พุทธวจน - คําสอนจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า
เรื่อง ละตัณหาได้ คือ ละเบญจขันธ์ได้
เรื่อง ละตัณหาได้ คือ ละเบญจขันธ์ได้
ราธะ! ความพอใจ ( ฉันทะ ) ก็ดี ความกำหนัด ( ราคะ ) ก็ดี ความเพลิน ( นันทิ ) ก็ดี ความอยาก ( ตัณหา ) ก็ดี มีอยู่ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขารทั้งหลาย ในวิญญาณ ใดๆ พวกเธอทั้งหลายจงละกิเลสนั้นๆเสีย
ด้วยการทำอย่างนี้ รูป เวทนา สัญญา สังขารทั้งหลาย วิญญาณนั้นๆ จักเป็นสิ่งที่พวกเธอละได้แล้ว เป็นสิ่งที่มีมูลรากอันตัดเสียแล้ว ทำให้เหมือนตาลยอดเน่า ทำให้มีอยู่ไม่ได้ ทำให้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้อีกต่อไป
ราธะ ! ความพอใจก็ดี ความกำหนัดก็ดี ความเพลินก็ดี ความอยากก็ดี กิเลสเป็นเหตุให้เข้าไปสู่ภพ ( อุปายะ ) ก็ดี และความยึดมั่น ( อุปาทาน ) ก็ดี อันเป็นเครื่องตั้งทับ เครื่องเข้าไปอาศัย และเครื่องนอนเนื่องแห่งจิต มีอยู่ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขาร ในวิญญาณ ใดๆ พวกเธอทั้งหลายจงละกิเลสนั้นๆ เสีย
ด้วยการทำ อย่างนี้ รูป เวทนา สัญญา สังขารทั้งหลาย วิญญาณ นั้นๆ จักเป็นสิ่งที่พวกเธอละได้แล้ว เป็นสิ่งที่มีมูลรากอันตัดเสียแล้ว ทำให้เหมือนตาลยอดเน่า ทำให้มีอยู่ไม่ได้ ทำให้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้อีกต่อไป
* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) คัดมาจากหนังสือ พุทธวจน เรื่อง ภพภูมิ / หัวข้อใหญ่ : นิพพาน / หัวข้อย่อย : ละตัณหาได้ คือ ละเบญจขันธ์ได้ / หัวข้อเลขที่ : 130 / -บาลี ขนฺธ. สํ. 17/236-237/375-376. / หน้าที่ : 461 , 462
- END -