Thursday, April 8, 2021

การทำกรรมทางใดมีโทษมากที่สุด

 

พุทธวจน - คําสอนจากพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้า

เรื่อง การทำกรรมทางใดมีโทษมากที่สุด 

       ทีฆตปัสสีนิครนถ์ ได้กราบทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า

       ท่านพระโคดม !  พระองค์เล่าย่อมบัญญัติทัณฑะ ในการทำบาปกรรม ในการเป็นไปแห่งบาปกรรมไว้เท่าไร ? 

       ทีฆตปัสสี!  ตถาคตจะบัญญัติว่ากรรมๆ ดังนี้เป็นอาจิณ

       ท่านพระโคดม !  ก็พระองค์ย่อมบัญญัติกรรม ในการทำบาปกรรม ในการเป็นไปแห่งบาปกรรมไว้เท่าไร ? 

       ทีฆตปัสสี!  เราย่อมบัญญัติกรรม ในการทำบาปกรรม ในการเป็นไปแห่งบาปกรรมไว้ 3 ประการ คือ กายกรรม 1 วจีกรรม 1 มโนกรรม 1

       ท่านพระโคดม!  ก็กายกรรมอย่างหนึ่ง วจีกรรมอย่างหนึ่ง มโนกรรมอย่างหนึ่ง มิใช่หรือ ?

       ทีฆตปัสสี!  กายกรรมอย่างหนึ่ง วจีกรรมอย่างหนึ่ง มโนกรรมอย่างหนึ่ง

       ท่านพระโคดม!  ก็บรรดากรรมทั้ง 3 ประการ ที่จำแนกออกแล้วเป็นส่วนละอย่างต่างกันเหล่านี้ กรรมไหน คือ กายกรรม วจีกรรม หรือมโนกรรม ที่พระองค์บัญญัติว่ามีโทษมากกว่าในการทำบาปกรรม ในการเป็นไปแห่งบาปกรรม?

       ทีฆตปัสสี!  บรรดากรรมทั้ง 3 ประการ ที่จำแนกออกแล้วเป็นส่วนละอย่างต่างกันเหล่านี้ เราบัญญัติ มโนกรรม ว่ามีโทษมากกว่า ในการทำบาปกรรม ในการเป็นไปแห่งบาปกรรม เราจะบัญญัติ กายกรรม วจีกรรม ว่ามีโทษมากเหมือน มโนกรรม หามิได้ 

       ท่านพระโคดม !  พระองค์ตรัสว่ามโนกรรมหรือ ?

       ทีฆตปัสสี!  เรากล่าวว่า มโนกรรม

       ท่านพระโคดม !  พระองค์ตรัสว่ามโนกรรมหรือ ?

       ทีฆตปัสสี!  เรากล่าวว่า มโนกรรม

       ท่านพระโคดม !  พระองค์ตรัสว่ามโนกรรมหรือ ? 

       ทีฆตปัสสี!  เรากล่าวว่า มโนกรรม

       ทีฆตปัสสีนิครนถ์ให้พระผู้มีพระภาคทรงยืนยันในเรื่องที่ตรัสนี้ถึง 3 ครั้ง ด้วยประการฉะนี้ แล้วลุกจากอาสนะเข้าไปหานิครนถ์นาฏบุตรถึงที่อยู่

       ( จากนั้นได้มี อุบาลีคหบดี เข้ามาเพื่อสนทนาในเรื่องนี้ต่อจาก ฑีฆตปัสสีนิครณถ์ โดยยังมีความเห็นว่า กรรมทางกายมีโทษมากกว่ากรรมทางใจ และพระผู้มีพระภาคได้ยกอุปมา เพื่อให้เห็นเปรียบเทียบได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ดังนี้ ) 

       คหบดี!  ท่านจะสำคัญความข้อนี้เป็นอย่างไร ในบ้านนาลันทานี้ พึงมีบุรุษคนหนึ่งเงื้อดาบมา เขาพึงกล่าวอย่างนี้ว่า เราจักทำสัตว์เท่าที่มีอยู่ในบ้านนาลันทานี้ ให้เป็นลานเนื้ออันเดียวกัน ให้เป็นกองเนื้ออันเดียวกัน โดยขณะหนึ่ง โดยครู่หนึ่ง

       คหบดี!  ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นอย่างไร บุรุษนั้นจะสามารถทำสัตว์เท่าที่มีอยู่ในบ้านนาลันทานี้ ให้เป็นลานเนื้ออันเดียวกัน ให้เป็นกองเนื้ออันเดียวกัน โดยขณะหนึ่ง โดยครู่หนึ่งได้หรือ ?

       ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ!  บุรุษ 10 คนก็ดี 20 คนก็ดี 30 คนก็ดี 40 คนก็ดี 50 คนก็ดี ไม่สามารถจะทำสัตว์เท่าที่มีอยู่ในบ้านนาลันทานี้ ให้เป็นลานเนื้ออันเดียวกัน ให้เป็นกองเนื้ออันเดียวกัน โดยขณะหนึ่ง โดยครู่หนึ่งได้ พระเจ้าข้า บุรุษผู้ต่ำทรามคนเดียวจะเก่งกาจอะไรกันเล่า

       คหบดี!  ท่านจะสำคัญความข้อนี้เป็นอย่างไร สมณะหรือพราหมณ์ผู้มีฤทธิ์ ถึงความเป็นผู้ชำนาญในทางจิต พึงมาในบ้านนาลันทานี้ สมณะหรือพราหมณ์นั้น พึงกล่าวอย่างนี้ว่าเราจักทำบ้านนาลันทานี้ให้เป็นเถ้า ด้วยใจคิดประทุษร้ายครั้งเดียว

       คหบดี! ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นอย่างไร สมณะหรือพราหมณ์ผู้มีฤทธิ์ ถึงความเป็นผู้ชำนาญในทางจิตนั้น จะสามารถทำ บ้านนาลันทานี้ให้เป็นเถ้า ด้วยใจคิดประทุษร้ายครั้งเดียวได้หรือไม่หนอ?

       ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ!  บ้านนาลันทา 10 บ้านก็ดี 20 บ้านก็ดี 30 บ้านก็ดี 40 บ้านก็ดี 50 บ้านก็ดี สมณะหรือพราหมณ์ผู้มีฤทธิ์ ถึงความเป็นผู้ชำนาญในทางจิตนั้น ยังสามารถทำให้เป็นเถ้าได้ด้วยใจคิดประทุษร้ายครั้งเดียว แล้วบ้านนาลันทาที่ทรุดโทรมหลังเดียวคณาอะไรเล่า

       คหบดี!  ท่านจงมนสิการ ครั้นแล้วจงพยากรณ์คำหลังกับคำก่อนก็ดี คำก่อนกับคำหลังก็ดี ของท่าน ไม่ต่อกันเลย...

* * * ( ข้างบนนี้-ทั้งหมด ) คัดมาจากหนังสือ พุทธวจน เรื่อง แก้กรรม  /  หัวข้อใหญ่ : ประเภทของกรรม  /  หัวข้อย่อย : การทำกรรมทางใดมีโทษมากที่สุด  /  หัวข้อเลขที่ : 8  /  -บาลี ม. ม. 13/54/62.  /  หน้าที่ : 26 , 27 , 28 , 29

- END -