พุทธวจน - คําสอนจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า
เรื่อง ทุกข์ที่เกิดจากหนี้
เรื่อง ทุกข์ที่เกิดจากหนี้
ภิกษุทั้งหลาย! ความยากจน เป็นทุกข์ของคนผู้บริโภคกามในโลก
ภิกษุทั้งหลาย! คนจนเข็ญใจไร้ทรัพย์สมบัติ ย่อมกู้หนี้ การกู้หนี้ นั้นเป็นทุกข์ของคนบริโภคกามในโลก
ภิกษุทั้งหลาย! คนจนเข็ญใจไร้ทรัพย์สมบัติ กู้หนี้แล้ว ต้องใช้ดอกเบี้ย การต้องใช้ดอกเบี้ย นั้นเป็นทุกข์ของคนบริโภคกามในโลก
ภิกษุทั้งหลาย! คนจนเข็ญใจไร้ทรัพย์สมบัติ กู้หนี้แล้ว ต้องใช้ดอกเบี้ย ไม่อาจใช้ดอกเบี้ยตามเวลา เจ้าหนี้ก็ทวง การถูกทวงหนี้ นั้นเป็นทุกข์ของคนบริโภคกามในโลก
ภิกษุทั้งหลาย! คนจนเข็ญใจไร้ทรัพย์สมบัติ ถูกทวงหนี้อยู่ ไม่อาจจะใช้ให้ เจ้าหนี้ย่อมติดตาม การถูกติดตาม นั้นเป็นทุกข์ของคนบริโภคกามในโลก
ภิกษุทั้งหลาย! คนจนเข็ญใจไร้ทรัพย์สมบัติ ถูกติดตามอยู่ ไม่อาจจะใช้ให้ เจ้าหนี้ย่อมจับกุม การถูกจับกุมนั้นเป็นทุกข์ของคนบริโภคกามในโลก
ภิกษุทั้งหลาย! ความยากจนก็ดี การกู้หนี้ก็ดี การต้องใช้ดอกเบี้ยก็ดี การถูกทวงหนี้ก็ดี การถูกติดตามก็ดี การถูกจับกุมก็ดี ทั้งหมดนี้ เป็นทุกข์ของคนบริโภคกามในโลก
ภิกษุทั้งหลาย ! ฉันใดก็ฉันนั้น ความไม่มีศรัทธา-หิริ-โอตตัปปะ-วิริยะ-ปัญญา ในกุศลธรรม มีอยู่แก่ผู้ใด เรากล่าวบุคคลผู้นั้นว่า เป็นคนจนเข็ญใจไร้ทรัพย์สมบัติ ในอริยวินัย
ภิกษุทั้งหลาย ! คนจนชนิดนั้น เมื่อไม่มีศรัทธา-หิริ-โอตตัปปะ-วิริยะ-ปัญญา ในกุศลธรรม เขาย่อมประพฤติ กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต เรากล่าว การประพฤติทุจริต ของเขานี้ว่าเป็นการกู้หนี้
เพื่อจะปกปิดกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริตของเขา เขาตั้งความปรารถนาลามก ปรารถนาไม่ให้ใครรู้จักเขา ดำริไม่ให้ใครรู้จักเขา พูดจาเพื่อไม่ให้ใครรู้จักเขา ขวนขวายทุกอย่างเพื่อไม่ให้ใครรู้จักเขา
เรากล่าวการปกปิดความทุจริตอย่างนี้ของเขานี้ว่าเป็น ดอกเบี้ยที่เขาต้องใช้
เพื่อนพรหมจารีผู้มีศีลเป็นที่รัก พากันกล่าวปรารภเขาอย่างนี้ว่า “ท่านผู้มีอายุนี้ทำ อะไรๆ ( ทุจริต ) อย่างนี้ มีปกติประพฤติกระทำ อะไรๆ ( ทุจริต ) อย่างนี้”
เรากล่าวการถูกกล่าวอย่างนี้ว่าเป็น การถูกทวงหนี้
เขาจะไปอยู่ป่าก็ตาม อยู่โคนไม้ก็ตาม อยู่เรือนว่างก็ตาม อกุศลวิตก อันลามกประกอบอยู่ด้วยความร้อนใจ ย่อมเกิดขึ้นกลุ้มรุมจิตใจเขา
เรากล่าว อาการอย่างนี้ว่าเป็น การถูกติดตามเพื่อทวงหนี้
ภิกษุทั้งหลาย! คนจนชนิดนี้ ครั้นประพฤติกาย–วจี–มโนทุจริตแล้ว ภายหลังแต่การตาย เพราะการแตกทำลายแห่งกาย ย่อม ถูกจองจำอยู่ในนรกบ้าง ในกำเนิดเดรัจฉานบ้าง
ภิกษุทั้งหลาย! เราไม่มองเห็นการจองจำอื่นแม้อย่างเดียวที่ทารุณอย่างนี้ เจ็บปวดอย่างนี้ เป็นอันตรายอย่างนี้ ต่อการบรรลุ โยคักเขมธรรม อันไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า เหมือนการถูกจองจำในนรก หรือในกำเนิดเดรัจฉานอย่างนี้
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
( คาถาผนวกท้ายพระสูตร )
ความยากจนและการกู้หนี้ ท่านกล่าวว่าเป็นความทุกข์ในโลก
คนจนกู้หนี้มาเลี้ยงชีวิต ย่อมเดือดร้อนเพราะเจ้าหนี้ติดตามบ้าง เพราะถูกจับกุมบ้าง
การถูกจับกุมนั้น เป็นความทุกข์ของคนบูชาการได้กาม
ถึงแม้ในอริยวินัยนี้ก็เหมือนกัน
ผู้ใดไม่มีศรัทธา ไม่มีหิริไม่มีโอตตัปปะ สั่งสมแต่บาปกรรม กระทำกายทุจริต-วจีทุจริต มโนทุจริต ปกปิดอยู่ด้วยการกระทำทางกาย ทางวาจา ทางจิต เพื่อไม่ให้ผู้ใดรู้จักเขา
ผู้นั้น พอกพูนบาปกรรมอยู่เนืองนิตย์ ในที่นั้นๆ
คนชั่วทำบาปกรรม รู้สึกแต่กรรมชั่วของตน เสมือนคนยากจน กู้หนี้มาบริโภคอยู่ ย่อมเดือดร้อน
ความตริตรึกที่เกิดจาก วิปฏิสาร อันเป็นเครื่องทรมานใจ ย่อมติดตามเขา ทั้งในบ้านและในป่า
คนชั่วทำบาปกรรม รู้สึกแต่กรรมชั่วของตน ไปสู่กำเนิดเดรัจฉานบางอย่าง หรือว่าถูกจองจำอยู่ในนรก
การถูกจองจำนั้นเป็นทุกข์ ชนิดที่ธีรชนไม่เคยประสบเลย
- - - - - - - - - - - - - - - - - - -
“ผู้ใดเห็นโทษ โดยความเป็นโทษ
แล้วทําคืนตามธรรม ถึงความสํารวมต่อไป
ข้อนี้เป็นความเจริญในอริยวินัยของผู้นั้น”
-บาลี สี. ที. 9/112/139.
* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) คัดมาจากหนังสือ พุทธวจน เรื่อง ฆราวาสชั้นเลิศ / หัวข้อใหญ่ : ฆราวาสชั้นเลิศ / หัวข้อย่อย : ทุกข์ที่เกิดจากหนี้ / หัวข้อเลขที่ : 7 / -บาลี ฉกฺก. อํ. 22/392/316. / หน้าที่ : 31 , 32 , 33 , 34 , 35 , 36
- END -