็มา

       เทวดาผู้อาศัยพระจันทร์ กระทำพระจันทร์ไว้ในเบื้องหน้า ก็มา

       เทวดาผู้อาศัยพระอาทิตย์ กระทำพระอาทิตย์ไว้ในเบื้องหน้า ก็มา

       เทวดากระทำ นักษัตรไว้ในเบื้องหน้า ก็มา

       มันทพลาหกเทวดา ก็มา

       แม้ท้าวสักกปุรินททวาสวะซึ่งประเสริฐกว่าสุเทวดาทั้งหลายก็เสด็จมา

       หมู่เทวดา 10 เหล่านี้ เป็น 10 พวก ทั้งหมดล้วนมีรัศมีต่างๆกัน มีฤทธิ์ มีอานุภาพ มีรัศมี ยินดี มุ่งมายังป่าอันเป็นที่ประชุมของภิกษุ

       อนึ่งเทวดาชื่อ สหภู ผู้รุ่งเรืองดุจเปลวไฟ ก็มา

       เทวดาชื่อ อริฏฐกะ ชื่อ โรชะ มีรัศมีดังสีดอกผักตบ ก็มา

       เทวดาชื่อ วรุณะ ชื่อ สหธรรม ชื่อ อัจจุตะ ชื่อ อเนชกะ ชื่อ สุเลยยะ  ชื่อ รุจิระ ก็มา

       เทวดาชื่อ วาสวเนสี ก็มา

       หมู่เทวดา 10 เหล่านี้ เป็น 10 พวก ทั้งหมด ล้วนมีรัศมีต่างๆกัน มีฤทธิ์ มีอานุภาพ มีรัศมี มียศ ยินดี มุ่งมายังป่าอันเป็นที่ประชุมของภิกษุ

       เทวดาชื่อ สมานะ ชื่อ มหาสมานะ ชื่อ มานุสะ ชื่อ มานุสุตตมะ ชื่อขิฑฑาปทูสิกะ ก็มา

       เทวดาชื่อ มโนปทูสิกะ ก็มา

       อนึ่ง เทวดาชื่อ หริ เทวดาชื่อ โลหิตวาสี ชื่อ ปารคะ ชื่อ มหาปารคะ ผู้มียศ ก็มา

       หมู่เทวดา 10 เหล่านี้ เป็น 10 พวก ทั้งหมดล้วนมีรัศมีต่างๆกัน มีฤทธิ์ มีอานุภาพ มีรัศมี มียศ ยินดี มุ่งมายังป่าอันเป็นที่ประชุมของภิกษุ

       เทวดาชื่อ สุกกะ ชื่อ กรุมหะ ชื่อ อรุณะ ชื่อ เวฆนสะ ก็มาด้วยกัน

       เทวดาชื่อ โอทาตคัยหะ ผู้เป็นหัวหน้าเทวดา

       ชื่อ วิจักขณะ ก็มา

       เทวดาชื่อ สทามัตตะ ชื่อ หารคชะ และชื่อ มิสสกะผู้มียศ ก็มา

       ปชุนนเทวบุตร ซึ่งคำรามให้ฝนตกทั่วทิศ ก็มา

       หมู่เทวดา 10 เหล่านี้ เป็น 10 พวก ทั้งหมดล้วนมีรัศมีต่างๆกัน มีฤทธิ์ มีอานุภาพ มีรัศมี มียศ ยินดี มุ่งมายังป่าอันเป็นที่ประชุมของภิกษุ

       เทวดาชื่อ เขมิยะ เทวดาชั้นดุสิต เทวดาชั้นยามะ และเทวดาชื่อ กัฏฐกะ มียศ เทวดาชื่อ ลัมพิตกะ ชื่อ ลามเสฏฐะ ชื่อ โชตินามะ ชื่อ อาสา และเทวดาชั้น นิมมานรดี ก็มา

       อนึ่ง เทวดาชั้น ปรนิมมิตะ ก็มา

       หมู่เทวดา 10 เหล่านี้ เป็น 10 พวก ทั้งหมดล้วนมีรัศมีต่างๆกัน มีฤทธิ์ มีอานุภาพ มีรัศมี มียศ ยินดี มุ่งมายังป่าอันเป็นที่ประชุมของภิกษุ 

       หมู่เทวดา 60 เหล่านี้ ทั้งหมดล้วนมีรัศมีต่างๆ กัน มาแล้วโดยกำหนดชื่อและเทวดาเหล่าอื่นผู้เช่นกัน มาพร้อมกันด้วยคิดว่า

       เราทั้งหลายจักเห็นพระนาค ผู้ปราศจากชาติ ไม่มีกิเลสดุจตะปู มีโอฆะอันข้ามแล้ว ไม่มีอาสวะข้ามพ้นโอฆะ ผู้ล่วงความยึดถือได้แล้ว ดุจพระจันทร์พ้นจากเมฆฉะนั้น

       สุพรหม และ ปรมัตตพรหม ซึ่งเป็นบุตรของพระพุทธเจ้าผู้มีฤทธิ์ ก็มาด้วย

       สนังกุมารพรหม และ ติสสพรหม แม้นั้น ก็มายังป่าอันเป็นที่ประชุมของภิกษุ

       ท้าวมหาพรหม ย่อมปกครองพรหมโลก 1,000 ท้าวมหาพรหมนั้นบังเกิดแล้วในพรหมโลก มีอานุภาพ มีกายใหญ่โต มียศ ก็มา

       พรหม 10 พวก ผู้เป็นอิสระในพวกพรหม 1,000  มีอำนาจเป็นไปเฉพาะองค์ละอย่าง ก็มา

       มหาพรหมชื่อ หาริตะ อันบริวารแวดล้อมแล้ว มาในท่ามกลางพรหมเหล่านั้น

       เมื่อมารและเสนามาถึง พระศาสดาได้ตรัสกับพวกเทพ พร้อมทั้งพวกพรหมทั้งหมดผู้มุ่งมานั้นว่า

       ท่านจงดูความเขลาของมาร

       พญามารได้กล่าวว่า

       “พวกท่านจงมาจับเทวดาเหล่านี้ผูกไว้ ความผูกด้วยราคะ จงมีแก่ท่านทั้งหลาย พวกท่านจงล้อมไว้โดยรอบ อย่าปล่อยใครๆ ไป”

       พญามารบังคับเสนามาร ในที่ประชุมนั้นดังนี้แล้ว เอาฝ่ามือตบแผ่นดิน กระทำเสียงน่ากลัว เหมือนเมฆยังฝนให้ตก คำรามอยู่ พร้อมทั้งฟ้าแลบ เวลานั้น พญามารนั้นไม่อาจยังใครให้เป็นไปในอำนาจได้ โกรธจัด กลับไปแล้ว

       พระศาสดาผู้มีพระจักษุทรงพิจารณาทราบเหตุนั้นทั้งหมด แต่นั้น จึงตรัสแก่สาวกผู้ยินดีในพระศาสนาว่า 

       ภิกษุทั้งหลาย!  มารและเสนามาแล้ว พวกเธอจงรู้จักเขาไว้

       ภิกษุเหล่านั้นสดับพระดำรัสสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว ได้กระทำความเพียร พญามารและเสนามารหลีกไปจากภิกษุผู้ปราศจากราคะ ไม่ยังแม้ขนของท่านเหล่านั้นให้ไหว

       พญามารกล่าวสรรเสริญว่า “พวกสาวกของพระองค์ทั้งหมดชนะสงครามแล้ว ล่วงความกลัวได้แล้ว มียศปรากฏในหมู่ชนบันเทิงอยู่กับด้วยพระอริยเจ้า ผู้เกิดแล้วในพระศาสนา” ดังนี้แล   

* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) คัดมาจากหนังสือ พุทธวจน เรื่อง ภพภูมิ  /  หัวข้อใหญ่ : เทวดา  /  หัวข้อย่อย : ชุมนุมเทวดา  /  หัวข้อเลขที่ : 94  /  -บาลี มหา. ที. 10/287-296/235-246.  /  หน้าที่ : 354 , 355 , 356 , 357 , 358 , 359 , 360 , 361

- END -